บิ๊กตู่ มาแน่! เวทีโคราช ‘สนธิรัตน์’เชื่อกระแสแฟนคลับพุ่ง เมินคำเตือน‘สดศรี’

บิ๊กตู่ – วันที่ 4 มี.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรค ที่มีข่าวว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่จ.นครราชสีมา ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับทีมงานของนายกฯ ว่าจะสะดวกในวันที่ 10 มี.ค.นี้หรือไม่ และมีความเป็นไปได้ที่นายกฯจะมาตามคำเชิญในวันดังกล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า รูปแบบของพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็น 2 ลักษณะคือ อยากให้ลงพื้นที่พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.เพื่อพบปะกับประชาชน และการขึ้นเวทีปราศรัยตามกำหนดที่พรรคได้วางกรอบไว้ โดยหัวข้อและสาระสำคัญของการปราศรัย ได้ดูข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ ให้อยู่ในกรอบที่กกต. ตอบกลับมายังพรรค

ส่วนจะพูดได้มากน้อยแค่ไหนให้รอฟังในวันที่ 10 มี.ค.นี้ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จะไปจังหวัดไหนต่อนั้น พรรคจะกำหนดและวางยุทธศาสตร์ก่อนว่าหลังจากวันที่10 มี.ค. ที่ จ.นครราชสีมา มีกระแสตอบรับอย่างไรบ้าง

เมื่อถามว่าพรรคเตรียมการด้านกฎหมายเพื่อรองรับการถูกร้องเรียนกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ ไว้อย่างไรบ้าง เลขาธิการพปชร. กล่าวว่า พรรคได้ศึกษาข้อกฎหมาย พบว่ามีสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้ ซึ่งประเด็นนี้จะเป็นกรอบที่พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้สื่อสาร

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เตือนถึงข้อควรระวังต่างๆ เลขาธิการพปชร. กล่าวว่า เรารับฟังและนำความเห็นมาพิจารณาเพื่อกำหนดกรอบที่พล.อ.ประยุทธ์ จะดำเนินการทางการเมือง

เมื่อถามย้ำว่าพรรคกังวลหรือไม่ที่นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกกต. แสดงความเป็นห่วงกับการขึ้นเวทีและมีการเตรียมจัดคนไปฟังปราศรัยของนายกฯ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ในบทบาทของนายกฯว่าทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งพรรคก็รับฟังรอบด้านและมาใช้ดำเนินการ มั่นใจว่าสิ่งพรรคทำอยู่ภายใต้กฎหมาย

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาช่วยปราศรัย จะช่วยเพิ่มความนิยมของพรรคได้แค่ไหน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่รักของประชาชน การมาสื่อสารพบปะประชาชนโดยตรงในฐานะแคนดิเดตนายกฯ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยมีโอกาสแบบนี้มาก่อน จึงเข้ามาเพิ่มเติมในจุดที่ขาดไปของพรรค ย่อมจะเป็นประโยชน์กับพรรคและพล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นบุคคลที่พรรคมีความหวังว่าจะเป็นแกนนำและเป็นนายกฯคนต่อไป ช่วงเวลาที่เหลือพรรคมีแผนยุทธศาสตร์ โดยดูสถานการณ์ทางการเมืองประกอบด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และต้องปรับในเรื่องใดบ้าง