เพื่อไทย ปราศรัยใหญ่นครสวรรค์ ชูเป็นเมืองโลจิสติกส์
ขอให้เลือกยกจังหวัด เอาชนะ ส.ว. สู้เผด็จการ

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ข้างพุทธอุทยานตำบลปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ แกนนำพรรคเพื่อไทยร่วม ปราศรัยใหญ่ อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เป็นต้น โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังกว่า 1 หมื่นคน

นายชัยเกษม กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสกลับเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน จะตั้งคณะกรรมการ สำรวจกฎหมายที่ร่างขึ้นโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือบรรดาคำสั่งต่างๆ ของคสช. ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายชัยเกษม ย้ำว่ากติกาการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะขั้นตอนการเลือกตั้ง จะเหลือบัตรเพียงใบเดียว ประชาชนต้องทำความเข้าใจ โดยแนะนำให้จำสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย ก่อนเข้าไปกาบัตรเลือกตั้ง ป้องกันความผิดพลาด ขณะเดียวกันประชาชนต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ล้นหลาม เนื่องจากกติกาปัจจุบันเปิดช่องให้ ส.ว. 250 คน ซึ่ง คสช.แต่งตั้ง สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ จึงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้มากพอเอาชนะส.ว. 250 คน

นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า ถ้าต้องการประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการต้องเลือกพรรคเพื่อไทย ตนรังเกียจทหารที่มาจากการยึดอำนาจ เมื่อยึดอำนาจแล้วทำให้ประเทศชาติเสียหาย จึงเป็นที่มาของแนวคิดการออกกฎหมายเอาผิดกับผู้ทำการรัฐประหาร นำคนเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะไม่มีอายุความ

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันเป็นการต่อสู้ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยเป็นหัวหอกประชาธิปไตย แต่เผด็จการยังมีพวกอีแอบเยอะ อาศัยการเลือกตั้งเข้ามาสู่อำนาจ พวกใดคือพวกที่เป็นเผด็จการ ก็คือพวกสืบทอดอำนาจ

“สำหรับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเคยแก้ปัญหาและทำสำเร็จมาแล้วและจะทำต่อไป ผ่านกลไกการเติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมจะพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้ จ.นครสวรรค์ เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ เป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล มีโรงงานเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร พัฒนารถไฟความเร็วสูง ให้เกิดการสร้างงาน”

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเลือกให้ดี ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยแบบยกจังหวัด ทั้งนี้ทราบข้อเท็จจริงว่าในพื้นที่มีการซื้อเสียง ส่วนพี่น้องจะรับหรือไม่เป็นดุลยพินิจ แต่เชื่อมั่นว่า ประชาชนจะไม่เลือกคนซื้อเสียง เพราะการเลือกตั้ง คืออนาคตของประชาชน อนาคตของลูกหลาน

ขณะที่นายกิตติรัตน์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันจะใช้กลไกเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส
ควบคู่ไปกับ การปรับหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่ แต่จะไม่ยกเลิกสวัสดิการ หรือสิทธิต่างๆ ที่ประชาชนได้รับ เช่น บัตรคนจนเพราะถือเป็นสิทธิที่พึงมี แต่พรรคเพื่อไทย จะดำเนินนโยบาย เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้นผ่านมาตรการดังกล่าว ขณะที่การออก นโยบายล่าสุด อย่างหวยบำเหน็จ จะช่วยให้พี่น้องมีเงินออม ไว้ดูแลตนเอง โดยพรรคเพื่อไทยจะนำมาขับเคลื่อน เป็นสวัสดิการสำหรับดูแลประชาชน ดังนั้น 24 มี.ค. ขอให้ประชาชนออกไปทวงสิทธิต่างๆ กลับคืน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน