“อุตตม” ลั่น พรรคจะอยู่ต่อไป ไม่หยุดเดินหน้าจัดตั้งรบ. เตรียมคนไทยสำหรับ ‘โลกใหม่’ “สนธิรัตน์” ติว ผู้แทนใหม่ อย่าบุ่มบ่ามบวชแก้บน – ให้ของ หวั่นขาดคุณสมบัติ มอบ “อนุชา” ดูแลเรื่องร้องเรียน 27 เขต

พรรคจะอยู่ต่อไป – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีประชุมคณะผู้บริหาร แกนนำพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคต่างๆ โดยในที่ประชุมได้รายงานภาพรวมผลการเลือกตั้ง จำนวน ส.ส.ของพรรคที่ได้ และข้อร้องเรียนต่างๆ รวมถึงแนวทางปฏิบัติก่อนการจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นช่วงบ่าย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุมว่าที่ส.ส.ของพรรค โดยมีแกนนำพรรคและว่าที่ส.ส.เข้าร่วมพร้อมเพรียง

นายอุตตม กล่าวว่า แม้มีที่พื้นที่ที่เราไม่ได้ส.ส.อย่างที่คาดการณ์ ก็ต้องให้กำลังใจกันและกัน เพราะทุกคนเป็นพลังประชารัฐเต็มตัว พรรคจะอยู่ต่อไป พรรคจะเป็นสถาบันทางการเมืองที่ถาวร ทำอะไรใหม่ๆ ให้ประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่าน จะไม่ทอดทิ้งกัน เราเกิดขึ้นเพราะเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้ ก้าวข้ามวังวนเดิมและความขัดแย้งที่มี เพื่อให้ประชาชนมีความหวังและอนาคต

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

เรามีงานต้องทำด้วยกันอีกมาก เช่น การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล เตรียมการขับเคลื่อนนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชน เพราะเราพูดแล้วทำได้จริงและทำทันที เราจะไม่ทิ้งสัญญาของเรา นอกจากนี้จะต้องเตรียมการหากมีการเลือกตั้งซ่อม

ทั้งนี้ เรื่องารจัดตั้งรัฐบาลจะเดินตามกรอบเวลาและขั้นตอนที่มีกำหนดไว้แล้วโดย กกต. เราไม่ได้อยู่เฉยๆ ส่วนเรื่องการเมืองมีหลักการสำคัญ คือ พปชร.จะไม่ทำตัวเป็นเงื่อนไขความขัดแย้ง จะทำงานของเรา จะไม่ไปเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้ จะไม่ทำให้เสียศรัทธากับประชาชนที่ให้มา วันนี้มีเป้าหมายชัดเจน

นายอุตตม กล่าวว่า ช่วงเวลานี้มีพระราชพิธีสำคัญ อยากให้พวกเรามีส่วนร่วมและคำนึงถึงพระราชพิธีด้วย ส่วนสิ่งที่เราน่าจะทำในตอนนี้คือขับเคลื่อนนโยบายที่ประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตร สวัสดิการ การเตรียมคนไทยสำหรับโลกใหม่ จะทำทันทีแม้ยังไม่เป็นรัฐบาล เพราะพรรค พปชร.เป็นสถาบันการเมืองที่ถาวร จะจัดลำดับความสำคัญของนโยบาย เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้เห็น โดยจะนำเสนอต่อรัฐบาลว่าเป็นนโยบายที่มีประโยชน์

ทั้งนี้ เรามีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และประธานประจำภาคอยู่แล้ว จะแปลงมาเป็นกรรมการยุทธศาสตร์พรรคและยึดโยงไปสู่ระดับภาค เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ว่าว่าที่ส.ส. รือสมาชิกพรรคก็ตาม เราอยากเชื่อมโยงกันไว้เพื่อให้ทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิดในระยะยาวต่อไป ขณะนี้ถือว่าเราประสบความสำเร็จชั้นแรกมาแล้วอย่างงดงาม

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า สำหรับจำนวนส.ส.ที่พรรคจะได้ เรามีวิธีคำนวณซึ่งคิดว่าจะใกล้เคียงที่สุด โดยจะได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 19 คน เมื่อรวมกับจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต 97 คน ตัวเลข ส.ส.ของพรรคตอนนี้จะอยู่ที่ 116 คน ทั้งนี้ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้ง 97 คน มีส.ส.เก่า 37 คน และเป็นส.ส.ครั้งแรก 60 คน ไม่นับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้น กล้าบอกว่าพปชร.เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ไม่แตกต่างจากพรรคที่บอกว่าเป็นคนรุ่นใหม่เท่าไร เมื่อตัวเลขเป็นอย่างนี้จึงมีงานต้องทำอีกเยอะ

“เบื้องต้นสิ่งสำคัญที่สุดต้องระวังอย่าให้ผิดคุณสมบัติ มีคนบอกว่าชนะแล้วจะบวชแก้บน ขอว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งบวช เพราะถ้าบวชแล้วจะผิดคุณสมบัติที่ห้ามเป็นภิกษุสามเณร จึงต้องรีบเตือนกันไว้ ต้องดูให้ดี ช่วงนี้จะทำอะไรอย่าบุ่มบ่าม” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล ไม่ควรให้ของขวัญหรือสิ่งของใดๆ เพราะไม่สามารถทำได้ ต้องเข้มกันไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปให้มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เพราะกกต.ยังไม่ได้รับรอง ปัจจุบันพรรคได้ร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งต่อ กกต. 22 เขต และพรรคถูกร้องเรียนด้วย 27 เขต โดยจะมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรือง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคอีสาน เป็นผู้ประสานงาน 27 เขตที่มีผู้ร้องเรียน และมอบให้นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรคดูแลเรื่องร้องเรียน จึงให้อยากให้ว่าที่ ส.ส.ดูรายละเอียดและสำนวนให้ดี

จากนั้นงพรรคเปิดให้ว่าที่ ส.ส.และสมาชิกพรรค รดน้ำผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานเฉพาะกิจในการรณรงค์การเสียงเลือกตั้ง นายสุชาติ ตันเจริญ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำพรรค บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน