บิ๊กตู่ ร่วมโหวต โพลมติชน-เดลินิวส์ รอบสอง ตอบ 4 คำถาม ชี้ชะตาประเทศ ด้านก้าวไกล เชื่อ ความนิยมเพิ่มขึ้น โว ‘พิธา’ ฟีเวอร์ เหมาะนั่งนายกฯ ที่สุด

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการทำโพลออนไลน์ชี้อนาคตการเมืองไทย มติชน x เดลินิวส์ โพลเลือกตั้ง 66 ครั้งที่ 2 สำรวจระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย. ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง 2 สื่อใหญ่ของไทย ได้แก่ เครือมติชน ประกอบด้วย มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ มติชนสุดสัปดาห์ มติชนทีวี และเดลินิวส์

สำหรับการโหวตครั้งที่ 2 มีคำถามทั้งสิ้น 4 หัวข้อ เพื่อสอบถามความเห็นประชาชนกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ คำถามที่ 1 ท่านจะเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต จากพรรคการเมืองใดในการเลือกตั้ง 2566 นี้ คำถามที่ 2 ท่านจะเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคใด โดยคำถามทั้ง 2 ข้อดังกล่าว คำตอบที่มีให้เลือกเป็นการคัดรายชื่อจาก 10 พรรค ที่ได้รับการโหวตสูงสุด 10 อันดับแรกจากผลโพลรอบแรก

คำถามที่ 3 ท่านจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี โดยคำตอบที่มีให้เลือกเป็นการคัดรายชื่อจาก 10 แคนดิเดตนายกฯ ที่ได้รับการโหวตสูงสุด 10 อันดับแรกจากโพลรอบแรก ปิดท้ายด้วยคำถามที่ 4 ส.ว. ควรโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคที่ได้ ส.ส. มากที่สุดหรือไม่

ทั้งนี้ ประชาชนและผู้สนใจสามารถเข้าร่วมโหวตได้ผ่านลิงก์ https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/poll2/ ตั้งแต่วันที่ 22-28 เม.ย. นอกจากนี้ สื่อเครือมติชน และเดลินิวส์ ยังได้เผยแพร่ช่องทางการเข้าไปทำโพลให้กับประชาชนผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย พร้อมจัดทำคิวอาร์โค้ด เพื่อสแกนร่วมโหวตแคมเปญโดยเฉพาะอีกด้วย สำหรับผู้ที่เคยร่วมโหวตโพลรอบแรกสามารถร่วมโหวตโพลรอบสองได้ แต่เมื่อโหวตรอบสองไปแล้ว ไม่สามารถโหวตซ้ำได้อีก เนื่องจากระบบมีการล็อกไอพีแอดเดรสชุดเดิมไม่ให้โหวตซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่สำนักงานใหญ่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ และได้นำโทรศัพท์มือถือ ร่วมสแกนโหวตโพลการเลือกตั้งปี 2566 ความร่วมมือระหว่างหนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ อย่างอารมณ์ดี ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้บอกว่าร่วมโหวตให้ใคร

ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจของมติชน-เดลินิวส์รอบ 2 ว่า พรรคก้าวไกลมั่นใจว่า ผู้สมัครของเราลงพื้นที่อย่างหนักและต่อเนื่อง ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี เชื่อว่าแคนดิเดตนายกฯ เพียงหนึ่งเดียวของพรรคยังเป็นที่หนึ่งในใจของประชาชน ทั้งนี้ มีโอกาสที่ผู้สมัคร ส.ส. ของก้าวไกล จะได้มากกว่าที่ประเมินไว้ เดิมคาดไว้ไม่เกิน 70 ที่นั่ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนปัจจัยที่ทำให้คะแนนโพลเปลี่ยนนั้น ไม่สามารถไปตอบแทนพรรคอื่นได้ แต่ผู้สมัครก้าวไกลทุกคนจำเป็นต้องขายนโยบายให้เป็นตัวตัดสินใจสำคัญของประชาชน คิดว่านโยบายที่เราออกแบบมาตอบโจทย์ประชาชนได้เป็นอย่างยิ่ง และเราจะเดินให้มากยิ่งขึ้น เพื่อพบปะกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า โดยในส่วนสุดท้ายคะแนนจะมาจากสื่อมวลชนที่ติดตาม และจัดเวทีดีเบตต่างๆ รวมถึงการทำโพล เชื่อมั่นว่าเวทีดีเบตจะทำให้สิ่งที่ประชาชนสงสัยในพรรคก้าวไกลถูกตอบในเวทีเหล่านี้ สำหรับปัจจัยเสริม จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบมาจากการบริหารของรัฐบาล ซึ่งวันนี้แปลงมาเป็นพรรคต่างๆ

“เรื่องของแคนดิเดตนายกฯ ชัดเจนว่านาทีนี้ไม่มีใครเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เข้าใจปัญหาประเทศ และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ยิ่งนายพิธานำเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ ของพรรค และเปรียบเทียบกับพรรคอื่น ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า จุดอ่อนข้อเดียวถูกโจมตีมาตลอด คือ จะทำได้จริงตามที่พูดหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าทุกคนเริ่มจากศูนย์หมด แต่สิ่งที่ได้พิสูจน์คือการเป็นฝ่ายค้าน ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลประเทศจะเสียโอกาสมากกว่านี้ หากได้เป็นรัฐบาลจะทำได้ดีกว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้าน มั่นใจว่าผลโพลในรอบสองจะต้องดีกว่ารอบแรก เพราะเราทำงานอย่างหนัก ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน