อนาคตใหม่ จ.แพร่ แถลงโต้ ‘วรวัจน์’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ทษช. รณรงค์โหวตโน
สาดโคลนหยามพรรคอื่น

จากกรณี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และนพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ต่อมานายวรวัจน์ และนพ.ทศพร จึงย้ายไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จากนั้นได้มีการออกมารณรงค์ให้โหวตโน โดยกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หากคะแนนโหวตโนมากกว่าคะแนนของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ และผู้สมัคร ส.ส. ที่ได้คะแนนแพ้โหวตโน จะไม่สามารถลงสมัครได้อีก ซึ่งจะทำให้ นายวรวัจน์ และนพ.ทศพร สามารถเข้าเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ในการจัดเลือกตั้งครั้งใหม่

ล่าสุดวันที่ 12 มี.ค. นายวรวัจน์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย ถึงการปลุกกระแสโหวตโน จ.แพร่ ว่า เนื่องจากผู้สมัครที่เหลืออยู่เป็นเพียงมวยแทน ไม่ใช่ผู้แทนประชาชน ทั้งฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายเผด็จการ โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นกลุ่มอิทธิพลจะชนะเลือกตั้ง

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ทำไมถึงไม่เทคะแนนให้พรรคในซีกประชาธิปไตย นายวรวัจน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติเป็นคนหน้าใหม่ไม่มีใครรู้จัก ส่วนพรรคอนาคตใหม่ถูกพรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครเป็นสปายมาลงสมัครในเขต 1 และเขต 2 อ่อนสุดๆ พรรคเสรีรวมไทยก็อ่อน และผู้สมัครมีปัญหากับชาวบ้านจึงยากที่จะต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็หน้าใหม่มาก ทำให้ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคต่างๆ ใน จ.แพร่ เกิดความไม่พอใจที่ถูกกล่าวหา

ต่อมา ศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่จังหวัดแพร่ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่อง คัดค้านการกล่าวโทษและสาดโคลนน้ำเน่าของบุคคลที่นิยมการเมืองน้ำเน่า โดยระบุว่า ด้วยเหตุที่มีนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลในจังหวัดแพร่คนหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ต่อ “หมาแก่แมวสาว” ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย ผู้ทรงอิทธิพลบางคนดังกล่าวได้สร้างกระแส และเผยแพร่ทรรศนะที่สร้างความสับสนต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย

ความว่า ผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ใน 2 เขตเลือกตั้งมีความสามารถต่ำอ่อนหัดทางการเมือง และเป็นบุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งเข้ามาแทรกแซงในพรรคอนาคตใหม่ ข้อความการให้สัมภาษณ์ของบุคคลดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อพรรคอนาคตใหม่ จึงขอคัดค้าน 3 ทรรศนะ ดังนี้

1.ขอคัดค้านอย่างถึงที่สุด ต่อทรรศนะของบุคคลดังกล่าว ที่มองพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ทั้ง 26 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ในเขตเลือกตั้งจังหวัด แพร่ อย่างไม่เสมอภาคและเท่าเทียมกัน

2.ขอคัดค้านอย่างถึงที่สุด ต่อการดูถูกเหยียดหยาม และไม่เชื่อมั่นต่อศักยภาพและอำนาจในการตัดสินใจของประชาชนชาวจังหวัดแพร่

3.ขอคัดค้านอย่างถึงที่สุด ต่อกระบวนทรรศนะการเมืองน้ำเน่าแบบเก่า ที่นิยมการสาดโคลนใส่กัน เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ผู้อื่น และขอชี้แจงต่อข้อกล่าวหาของผู้ทรงอิทธิพลดังกล่าว ซึ่งได้กล่าวโทษต่อผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง

โดยชี้แจงข้อเท็จจริง 3 ประการ ดังนี้ 1.พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันการเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีความเท่าเทียมกัน ของพรรคการเมืองและผู้สมัครทุกพรรคการเมืองใน 2 เขตเลือกตั้งจังหวัดแพร่ ทั้ง 27 พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครส.ส.จำนวน 53 ผู้สมัคร 2.พรรคอนาคตใหม่ เคารพและยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ตามวิถีประชาธิปไตย

และ3.พรรคอนาคตใหม่ ขอยืนยันว่า คุณเอกการ ซื่อทรงธรรม ผู้สมัคร ส.ส. เขต1 และคุณกฤติดนัย สันแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เป็นตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่ จ.แพร่ ซึ่งผ่านการลงประชามติเบื้องต้นจากสมาชิกพรรคฯ ในเขตเลือกตั้ง(ไพรมารีโหวต) ได้รับการรับรองจากที่ประชุมสมาชิกพรรคฯ ใน จ.แพร่ ได้รับการรับรองจากคณะทำงานพรรคฯจังหวัดแพร่ และโดยการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารพรรคฯ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ดังนั้น จึงเป็นผู้สมัครส.ส.ในนามพรรคอนาคตใหม่อย่างชอบธรรม เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและผ่านกระบวนการสรรหาของพรรคมาอย่างรอบคอบแล้ว ไม่ได้เป็นผู้มีความสามารถต่ำ อ่อนหัดทางการเมือง ไม่ได้เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ที่หมกเม็ดมาอยู่ในพรรคอนาคตใหม่ ตามที่ถูกกล่าวหาสาดโคลนแต่ประการใด

ต่อกรณีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนดังกล่าว ฝ่ายกฎหมายของพรรคฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบ หากเห็นว่ามีพฤติการณ์ใดที่เป็นเท็จและก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคอนาคตใหม่ จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน