‘อนุทิน’ อ้อนปราจีนฯ ขอ ส.ส.ยกจังหวัด ดันกองทุนฌาปนกิจ อสม. ให้ครอบครัว 500,000 บาท เพิ่มค่าตอบแทนเป็นเดือนละ 2,000 บาท

วันที่ 4 มี.ค. 2566 ที่ศูนย์อาหารโตริโน่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำคณะผู้บริหาร อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย นายนายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย เดินทางลงพื้นที่ช่วยนายอำนาจ วิลาวัลย์ ผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี หาเสียง โดยมีประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ
นายอนุทิน กล่าวว่า ที่นี่มีบุญคุณกับพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่คือเกียรติยศแรกของเรา เราชนะการเลือกตั้งครั้งแรกก็ที่นี่ ในปี 2550 ตอนนั้นคนลงสมัครและทำให้เรายิ้มไม่หุบ ชื่ออำนาจวิลาวัลย์เป็นคนที่ตนลงมาช่วยหาเสียงในวันนี้ และมีความมั่นใจว่า ท่านเป็นคนคุณภาพของพรรค ไม่ต่างกับผู้สมัครของพรรคทุกๆ คน การที่ท่านเป็น ส.ส.คนแรกของพรรค ท่านทำให้เรามีความมั่นใจที่จะเดินหน้าต่อไป
“นโยบายกัญชา ผมไม่ลืมว่าชาวปราจีนบุรีอยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดขึ้นเพราะโรงพยาบาลอภัยภูเบศรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการแพทย์แผนไทย ก็ตั้งอยู่ในจังหวัดของท่าน นี่คือความผูกพันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพี่น้องชาวปราจีนบุรี”นายอนุทิน กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่สมบูรณ์เพราะชาวปราจีนบุรี หลังจากนั้น ท่านไม่เคยทิ้งเรา ชาวปราจีนบุรีคุ้มกะลาหัว ไปจังหวัดไหนจะบอกว่า ขอให้เลือกภูมิใจไทยยกจังหวัดแบบที่ชาวปราจีนบุรีได้ทำไว้ ซึ่งท่านให้เรามาแบบยกจังหวัดทุกสมัย ตั้งแต่มีพรรคภูมิใจไทย และตอนนี้หลายจังหวัดก็เลือกเราแบบยกจังหวัด เหมือนที่ท่านให้เรา ซึ่งไม่ผิดหวัง เพราะเราทำงานตอบแทนความวางใจของท่านอย่างสุดความสามารถ เพราะท่านไม่เคยลืมเรานายอนุทิน กล่าวอีกว่า ที่นี่เพิ่งมีรัฐมนตรีเป็นคนปราจีนบุรี ทำงานกระทรวงศึกษาธิการ สิ่งที่ท่านทำไว้มีคุณค่ามาก ท่านยกเลิกผู้ค้ำประกันผู้กู้ กยศ. เพิ่มโอกาส การศึกษาให้ลูกหลาน จากนี้เราจะต้องทำให้กองทุน กยศ. ต้องไม่มีดอกเบี้ย นี่คือสิ่งที่เราต้องทำ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ปราจีนบุรี มีเกษตรกร ทำไร่ ทำนา ทำสวน จำนวนมาก นี่คือกระดูกสันหลังของชาติ เรามองเรื่องการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ใช้ระบบ Contract Farming มายกระดับราคาสินค้าเกษตร สร้างหลักประกันให้เกษตรกร ต้องรู้ราคาจำหน่ายก่อนปลูก หากเกิดความเสียหายจะมีประกัน เกษตรกรต้องรวยขึ้น ไม่ใช่จนลง

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด มีการกู้หนี้ยืมสินจำนวนมาก เราจะให้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เฉพาะหนี้ถูกกฎหมาย ทั้งหนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับ อสม. คือผู้ที่ทำให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าต่อได้ แม้โดนท้าทายจากวิกฤตโรคระบาด เราจะพัฒนา อสม. เป็นสมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม.เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม. เรื่องนี้ลงนามไปแล้ว อยู่ในกฎหมายงบประมาณ และเราต้องผลักดันต่อ

“ขอโอกาสพี่น้องให้เราเข้าไปทำงาน ถ้าทำสำเร็จ เดือน ต.ค.นี้ ได้แน่นอน นอกจากนั้น จะผลักดันกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. กรณีเสียชีวิต ครอบครัวได้รับ 500,000 บาท ขอเลือกภูมิใจไทยทั้งพรรคทั้งคน เสริมพลังในการทำงานให้พรรค และให้ผู้แทนของท่านมีพาวเวอร์ในสภา เสียงของท่านเราไม่เอาไปทิ้งน้ำ แต่เอาไปทำงานให้พี่น้องประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน