“มาร์ค” ตอก สมคิด” กล่าวหาบอยคอต หลังประกาศไม่หนุน “บิ๊กตู่” ยันตรงไปตรงมาตามหลักสากล โวทำหุ้นขึ้นด้วยซ้ำ ไม่หวั่นโดนถล่ม ขู่หากใครบิดเบือนถือว่าผิดกม.เลือกตั้ง จี้ กกต.จัดการ

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.เวลา 13.00 น. ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้านพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การประกาศจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ว่า นี่หุ้นขึ้นมา 2 วันแล้ว

คิดว่าที่นักลงทุนเป็นห่วงมากกว่าคือ ถ้ามองจากสากลเขาต้องการเห็นการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม เสรี เป็นธรรม ต้องการเห็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากเสียงของประชาชนมากกว่า เพราะถ้าไม่เคารพเสียงของประชาชนแล้ว ความขัดแย้งจะเกิดขึ้น

ดังนั้น ต้องพูดตามข้อเท็จจริง สิ่งที่ตนประกาศ ตนว่าสากลเข้าใจดี เพราะเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองในระดับสากลพึงกระทำอยู่แล้ว ฉะนั้น คิดว่าคงเป็นคนละเรื่องกัน และสิ่งที่เราทำมากกว่าขณะนี้ คือเราได้ฉายภาพให้เห็นว่า 10 จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น สร้างความเชื่อมั่นในการปรับโครงสร้างคืออะไร ซึ่งได้รับการขานรับอย่างดี ว่ามีความชัดเจนมากขึ้นในทิศทางของเศรษฐกิจไทย ซึ่งพรรคแถลงครบถ้วนแล้วตรงนี้ต่างหากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน

ส่วนที่่ นายสมคิด ระบุว่าการที่นายอภิสิทธิ์ ไม่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเป็นนักบอยคอต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมาแบบาสากล คำพูดของนายสมคิดเสียอีก ที่บอกว่า “ถ้าไม่ให้เลือกตั้งก็ได้” สะท้อนตัวตนของท่านมากกว่า

ตนไม่ทราบว่าเป็นการดิ้นของคนที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ แต่คำพูดอีกหลายอย่างก็ไม่เป็นความจริง ที่บอกว่าท่านมาฟื้นเศรษฐกิจตอนรัฐบาลประชาธิปัตย์ สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ก็ฟื้นเศรษฐกิจจนไม่เป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ ทำให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นบวก หยุดกู้เงิน

แต่ปีแรกที่นายสมคิดมาบริหารเสียอีก อัตราการเจริญเติบโตลดลง วิกฤติรอบ 2 ที่เกิดขึ้น ช่วงสมัยตนเป็นนายกฯ เราก็ฟื้นเร็วที่สุดในภูมิภาค มียุคนี้ยุคเดียวที่ไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจจากภายนอก แต่คนจนเพิ่มขึ้นในประเทศ ซึ่งเป็นสถิติที่มีการพูดถึงกันมาก ฉะนั้นเอาความจริงมาพูดกันดีกว่า

เมื่อถามต่อว่ารู้สึกว่าโดนถล่มหรือไม่หลังประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดา มีทั้งที่ใส่ร้าย เช่น ใส่ร้ายว่าพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งชี้แจงไปชัดแล้ว ความจริงถ้าใครพูดต่อจากนี้ไปก็ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะบิดเบือนข้อเท็จจริง

เมื่อถามย้ำว่าเมื่อมีการบิดเบือนจะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย แต่ทำไมทุกคนไม่พูดความจริงให้จบเรื่อง เพราะตนพูดแต่ความจริงอยู่แล้ว ไม่ได้ไปพาดพิงใคร และตอนนี้เมื่อชัดเจนแล้ว คนที่เอาไปพูดคงอ้างไม่ได้ว่าไม่รู้ หากพูดไม่จริงจากนี้ไปจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง กกต.ต้องเข้ามาดูแล

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ที่พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่บ่อยในช่วงโค้งสุดท้าย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่มีปัญหา ตนไม่ขอตั้งข้อสังเกตอะไร เพราะทุกคนมองเห็นอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ บอกต้องได้ 120 เสียงในการจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลักคือการรวบรวมเสียงข้างมากให้ได้ในสภา และปกติโดยธรรมเนียมแล้ว พรรคที่มีคะแนนมากที่สุดก็ต้องพยายามรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อน ตนจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมาขีดเส้นว่ต้องได้ 120–130 เสียง

อย่างเรื่องภายในของพรรคประชาธิปัตย์ ตนประกาศแล้วว่าถ้าได้ไม่ถึงร้อยเสียง ตนรับผิดชอบในฐานะผู้นำองค์กร ซึ่งก็เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ คิดว่าตอนนี้เรามาดูดีกว่าว่าบ้านเมืองต้องเดินไปหลังการเลือกตั้ง ความชอบธรรมชองรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นนั้นสำคัญมาก หากความชอบธรรมไม่เกิด มี 2 เรื่องที่จะตามมา คือ ความขัดแย้งและปัญหาเศรษฐกิจ เพราะประชาชนเดือดร้อนมานานแล้ว การมีรัฐบาลที่ชอบธรรมอยู่ในระอบบประชาธิปไตยที่สุจริตเท่านั้น ที่จะพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่เริ่มมีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลหน้าจะอยู่ได้ไม่นาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นประชาธิปไตยสุจริตก็อยู่ได้นาน


ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน