กกต.แจง! เผยสาเหตุ ทำไมตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ 4 วัน หลังเลือกตั้ง มาจากไหนอีก 4 ล้าน
วันที่ 28 มี.ค. นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงในรายการ THE STANDARD Daily ในเฟซบุ๊กเพจ The Standard ถึงกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ จำนวนตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่ กกต. แถลง หลังปิดหีบเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่ามีผู้มาใช้สิทธิ 65.96% หรือ 33,775,230 คน แต่ในการแถลงล่าสุดวันนี้ (28 มี.ค.) จำนวนผู้ใช้สิทธิอยู่ที่ 74.69% หรือ 38,268,375 คน
โดยนายกฤช เปิดเผยว่า วันที่ 24 มี.ค. ที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. แถลง 65.96% เป็นการแถลงบนข้อมูลของระบบ Rapid Report โดยพื้นฐานประมาณ 93% ที่สำคัญคือ ในระบบ Rapid Report เราไม่ได้รวมคะแนนเลือกตั้งนอกเขต กับนอกราชอาณาจักร เลือกตั้งนอกเขตมีอยู่ 2.6 ล้าน นอกราชอาณาจักรอีกแสนกว่าคะแนน ซึ่ง Rapid Report ไม่ได้รวมตรงนั้น ท่านประธานแถลงตรงข้อมูลพื้นฐานตอนนั้น โดยรายละเอียดก็ไม่ได้แถลงลึกลงไปว่าตรงนี้ไม่ได้รวมคะแนนนอกเขตและนอกราชอาณาจักร ตัวเลขขณะนั้นท่านไม่ได้แถลงผิด แต่แถลงมาถูกต้องแล้วคือ 65.96% ตรงนั้น แต่พอเรารวมคะแนนอย่างเป็นทางการเต็ม 100% คะแนนนอกเขตและนอกราชฯ 2 ล้านกว่า มารวมด้วย ทำให้จำนวนตรงนี้มันพุ่งขึ้นไป อธิบายได้ด้วยความเป็นจริงตรงนี้ ไม่มีคะแนนนอกแน่นอน
ส่วนกรณีบัตรเขย่ง ที่บอกว่า มีคนลงชื่อไว้แล้ว แต่ขี้เกียจรอ กลับบ้านไปก่อนโดยที่ยังไม่ได้หย่อนบัตร นายกริชบอกว่า ที่บอกว่ามันมีผลรวมไม่ตรงกับจำนวน บัตรดี บัตรเสีย บัตรไม่เลือกผู้ใด ต่างกันอยู่ 2 ใบ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีคำตอบที่ชัดเจนว่ามันต่างกันที่หน่วยไหนด้วยเหตุใด ในการเลือกตั้งทุกครั้ง แม้แต่สมัยก่อนที่มหาดไทยจัด เขาเรียกว่า บัตรเขย่ง ที่ตัวเลขไม่ตรงกัน ซึ่งตามหลักมันต้องตรงกัน ถามว่ามันเกิดได้ไหม เกิดได้ เช่น อาจมีการนับจำนวนผู้มาใช้สิทธิผิด หรือนับจำนวนบัตรที่ใช้ผิด ซึ่งกรรมการประจำหน่วยอาจจะเร่งรีบหรือขีดคะแนนผิด แต่สุดท้ายให้ยึดถือตรงเดียวคือคะแนนของผู้สมัครแต่ละคนไม่ผิด
