“พปชร.-ภูมิใจไทย” เรียงคิวร้อง กกต. “แรมโบ้อีสาน” ขอ กกต. สอบคดีซื้อเสียงในอ.เสิงสาง หอบหลักฐานคลิป-รูปถ่าย ด้าน “ศุภชัย” ควง “พรชัย” งัดรูปภาพมาสู้ จี้ ให้ได้ข้อยุติหลังทั้ง 2 ฝ่ายกล่าวหากันไปมา

กกต. – เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัครเขต 10 นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือถึงประธานกกต.ขอให้ตรวจการทุจริตใน 3 เรื่อง 1.การใช้เงินจ้างเพื่อฟังการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย โดยมีหลักฐาน คลิป และตัวเงินของนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัครในเขตเดียวกัน พรรคภูมิใจไทย 2.การปราศรัยเพื่อใส่ร้ายตนในทุกเวที 3.มีการกระทำความผิดระเบียบกกต. ในการติดป้ายหาเสียงเกินกว่าขนาด รวมทั้งติดป้ายที่กกต.ไม่ได้กำหนด

นายสุภรณ์ กล่าวว่า กรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้แถลงว่าตนมีส่วนเกี่ยวของกับการกระทำทุจริตใน อ.เสิงสาง และเป็นผู้วางแผนสร้างหลักฐาน จ้างวานให้นายดี สิมตะมะ เข้าให้การปรักปรำผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยว่าซื้อเสียงนั้น ยืนยันว่าตนและพรรคพลังประชารัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

การจับกุมเป็นการดำเนินการของทหารและอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จึงต้องการให้ตำรวจสอบสวนเพื่อให้ได้ความจริง ซึ่งคดีดังกล่าวมีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ดูแลการสอบสวนด้วยตนเอง ซึ่งในคดีก็มีเอกสาร เงิน และตัวผู้ต้องหาครบ ส่วนกรณีที่นายศุภชัย ให้สัมภาษณ์พาดพิงนั้น จะให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่ามีถ้อยคำใดที่ทำให้ตนและพรรคเสียหายก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าได้รู้จักและสนิทสนมกับนายประยุทธ์ บัวประดิษฐ์เป็นการส่วนตัว หรือไม่ นายสุภรณ์ กล่าวว่า นายประยุทธ์เป็นอดีตนายกฯอบต. เขาเป็นคนที่ชื่นชอบแนวคิดและอุดมการณ์ของตน แต่ยืนยันว่านายประยุทธ์ ไม่ใช่หัวคะแนน และไม่เคยได้รับการไหว้วานให้ไปทำอะไร แต่ยอมรับว่านายประยุทธ์ ได้ไปเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจริง ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการเก็บบัตรประชาชนที่พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวหาตนนั้น ตนต้องการนำหลักฐานเข้าชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่นัดคดี 2 ครั้งล่าสุด นายศุภชัย ได้แจ้งขอเลื่อนเข้าให้ปากคำทั้ง 2 ครั้ง

จากนั้นในเวลา 13.00 น. นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมนายพรชัย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับกกต.ขอให้ตรวจสอบคดี กล่าวหาว่ามีการซื้อเสียง ในพื้นที่เขต 10 นครราชสีมา โดยระบุว่า การสอบสวนของสภ.เสิงสาง นายดี ได้สารภาพว่ามีคนให้เงินมา 3,000 บาท เพื่อให้การปรักปรำนายพรชัย ว่าจ่ายเงินซื้อเสียง ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยคนที่จ่ายเงินคือนายประยุทธ์ หัวคะแนนของนายสุภรณ์ โดยคาดการณ์ว่านายสุภรณ์จะปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับนายประยุทธ์

ตนจึงนำภาพถ่ายของนายสุภรณ์ กับนายประยุทธ์ มายืนยันว่า ทั้ง 2 คนมีความสนิทสนมกันเป็นมือขวาตั้งแต่นายสุภรณ์ เป็นแกนนำนปช. อย่างไรก็ตามตนมีข้อกังวลว่าตำรวจมีการสรุปสำนวนสั่งฟ้องไปแล้ว โดยไม่มีการขยายผลเบื้องหลังของนายประยุทธ์ ตนจึงเข้ามายื่นหนังสือขอให้กกต.สอบสวนให้เป็นที่สิ้นสุดว่านายสุภรณ์ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งหากเป็นความผิดตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในเรื่องการใส่ร้ายป้ายสี ผิดทั้งคดีอาญา และถ้าพรรครู้เห็นก็จะถูกยุบพรรคด้วย

“ขณะนี้ทุกพรรคมีการแข่งขันกัน แต่เมื่อต้องแข่งกับพรรคที่มีอำนาจรัฐในมือ จึงต้องหวังพึ่งกกต. และขอฝากไปยังพรรคที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ว่าอย่าใช้อำนาจเอาเปรียบในการเลือกตั้ง วันนี้ในการเลือกตั้งทุกพรรคมีการแข่งขันกันเต็มที่ อย่าเพิ่งไปพูดถึงการรวมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นของอนาคต” นายศุภชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาในการยื่นร้องเรียนของนายสุภรณ์เมื่อยื่นเสร็จ ทางนายศุภชัย และนายพรชัย และคณะก็เดินทางมาถึง กกต. และได้เจอกันหน้าสำนักงาน กกต. แต่ทั้งสองไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน