“อ๋อย” เชื่อ ‘พปชร.’ เดินเกมปล่อยข่าวลือ หวังดึง ส.ส.หนุน “ประยุทธ์” อยู่ต่อ ฉะ เป็นเกมตั้ง รบ.น้ำเน่า เลวร้ายกว่าก่อนรัฐประหาร
เดินเกมปล่อยข่าวลือ – วันที่ 14 เม.ย. นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย (กตป.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สามารถรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้เกิน 250 เสียงแล้วว่า ถ้าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเสียงไม่ลดลง เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็ไม่น่าจะตั้งรัฐบาลได้ เพราะพรรค พปชร.ไม่น่าจะได้เสียงถึง 250 เสียง แล้วเขาจะเอาเสียงมาจากไหน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพยายามปล่อยข่าวลือว่าจะมีพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมกับพรรคพปชร. นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เป็นเกมที่พรรค พปชร.พยายามจะทำให้เป็นไปตามแผนของ คสช.และพวก เพราะ คสช. ก็วางแผนไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว สังเกตจากการดำเนินการในเรื่องต่างๆ ตลอดมาก็เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สืบทอดอำนาจ คสช.ให้ยาวที่สุด ทั้งนี้ เมื่อพรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมเสียงได้เกิน 250 เสียงไปเล็กน้อย จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถบริหารประเทศได้แม้จะได้เป็นนายกฯ จากการใช้ส.ว. 250 คน พรรค พปชร.ต้องดำเนินการให้ได้เสียงสนับสนุนให้มากที่สุด โดยการทำให้เสียงของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยลดน้อยลง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ข่าวลือที่ออกมาจึงไม่มีใครทราบว่าจะเป็นจริงหรือเป็นเพียงข่าวลือ เพื่อที่จะบีบหรือจูงใจให้นักการเมืองที่ยังไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์หันไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ตนเข้าใจว่าเขาคงจะมีความพยายามด้วยวิธีอื่นๆ อีก เช่น การให้ใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง หรือการดึงตัวว่าที่ ส.ส.ของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยพรรคอื่นๆ ไปร่วมอีก ซึ่งถือเป็นความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลที่สกปรกและน้ำเน่าที่สุดครั้งหนึ่ง และเราจะได้เห็นว่าการทำกันแบบนี้เป็นการทำการเมืองแบบที่เลวร้ายยิ่งกว่าก่อนการรัฐประหาร
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.ส่งวิธีคำนวณสูตร ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ความจริงหากอ่านรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง ก่อนที่จะคำนวณและให้ที่นั่งกับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงต่ำกว่าจำนวน ส.ส.ที่พึงได้นั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ และขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91(4) แต่ปัญหาคือ กกต.ยังพยายามที่ตะแบงที่จะทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งโดยหลักแล้ว กกต.ควรจะต้องเป็นคนตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่ง เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. โดยตรง และเมื่อตัดสินใจแล้วหากใครจะร้องเรียน ก็ให้ไปร้องเรียนยังศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง
แต่นี่ กกต. กลับเลือกที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และยังเป็นปัญหาว่าวิธีการที่ กกต. คิด เป็นวิธีการที่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ กกต.ก็เสนอไปวิธีเดียว ไม่ได้รวบรวมความเห็นที่แตกต่างจากฝ่ายต่างๆ เสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญด้วย ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีตกว่าวิธีที่ กกต.คิดนี้ทำไม่ได้ หรือขัดรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีอะไรวินิจฉัยว่าวิธีที่ถูกเป็นอย่างไรก็จะคาราคาซังต่อไปอีก แต่หากศาลบอกว่าทำได้โดยระบบกฎหมายของประเทศนี้ ก็จะเป็นข้อยุติ แต่จะเป็นข้อยุติที่แปลกมาก เพราะวิธีการที่เป็นข้อเสนอของ กกต. ขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน จะอ้างว่าไม่มีวิธีอื่นจึงจำเป็นต้องใช้วิธีที่ขัดกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องหรือไม่
