พลังประชารัฐ ตัวต้นเหตุ! โคทม รับ “สัญญาพรรคการเมือง” ให้พรรครวม ส.ส. เสียงข้างมากตั้งรัฐบาล ไม่ใช่พรรคอันดับ 1

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายโคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล กล่าวถึง ข้อถกเถียงที่ฝ่ายการเมืองนำ “สัญญาที่พรรคการเมืองให้ไว้แก่ประชาชน” มาถกเถียงถึงการจัด ตั้งรัฐบาล ว่า ต้องให้พรรคที่มี ส.ส. อันดับหนึ่งดำเนินการก่อน หรือ พรรคที่รวบรวม ส.ส. เสียงข้างมากเกิน 251 เสียงได้ ว่า พรรคการเมือที่จะตั้งรัฐบาลต้องมี ส.ส.เสียงข้างมากเกิน 250 เสียง สนับสนุน

ในสัญญาที่พรรคการเมืองให้ไว้แก่ประชาชน ที่เกือบทุกพรรคการเมืองร่วมลงนามไว้นั้น ไม่ได้มีการระบุว่า พรรคที่มี ส.ส. อันดับ 1 ต้องได้ตั้งรัฐบาลก่อน เพราะมีบางพรรคการเมืองบางพรรคที่ไม่ได้ร่วมลงนามเช่น พรรครวมพลังประชารัฐ ไม่เห็นด้วย ในฐานะคนกลางจึงต้องยึดตามฉันทามติ เพื่อให้สัญญาเดินหน้าไปได้ เราไม่อาจใช้เสียงข้างมากมาตกลงกัน แต่ใช้ฉันทามติร่วมกัน

ส่วนตนขอยืนยันว่า การจัดตั้งรัฐบาลพรรคการเมืองจำเป็นต้องใช้ ส.ส. เสียงข้างมาก เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ หากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็จะทำให้ผ่านกฎหมายได้ยาก และจะถูกลงมติไม่ไว้วางใจได้ง่าย อีกทั้งการใช้เสียงข้างมากจะสง่างามเพราะมาจากประชาชนอย่างแท้จริง

นายโคทม กล่าวว่า เมื่อตัวแทนพรรคการเมืองไม่เห็นพ้องก็ต้องกำหนดเนื้อหาดังกล่าวไว้ในสัญญาซึ่งมีทั้งหมด 5 ข้อ คือ

  1. การจัดตั้งรัฐบาลต้องรวม ส.ส.เสียงข้างมาก
  2. ให้นำนโยบายแต่ละพรรคมาถกเถียงกันเพื่อบูรณาการให้สามารถปฏิบัติได้จริง ก่อนที่พรรคการเมืองจะพูดคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี
  3. การสร้างความปรองดอง
  4. ใส่ใจแก้ปัญหาชายแดนใต้
  5. ผลักดันให้เกิดการกระจายอำนาจ

จะเห็นว่าแต่ละพรรคก็เห็นพ้อง สามารถนำนโยบายข้ออื่นๆมากำหนดได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ลดความเหลื่อมล้ำ หรือนโยบายลดแลกแจกแถมต่างๆ มาร่วมกันจัดทำเป็นลายแทงบริหารประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน