กระจ่างสักที!! ‘ขรรค์ชัย’ ไขข้อสงสัย ‘ARE BEEN’ แกรมม่าผิด ขัดใจคนอ่าน
ขัดใจคนอ่าน – ทำเอาอึ้ง!! กันไปตามๆ กัน กับป้ายหาเสียงของ นายขรรค์ชัย แก้วเนตร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังปวงชนชาวไทย ที่ร่ายยาววิสัยทัศน์ และแนะตัว ด้วยภาษาอังกฤษ จนเด่นสะดุดตาประชาชนที่เดินผ่านไปมา ก่อนส่งต่อกันไปบนโลกโซเชียล และวิพากษ์วิจารณ์จับผิดการใช้ภาษาอังกฤษที่มีบางส่วนผิดหลักไวยากรณ์ และภาพตัวผู้สมัครที่เหมือนจะหลุดโฟกัสจนทำให้ภาพเบลอ
เพื่อไขข้อสงสัยดังกล่าว ข่าวสดออนไลน์จึงเชิญ นายขรรค์ชัย แก้วเนตร มาชี้แจงในประเด็นต่างๆ แบบเจาะลึก
นายขรรค์ชัย เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังปวงชนชาวไทย ที่มี ‘พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร’ ประธานที่ปรึกษาพรรค การก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองของนั้น ตนมองว่า การเมืองเป็นเรื่องง่าย ปัญหาที่เกิดขึ้นความจริงใช้เวลาแก้ปัญหาไม่นาน มันคล้ายกับการทำงานบริษัท ยกตัวอย่างว่าให้คุณทำงาน 1 ชิ้น ซึ่งใช้เวลามา 5 ปี หรือ 10 ปี ก็ยังไม่เสร็จ เราคิดว่ามันไม่ยาก จึงเข้ามาทำงานการเมือง ยิ่งตนศึกษาข้อมูลลึกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้น
ตนจบการศึกษา Creative จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ขณะนี้ทำงานเป็น Creative Consultant ของบริษัทเอกชนระหว่างประเทศ ก่อนมีผู้ใหญ่ชักชวนให้มาเล่นการเมือง คือ ตนสนิทกับทั้งฝ่ายทหาร และฝ่ายชินวัตร แต่ครั้งนี้เข้ามาเล่นการเมืองแบบปัจเจกบุคคล เข้ามาโดยไร้เส้นสาย และไม่อยู่ภายใต้ใคร
นายขรรค์ชัย เปิดเผยว่า เราต้องทำการเมืองให้เป็นเรื่องง่ายก่อน หากลองไปดูการเมืองที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ทุกวันนี้ เราก็จะพบแต่เรื่องการเมืองแบบเก่า หากใครได้จัดตั้งรัฐบาล ก็พูดกันแต่เรื่องม็อบ 10 ปีผ่านมา ก็ไม่มีอะไรที่ใหม่เลย ขนาดดูดีเบตของพรรคการเมืองต่างๆ ก็พูดแต่เรื่องเก่า และโจมตีกันไปมา ไม่เคยพูดถึงผลลัพธ์ของนโยบาย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ปัจจุบันการเมืองไทยขาด Young Blood และขาดคนที่มีศักยภาพ กล่าวให้เข้าใจก็คือ จะมีคนออกนโยบายที่เป็นผู้ใหญ่ โดยมีประชาชนเป็นผู้รับผลการกระทำ แต่คนที่อยู่ระหว่างกลางไม่มี คือ มีคนสั่ง และประชาชน สุดท้ายคนเป็นนายกรัฐมนตรีก็สั่งงาน แต่ไม่มีคนทำงาน การทำงานของรัฐบาลในปัจจุบันเป็นเพียงการเข้ามาบริหารภาษีของประชาชน ตนอยากจะถามว่า คุณเข้าไปเป็นรัฐบาลทำไม มันไม่ใช่การบริหารประเทศที่แท้จริง ที่เราอยู่ได้ทุกวันนี้คือ เอกชนทำงานให้ เพราะพวกเขาจ่ายภาษีให้คุณ แล้วคุณก็เข้ามาบริหารภาษีเขา แบบนี้ใครๆ ก็ทำได้
“หากเป็นแบบนี้ก็จ้างพนักงานการเงินมาบริหารภาษีก็ได้ ซึ่งการลงพื้นที่ของผู้สมัครส.ส. หลายคนก็ยังไปถามประชาชนด้วยคำถามเดิมๆ ว่า ‘ต้องการอะไร’ คือ มันเป็นการเมืองที่น่าเบื่อ และก็ได้คำตอบแบบเดิมๆ” นายขรรค์ชัย กล่าว
ป้ายหาเสียงภาษาอังกฤษของตน มันเป็นกลยุทธ์เชิงลึกมาก จากการทำรีเสิร์ชประชาชนในยุค 4.0 พบว่าคนมีขยะทางความคิดเยอะมาก เพราะมีสมาร์ทโฟน ที่สามารถถ่ายทอดข้อมูลให้แก่คนได้ง่าย หากมีอะไรมากระตุ้นเรานิดหน่อย เราก็จะตอบสนองกลับเร็วมาก ตนจึงยอมเป็นที่ทิ้งขยะให้ เพราะตนค่อนข้างเพียบพร้อมด้านศักยภาพ และมีความอดทนอดกลั้น ตนเป็นนักโฆษณา ที่เลือกทำให้แกรมม่าที่ง่ายที่สุดมันผิด และเป็นจุดเดียวที่ผิด (ARE BEEN) ถือเป็น Viral Marketing ที่ตั้งใจทำป้ายหาเสียง ให้เกิดกระแสแชร์ในโลกโซเชียล
นายขรรค์ชัย เปิดเผยว่า โดยป้ายหาเสียงของตนจะนำเสนอใน 3 ประเด็นหลักเรื่องสิ่งที่ผู้นำต้องมี คือ 1.ศักยภาพ ความสามารถ 2.ความคิดสร้างสรรค์ และ3.ความรับผิดชอบ จะเห็นว่า สิ่งใหม่ไม่เกิดขึ้นในประเทศไทยเลย เพราะคนไม่กล้าทำสิ่งใหม่ ตนจึงตัดสินใจทำป้ายหาเสียงเป็นภาษาอังกฤษ มันสะท้อนว่าเราสามารถทำสิ่งใหม่ที่สามารถจับต้องได้ และอีกไม่นานก็จะเฉลยจุดประสงค์แคมเปญป้ายหาเสียงนี้ ตนวางกลยุทธ์ป้ายหาเสียงนี้ เพื่อให้ขวนขวายไปมองชื่อพรรค ที่เป็นภาษาไทย และงบประมาณการทำโฆษณาของพรรคเราต่ำ จึงโยงมาถึงเรื่องหากตนได้เป็นรัฐบาลการบริหารงบประมาณก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นนักการเมืองที่ลงทุนกับป้ายต่ำที่สุด เป็นการตอบโจทย์ในเรื่องการทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนเรื่องภาพหลุดโฟกัส จนดูเหมือนภาพเบลอนั้น ก็เป็นความตั้งใจของตนเช่นกัน
ครั้งนี้ไม่คาดหวังที่จะประสบความสำเร็จในเส้นทางการเมืองเลย แต่หากถูกเลือกเข้าไปจริงๆ ก็คิดว่าคงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแค่จุดเล็กๆ เพราะเราไม่มีอำนาจมากพอ การเลือกตั้งครั้งนี้ตนมองว่า สุดท้ายการเมืองไทยก็จะกลับไปเหมือนเดิม หากดูที่ผลลัพธ์ที่สามารถจับต้องได้ จะมีเพียงคนกลุ่มบนที่ดีขึ้น แต่คนจนจะจนเยอะมาก สุดท้ายมันก็จะไปจบที่การบริหารจัดการ
“ยุคนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนเจนเนอร์เรชั่น รูปแบบการเมืองจึงเปลี่ยนแปลงไปด้วย เกือบทุกคนมีสมาร์ทโฟน และสามารถเข้าถึงข่าวสารข้อมูลได้ตามต้องการ การตัดสินใจจึงอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่รับรู้ ครั้งนี้อยากแนะนำประชาชนให้ลองเลือกพรรครุ่นใหม่ เพราะอาจจะมีความหวังในการเปลี่ยนแปลงบ้างก็ได้” นายขรรค์ชัย กล่าว
