พีเน็ต ชี้ เซ็นชื่อแทนปั๊มลายนิ้วมือบน บัตรเลือกตั้ง เป็นดุลพินิจกกต.แต่ละชุด เตือน กปน.เข้ม รับมือกาบัตรมั่ว “สวมสิทธิ-เวียนเทียน”
วันที่ 21 มี.ค. น.ส.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือ พีเน็ต กล่าวถึงข้อถกเถียงเรื่องการพิมพ์ลายนิ้วมือบน บัตรเลือกตั้ง ว่า ตามหลักการแล้ว เวลาไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก็จะใช้การยืนยันตัวตนด้วยกาลงลายมือชื่อไว้ที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง การพิมพ์ลายนิ้วมือนั้น ใช้สำหรับคนที่ไม่ถนัดเขียน
ซึ่งการนำมาเปรียบเทียบเรื่องการพิมพ์ลายนิ้วมือในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ไม่มี กับการพิมพ์ลายนิ้วมือในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อเดือนส.ค. 59 ที่ผ่านมานั้น แตกต่างกัน เป็นการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ละชุดว่า จะให้ดำเนินการอย่างไร จึงมองว่า เรื่องพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือลงนามลายมือชื่อ นั้น ไม่น่าจะมีผลทำให้การเลือกตั้งเกิดการทุจริต
การประทับลายนิ้วมือจะช่วยแค่การป้องปรามระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะหากจะทุจริตกันจริงๆต่อให้พิมพ์ลายนิ้วก็สามารถทำได้อยู่ดี เนื่องจากหมึกที่ใช้พิมพ์นั้นเป็นหมึกแบบปกติ ไม่เหมือนหมึกพิเศษที่จะติดเป็นวันล้างไม่ออก แบบการเลือกตั้งกัมพูชา
น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวถึง การเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ว่า ฝ่านนโยบายมีความจำเป็นต้องกำชับ คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ให้มีละเอียดรอบคอบเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก โดยมีกระแสข่าวตลอดว่า ตอนนี้คนซื้อเสียงเริ่มไม่มั่นใจแล้ว จึงมีการเก็บบัตรประชาชนไว้
กปน.จึงต้องตรวจสอบการแสดงคนของผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งต้องตรงกับบัตรประชาชนมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันกลไกการทุจริตที่เกิดขึ้นเป็นประจำคือ การสวมสิทธิแทนกัน และการเวียนเทียน อีกทั้งควรจัดสรรพื้นที่ของหน่วยเลือกตั้ง ให้ใช้สอยเตรียมรองรับอำนวยความสะดวกประชาชนจำนวนมากให้ดีที่สุด ซึ่งแก้ปัญหาความไม่สะดวกต่างๆ จากการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนการแจกบัตรเลือกตั้งผิดเขตนั้น คงโทษกกต.ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องยอมรับว่า มันเป็นปัญหาจากการกำหนดวิธีการเลือกตั้ง ต่างเขตต่างเบอร์ ที่ทุกฝ่ายเคยเตือนไว้แล้วด้วย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
