เรืองไกร ยื่นข้อมูลเพิ่ม สอบ‘บิ๊กตู่’ เป็นจนท.รัฐ หวังชัดเจนก่อนใช้สิทธิ์ 24 มี.ค. จี้สอบเปิดคลิป‘ประยุทธ์’ บนเวทีปราศรัย-กำหนดนโยบาย พปชร. เข้าข่ายครอบงำ ชี้นำผิดพ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 28
คลิปบิ๊กตู่ – เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้มายื่นเอกสารเพิ่มเติมคำร้องที่ให้ กกต.พิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้าคสช. เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ขาดคุณสมบัติเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้นำคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเมื่อปี 2550 ที่กกต.ถอนชื่อผู้สมัครส.ส.นราธิวาส ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวในโรงเรียนทางภาคใต้ โดยเป็นเพียงแค่วิทยากร แต่กกต.ร้องค้านว่าเข้าข่ายลักษณะเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และไม่ประกาศรับรองให้เป็นผู้สมัคร และผู้สมัครคนดังกล่าวก็คัดค้าน แต่ศาลวินิจฉัยว่าบุคคลดังกล่าว เป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราว มีชั่วโมงการทำงาน ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงไม่ประกาศคืนสิทธิ
นายเรืองไกร กล่าวว่า ตนยังนำคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายรังสิมันต์ โรม นายจาตุรนต์ ฉายแสง และน.ส.ณัฏฐา มหัธนา ซึ่งถูกจับกุมเนื่องจากชุมนุมเกิน 5 คน ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและจำหน่ายคดี โดยระบุว่าต้องไปร้องต่อศาลยุติธรรม จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่รัฐฎาธิปัตย์ และถูกตรวจสอบได้
นอกจากนี้ยังมีคดีสมัครไปร้องกรณี กกต.ไม่รับรองให้เป็นผู้สมัครในการสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งพูดถึงคำสั่ง คสช.ว่าเป็นคำสั่งทางการเมือง เมื่อศาลวินิจฉัยอย่างนี้ กกต.จะยังเชื่อผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่หรือไม่ ซึ่งผลไม่ใช่จะเกิดในตอนนี้ แต่จะมีผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา ดังนั้น จึงเห็นว่ากกต.ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อไม่ให้เรื่องคาราคาซัง เพราะจะมีการเลือกตั้งในสัปดาห์นี้แล้ว
นายเรืองไกร กล่าวว่า อีกประเด็นคือนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษก พปชร. ที่ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาดูแลนโยบายของพรรค ถือเป็นสารภาพว่า พปชร.มีพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาชี้นำ จึงขอให้ กกต.เรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า กรณีการเปิดคลิปปราศรัยของพล.อ.ประยุทธ์ บนเวทีปราศรัยของ พปชร. ที่จ.สุโขทัย มีเนื้อความตอนหนึ่งว่า “ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อประเทศชาติ และพรรคพลังประชารัฐ”
การนำคลิปดังกล่าวมาเปิดบนเวทีปราศรัย ถือว่าผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 ที่ห้ามมิให้พรรคยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ควบคุม ครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจกรรมของพรรค กรณีนี้ กกต.จะอ้างว่าความยังไม่ปรากฏ คงไม่ได้ เพราะทุกคนก็ได้รับทราบจากข่าว
