ทษช. ปราศรัยใหญ่ครั้งแรก คนฟัง 3 พัน “อ๋อย” ย้ำหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช. “เต้น” เชื่อต้องปราศรัยแตะ “ประยุทธ์” ได้ ไม่อยากเชื่อ “วิษณุ” ไร้หลักการ กล้าเล่นอึต่อหน้าชาวบ้าน ป้ายไปทุกองค์กร

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพฯ พรรคไทยรักษาชาติ ทษช. จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรค อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายประภัสร์ จงสงวน คณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำพรรค พร้อมผู้สมัคร กทม.ของพรรคทั้ง 8 เขต ร่วมเวทีปราศรัย

โดยไม่มีคณะกรรมการบริหารพรรคขึ้นเวที และบางส่วนมาให้กำลังใจสมาชิกพรรคในการปราศรัยครั้งนี้ อาทิ คณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค และนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช มารดา ของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค เดินทางมาให้กำลังใจพรรค ทษช.ด้วย ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัยกว่า 3000 คน ขณะที่แกนนำพรรคต่างสลับกันขึ้นเวทีปราศรัยเป็นช่วงๆ

นายจาตุรนต์ กล่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่า การปราศรัยในครั้งนี้ จะมีเนื้อหาต่อเนื่องจากที่เราได้พูดกับประชาชนมาตลอด คือนโยบายแก้ปัญหาประเทศ เราจะพูดให้เห็นถึงความจำเป็นในการหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. หยุดยั้งการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ และการสร้างประชาธิปไตย รวมถึงเหตุใดที่ประชาชนต้องเลือกพรรค ทษช.

ทั้งนี้ จะไม่มีการพูดถึงกรณีการยุบพรรคทษช. ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นในแง่มุมใดๆ จะไม่มีการคาดการณ์หรือให้เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีคำถามก็จะไม่มีความเห็น ซึ่งเราได้ดำเนินการมาตลอดและจะเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไป

แตะ บิ๊กตู่ คนสาธารณะได้

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวถึงการหาเสียงของพรรค ทษช. ว่า ขณะนี้ผู้สมัครหลายเขตอยากให้แกนนำไปพบประชาชนในหลายพื้นที่ ดังนั้นวันที่ 2 มี.ค. เวลา 14.00 น. เราจะไปพบประชาชนที่ตลาดสามชุก จ.สุพรรณบุรี วันที่ 3 มี.ค. เวลา 08.30 น. พบปะประชนที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ส่วนวันที่ 4 มี.ค. จะลงพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ และอาจจะมีเวทีปราศรัยระดับเขตเลือกตั้ง

จากนั้นวันที่ 5 มี.ค.จะปราศรัยที่จ.พังงาและภูเก็ต ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา ประชาชนให้การตอบรับผู้สมัครของเราเป็นอย่างดี เมื่อฝ่ายรณรงค์หาเสียงและแกนนำลงพื้นที่ เราสื่อสารแต่เรื่องนโยบาย แนวทางการแก้ปัญหา และความไม่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น

เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ร่วมเวทีดีเบตได้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ออกมาช่วยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หาเสียง ยิ่งเป็นงานง่ายของพรรคฝั่งประชาธิปไตย ทั้งนี้ ตนเคยพูดไว้แล้วว่าช่วงโค้งสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาช่วยขึ้นเวทีปราศรัยในนามพรรค พปชร. ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล

เราอยากเห็นภาพนั้น อยากเห็นการต่อสู้แบบเปิดเผย ตรงไปตรงมาภายใต้กระบวนการประชาธิปไตย

การปราศรัยของทุกพรรคการเมือง เราย่อมจะต้องสามารถแตะต้อง พล.อ.ประยุทธ์ได้ หน่วยงานความมั่นคงต้องยุติ การประกบและการติดตามพรรคการเมือง หรือการมีปฏิกริยาเมื่อพูดถึงพล.อ.ประยุทธ์โดยทันที เพราะท่านเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ

ฉะ ‘วิษณุ’ เลอะเทอะต่อหน้าประชาชน

ขณะเดียวกันขอเรียกร้องไปยังฝ่ายบ้านเมือง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานให้ติดตามพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างใกล้ชิด เพราะการที่บุคคลซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปนั่งในทำเนียบรัฐบาล บางวันแต่งเครื่องแบบของทางราชการ ตนว่าจะมีปัญหา กลายเป็นคนปลอมแปลงตนเป็นเข้าหน้าที่ของทางราชการหรือไม่อย่างไร

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นวันนี้เป็นการสะท้อนความเหลวแหลกของประเทศ เมื่ออำนาจเผด็จการต้องการสืบทอดอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงหลักการใดๆ ขณะที่คำอธิบายของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ไม่ได้เรียกว่าหลักกฎหมาย หรืออภินิหารทางกฎหมาย แต่เป็นคำอธิบายที่พยายามช่วย พล.อ.ประยุทธ์อยู่

การเป็นหรือไม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คือการเล่นอุจจาระต่อหน้าประชาชน นึกไม่ถึงที่นักกฎหมายอย่างนายวิษณุจะออกมาเล่นอุจจาระต่อหน้าประชาชนได้มากมายขนาดนี้ นี่คือความเลอะเทอะ ซึ่งจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นให้ กกต.ตีความเรื่องความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เข้าใจว่ามีผู้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะ กกต.ควรจะวินิจฉัยโดยเร็ว ตนค่อนข้างเชื่อว่า กกต.จะวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นอย่างที่นายวิษณุทำทางไว้ให้แล้ว ซึ่งก็จะกลายเป็นว่าอุจจาระที่นายวิษณุนั่งเล่น ก็จะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปยังทุกคน ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน