‘อนุทิน’ ไม่รับตำแหน่งนายกฯ ในที่ประชุมใหญ่ ภูมิใจไทย หลัง 9 พ.ค. รู้ควรรับสายใคร

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่พรรค ภูมิใจไทย มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2562 มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม เป็นวาระแจ้งเพื่อทราบเรื่องการยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.รวมถึงการขอความร่วมมือจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในการแจ้งกำหนดการและหลักฐานที่ส.ส.ต้องใช้ในการรายงานตัว

นายอนุทิน กล่าวว่แสดงความยินดีกับผู้ได้รับเลือกตั้ง ถึงจะยังไม่ประกาศผลเป็นทางการ แต่ก็ขอให้ทุกคนโชคดี คาดหวังว่าหลังวันที่ 9 พ.ค. จะประกาศผลทางการ ช่วงนี้ต้องปล่อยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงานเต็มที่ จากนั้นจึงจะมีแนวทางว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อไม่เพิ่มฟืนเข้าไปในกองไฟตามนโยบายของพรรค

อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ต่อสู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และขอขอบคุณทุกคะแนนกว่า 3 ล้านเสียง ที่มอบให้พรรค ขอบคุณทีมงานพรรค ผู้บริหารพรรคที่ช่วยกันลงพื้นที่หาเสียง แม้บางพื้นที่ไปไม่ทั่วถึง ทำให้รู้ว่า กว่าจะได้มาแต่ละคะแนนต้องทุ่มเทขนาดไหน และผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าพอใจ จึงขอเป็นกำลังใจในการทำงานของทุกคน และส.ส.ทุกคนยืนยันที่จะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง สืบต่อนโยบายพรรคให้สำเร็จตามที่เคยประกาศไว้

ใครผ่านเลือกตั้งถือเป็นประชาธิปไตย

จากนั้นนายอนุทิน แถลงข่าวหลังการประชุม ว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่าตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดท่าทีทางการเมืองใดๆ ได้ เพราะยังไม่ทราบผลเลือกตั้งเป็นทางการ วันนี้ยังมีการนับคะแนนใหม่กันอยู่ พรรคจึงตัดสินอยู่เงียบๆ รอให้ทุกอย่างได้รับการรับรองเป็นทางการ นอกจากนี้ได้กำชับให้สมาชิกพรรคทุกคน ใช้ช่วงเวลามหามงคลอยู่กับประชาชน และชักชวนให้ประชาชนออกมาร่วมงานพระราชพิธี เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ตอนนี้ขอให้ลืมเรื่องการเมืองไปก่อน หลังจากวันที่ 8-9 พ.ค.ค่อยมาคิดหาแนวทางและทิศทางการเมืองของทุกคนต่อไป

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.กรณีถือหุ้นสื่อ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนต้องเคลียร์ตัวเองก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่าตัวเองมีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ ก็ไปชี้แจง

ตนมั่นใจว่าสมาชิกพรรคและผู้สมัครของพรรคทุกคนจะชี้แจงคุณสมบัติของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันแบบนี้ จะไปห้ามคนร้องเรียนก็ไม่ได้ ดังนั้น ใครร้องอะไรมาเราก็ต้องมีหลักฐานไปยืนยันว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ พรรคภูมิใจไทยจะร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยหรือพรรคฝั่งสืบทอดอำนาจ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคประกาศมาตลอดว่า จุดรีเซ็ตคือการเลือกตั้ง ใครที่ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ถือว่าผ่านกระบวนการประชาธิปไตย

เพราะฉะนั้นพรรคจะไปทางไหนหรือไปกับใคร เราไม่ได้ดูว่าอยู่ฝั่งไหน แต่จะดูว่าทำงานร่วมกันได้หรือไม่ พร้อมสนับสนุนนโยบายพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ มีความขัดแย้งใดๆ เข้าใจกันหรือไม่ มองเห็นประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลักชัยหรือไม่ นี่คือสิ่งที่พรรคจะพิจารณาว่าจะไปร่วมรัฐบาลกับใคร

เนื่องจากเราไม่ได้เป็นพรรคแกนนำ ไม่ได้คะแนนเป็นที่หนึ่งก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว และรู้สถานะของตัวเอง ทั้งนี้ อย่ามาพูดเรื่องเป็นหรือไม่เป็นประชาธิปไตยอีกเลย เพราะทุกคนผ่านกระบวนการประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญมาหมดแล้ว

และเท่าที่เห็น ก็ยังไม่มีกระบวนการไหนในการเลือกตั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญ พรรคบอกมาตลอดว่าเราเคารพกติกาทุกอย่างที่มาจากรัฐธรรมนูญ และหลังจากการเลือกตั้ง พรรคยังไม่ได้ทำอะไรขัดกับรัฐธรรมนูญ

ยังไม่มีใครทาบทาม

เมื่อถามว่าจะผลักดันนโยบายกัญชาเสรีหรือผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน นายอนุทินกล่าวว่า การผลักดันนโยบายน่าจะผลักดันได้เร็วกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยเข้าสภาเพื่อทำงาน เราไม่ได้มีปัญหาอย่างมีนัยยะกับรัฐธรรมนูญจนรู้สึกว่าจะทำงานไม่ได้

พรรคจึงกล้าแถลงจุดยืนและนโยบายที่ตั้งใจจะทำได้ทันที ทำได้เร็วและทำได้เลย เพราะรู้ว่าถ้ามัวแต่ไปวุ่นวายหรือกังวลกับปัญหาการเมือง เราจะทำงานไม่ได้ ประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงาน และแก้ไขปัญหาปากท้อง เราต้องทำตามสิ่งที่ประชาชนสั่งการ ไม่ได้เข้ามาแก้ไขอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง

เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีพรรคใดทาบทามให้เข้าไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะทุกคนต้องรอผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อพ้นการเลือกตั้งมาก็มีวันหยุดยาวและคนก็รู้สึกเหนื่อย จึงยังไม่ได้พูดคุยติดต่ออะไรกัน เพียงแต่อาจเจอกันตามงานต่างๆ ก็แสดงความยินดีซึ่งกันและกัน เป้าหมายของเราคือการนำตัวเองเข้าไปในสภา เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนให้ได้ก่อน เรื่องอื่นค่อยกำหนดภายหลัง

เมื่อถามว่ามีกระแสเสนอให้นายอนุทิน เป็นนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นกระแส ก็ว่ากันไป ใครจะรู้ดีกว่าตน เพราะไม่เห็นมีใครมาให้สักคน เรื่องนี้เป็นการคาดการณ์ บอกแล้วว่าจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการก็ต่อเมื่อได้รับคะแนนเป็นพรรคอันดับหนึ่ง มีส.ส.มากมาย แต่ตอนนี้เป็นพรรคลำดับที่ 5 ฉะนั้นเราต้องให้คนที่มาที่ 1 ที่ 2 สามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ แต่ตนยก็ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยยะสำคัญจากฝ่ายใดเลย

ไม่รับนายกฯ

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการเสนอให้เป็นนายกฯจริงๆ จะรับหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่รับครับ บอกแล้วว่าคนเราจะได้อะไรต้องสมควรได้ ไม่ใช่ว่าหาทางออกไม่ได้แล้วโยนมาให้ นี่เป็นเรื่องของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องตัวเอง ถามว่าอยากเป็นนายกฯไหม ตอบว่าอยากเป็น แต่จะเป็นได้หรือไม่ได้ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย”

เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคหลังวันที่ 9 พ.ค. จะเปิดประตูเจรจาอ้าซ่าหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า “ทำไมต้องบอกว่าเปิดประตูอ้าซ่า ทำไมไม่บอกว่าปิดประตูแล้วให้คนมาหา ธรรมชาติการเมืองมันมีอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลา คนนี้จะคุยกับคนนี้ มันกำหนดไม่ได้ถ้ามาถามตอนนี้

แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ผมจะรู้ว่าถ้าเกิดโทรศัพท์สายนี้ดังเข้ามา เราควรจะคุยกับคนนี้ แล้วคิดว่าน่าจะมีข้อสรุป หรือว่าเราไม่ควรจะรับสายคนนี้ เพราะคุยไปก็ไม่ได้ข้อสรุป ถือเป็นสัญชาตญาณ อธิบายไม่ได้ วันนี้ผมก็ยังไม่ทราบว่าจะคุยกับใคร และยังไม่มีใครโทร.เข้ามา”

เมื่อถามว่าหากมีพรรคใดตอบรับนโยบายกัญชาเสรี พรรคภูมิใจไทยก็จะไปร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องรับทุกนโยบาย เราไม่ได้มีเพียงนโยบายกัญชาเสรีอย่างเดียว เชื่อว่าตอนนี้ยังมีเวลาพูดคุย เราต้องดูจำนวนสมาชิกของแต่ละพรรคที่จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรได้เป็นหลัก

เนวินคือครูใหญ่

เมื่อถามถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุมีหลักฐานเด็ด อาจถึงขั้นนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องพิสูจน์ แต่ตนสอบถามผู้ถูกร้องเรียน และผู้ดูแลพื้นที่ภาคใต้ของพรรค ทุกคนยืนยันเข้าสู่การแข่งขันที่เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ก็ต้องเชื่อเขา

การร้องเรียนเป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ แต่พรรคเราไม่เคยไปร้องเรียนใคร ที่ผ่านมาตนเจอลูกพรรคที่แพ้400-500 คะแนน ก็ถามว่า พอใจหรือไม่ หลายคนก็บอกว่าพอใจแล้ว และยอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้น เราต้องมีสปิริต เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้

“ขอให้พรรคการเมืองคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน เมื่อถึงเวลาก็ส่งสมาชิกลงรับเลือกตั้ง ถ้าการเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ ก็เป็นเรื่องดี จะได้ทำงานต่อไป แต่หากเป็นโมฆะ ก็ต้องเลือกตั้งใหม่ ถือเป็นกงกรรมกงเกวียน พรรคภูมิใจไทยเข้าใจธรรมชาติของการเมืองดีอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนายเนวิน ชิดชอบ เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ปลดล็อกกัญชาเสรี นายอนุทิน กล่าวว่า นายเนวินถือเป็นครูใหญ่ที่เราเรียกขาน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค และตอนนี้เรายังไม่มีโอกาสพบพล.อ.ประยุทธ์ จึงยังไม่ได้พูดคุย

อย่างไรก็ตาม ทั้งเรื่องกฎหมายกัญชา กฎหมายแกร็บ เราเตรียมไว้หมดแล้ว ถ้าเราได้เป็นฝ่ายบริหารจะผลักดันและเสนอเรื่องเหล่านี้ แต่ถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารก็จะเป็นเพียงผู้เสนอตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่พรรค ได้กำชับสมาชิกพรรคทุกคนให้ขยันเข้าหาประชาชนอย่างสม่ำเสมอ แม้บางพื้นที่จะชนะการเลือกตั้งแล้วก็ตาม เนื่องจากหากมีการยุบสภา จะได้พร้อมลงสนามเลือกตั้งทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน