พรรคมหาชน ดึงพิธีกร-เน็ตไอดอล ตั้งเป้าโกยเสียงกลุ่มเพศทางเลือก ดันกม.คู่ชีวิต

พรรคมหาชน – เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด ถนนรัชดา กทม. นายอภิรัต ศิรินาวิน หัวหน้าพรรคมหาชน พร้อมผู้สมัครส.ส. แถลงข่าวเปิดตัวนโยบาย และผู้สมัครก่อนการเลือกตั้ง เปิดนโยบายชู “สิทธิ์เพศหลากหลาย” ผลักดัน ให้หยุดการเลือกปฏิบัติ ส่งเสริมความเท่าเทียมสังคม พร้อมชูนโยบาย SME รับไทยแลนด์ 4.0 หลังพบไม่ได้รับการส่งเสริมให้ถูกต้องตามหลักกฏหมาย มหาชนเป็นภาพขนาดเล็กไม่มีนโยบายครอบคลุมทุกด้านพัฒนาจึงไม่ต้องใช้เวลายาวนานมากนัก

นายอภิรัต กล่าวว่า พรรคของเราเป็นพรรคขนาดเล็ก ไม่มีเงินทุนช่วยหาเสียงมากนัก การเปิดตัวและการหาเสียงจึงไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับพรรคอื่น หากใช้เวลาเท่ากับพรรคอื่นนั้นก็หมายความว่าต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก อีกทั้งนโยบายและแนวทางของพรรคก็เป็นแบบเฉพาะ มีฐานเสียงเป้าหมายแบบเจาะจงหรืออาจเรียกว่า Niche Market

นายอภิรัต กล่าวอีกว่า นโยบายของพรรคมี 3 เรื่อง คือ 1.นโยบาย การส่งเสริมการเป็นประชาธิปไตย 2.นโยบายของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจากการสำรวจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ พบว่ามีอยู่ประมาณ 6-7 ล้านเสียง ซึ่งเป็นฐานเสียงเป้าหมาย 3.นโยบายส่งเสริมและผลักดัน ธุรกิจ SME ออนไลน์ เพราะปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมาก

“ความหวังในการเลือกตั้งครั้งนี้ ฐานเสียงของกลุ่มเพศหลากหลาย มีอยู่ 6-7 ล้านเสียง หากลงคะแนนให้พรรคเรา 10% หรือประมาณ 5 แสนเสียง หรือ 1 ล้านเสียง ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะเท่ากับเราจะได้ ส.ส. 6-7 ที่นั่ง เพียงพอจะมีบทบาท และดำเนินการอย่างหนึ่งตามนโยบายพรรค ซึ่งผู้สมัครของพรรค เป็นกลุ่มทางเพศหลากหลาย ที่มีบทบาทในสังคม ความงาม กีฬา และธุรกิจ”หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าว

สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าว มีการเปิดตัว ผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มเพศทางเลือก ทั้งแบบเขต และ บัญชีรายชื่อ อย่าง นายพาลินี งามพริ้ง หรือพอลลีน อดีตแกนนำกลุ่มเชียร์ไทยพาวเวอร์ และอดีตผู้ท้าชิงนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศ พร้อมเป็น 1 ในแคนดิเดตบัญชีรายชื่อของพรรค รวมถึง นายวรินทร วัตรสังข์ หรือ แอนนา ทีวีพูล หรือ จิมมี่ น.ส.กฤตธีพัฒน์ โชติฐานิตสกุล เน็ตไอดอล ผู้ชายข้ามเพศ ร่วมแถลง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

โดยขอโอกาสสังคม อย่ามองว่าสวยหล่อ ไปวันๆ หรือเป็นตัวตลก แต่สามารถทำเพื่อสังคมได้ จึงตัดสินใจมาลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะการเกิดมาเป็น LGBT มักถูกกีดกันจากการทำงาน ถือเป็นพลเมืองชั้น 2 ดังนั้น ทางกลุ่มไม่สามารถหลีกหนีจากการเมืองได้ แม้ที่ผ่านมาจะเฝ้ารอรัฐบาลหันมาสนใจในประเด็นดังกล่าว เพราะอคติในสภาของผู้แทนชายจริง หญิงแท้ และไม่กล้ายกเสียงให้ในสภาผ่านกฎหมาย

ดังนั้น วันนี้จึงจำเป็นจะต้องมี กลุ่มเพศหลากหลายเข้าไปในสภา พิทักษ์สิทธิ์คนหลากหลายทางเพศด้วยกัน อย่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่รอมา 8 ปีแล้ว ซึ่งคาดว่าก็ยังคงไม่ผ่านในรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้นจึงต้องเข้ามาขับเคลื่อน สำหรับเพศหลากหลาย ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ