อดีตแกนนำ ทษช. ประกาศเดินหน้าต่อ ตั้งกลุ่ม-เปิดเวทีปราศรัย 4 ภาค แฉคสช.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่ โรงแรมรอยัลปริ้นส์เซส อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) นำโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงแนวทางการเมืองในอนาคต หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ยุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า วันนี้พวกเราเป็นอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะยุติบทบาททางการเมือง เรามาร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติได้ประมาณ 3-4 เดือน ด้วยความตั้งใจอยากจะให้พรรคไทยรักษาชาติเป็นเพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ในการ ทำให้เกิดประชาธิปไตยขึ้นในบ้านเมือง หวังว่าจะช่วยกันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. หรือ อำนาจเผด็จการ ส่งเสริมให้มีการตั้งรัฐบาล แบบประชาธิปไตยมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
แต่น่าเสียดาย ที่พรรคไทยรักษาชาติ ถูกยุบและต้องยุติบทบาทลงไป เมืองพรรคถูกยุบ สมาชิกที่สมัคร ก็จะหมดสถานะ เหลือสถานะเป็นประชาชนหรือ นักการเมืองที่ไม่สังกัดพรรค ซึ่งหลักจากนี้ผู้สมัครส่วนใหญ่ อยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือว่าจะมีบทบาท หน้าที่ของตนเองอย่างไร เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้เป็นผู้สมัคร แต่เราจะดำรงจุดมุ่งหมายที่มีมา และจะหาช่องทางการเมือง เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่มีอยู่
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า จากนี้ไปจะมีการเปิดเวที เพื่อสื่อสารกับประชาชน โดยใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้ประชาชน ได้รับรู้ โดยหลังจากนี้การดำเนินกิจกรรมต่อไปนี้ จะมีเสียงเรียกร้องให้เราไปสนับสนุนพรรคการเมืองใด เราจะมีการประเมิณกันต่อไป เพราะเราไม่ได้เป็นผู้สมัครการเลือกตั้งแล้ว จะต้องศึกษากฎของ กกต. หรือข้อจำกัดของกฎหมาย ให้ถี่ถ้วนก่อน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความจำเป็น
สำหรับการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคว่าเป็นความผิดพลาดของพรรคหรือไม่ นั้น ตนขอไม่ออกความคิดเห็น เนื่องจากตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด ส่วนการเปิดเวทีก็จะไม่มีการพูดชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับการยุบพรรค แต่จะพูดเรื่องการใช้อำนาจ ความเอาเปรียบ และการแทรกแซงสื่อ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แม้เส้นทางของพรรคไทยรักษาชาติจะยุติลง แต่เส้นทางการต่อต้านการสืบทอดอำนาจและเอาประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศไทย ยังไม่ยุติ ยังคงเดินหน้าต่อไป จากนี้เราจะรวมตัวกัน ไม่ได้เป็นการรวมตัวของกลุ่มบุคคล แต่เป็นการรวมตัวเพื่อภารกิจต่อต้านอำนาจ ชื่อว่า “กลุ่มภารกิจก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย”
จะออกเปิดเวที พูดคุยกับพี่น้องประชาชน ในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ และ ความเป็นอยู่ของประชาชน อย่างน้อย 4 เวที ใน 4 ภูมิภาค อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการตอบรับของประชาชน และความเหมาะสม ในส่วนของเวลาจะแจ้งให้ทราบภายหลัง หวังว่าพี่น้องประชาชนที่ให้สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ จะตอบรับภารกิจนี้และสนันสนุนพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า กรณีการเลือก ส.ว. ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานสรรหา นั้นมองว่า เป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญที่แสดงออกในช่วงเลือกตั้ง ตั้งแต่การเลือกประธานสรรหา และเริ่มเปิดชื่อผู้ที่มาเป็นสว.แล้ว ก็เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งนี้เป็นไปไม่ได้ที่คะแนนจะไม่มาสนับสนุนผู้นำ คสช. ซึ่งก็จะทำให้ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.ได้เปรียบคนอื่นๆ ทั้งนี้ก็ทำให้ประชาชนตัดสินใจ
“เราเชื่อมั่นว่าคะแนนของประชาชน เอาชนะกติกาของฝ่ายเผด็จการได้ หากประชาชนพร้อมใจกันเลือกพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ก็ไม่มีใครขวางกั้นได้ เรายังสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นพรรคประชาธิปไตย หากย้อนกลับไปได้ เรายังคงอยู่พรรคไทยรักษาชาติเราเสียดายที่พรรคถูกยุบ แต่เราไม่เสียดาย ที่เราอยู่พรรคนี้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
