สกลธี ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย มั่นใจนโยบายพรรคพลังประชารัฐ มัดใจคนกรุงเทพ พณิชย์ อ้อนขอคะแนนทำงานจริง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยทิ้งพื้นที่

วันที่ 11 พ.ค.2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัคร กทม. พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายพณิชย์ วิทยาภัทร์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เขตราชเทวี ปทุมวัน สาธร ลงพื้นที่หาเสียงโค้งสุดท้าย ย่านเพชรบุรี ซ.5 และ เพชรบุรี ซ. 7

นายสกลธี กล่าวว่า มั่นใจอยู่แล้วว่า นายพณิชย์ หลายปีที่ผ่านมาลงพื้นที่ตลอด ทำให้มีความสบายใจและมั่นใจว่าพื้นที่ตรงนี้ จะฐานเสียงให้อย่างแน่นอน และ ในอีก 2 วันที่เหลือคงต้องลงพื้นที่ปทุมวัน สาธร เพิ่มเติม อยากให้พื้นที่เขตอื่นมั่นใจและรักในตัวนายพณิชย์

ด้านนโยบายพรรคพลังประชารัฐ น่าจะช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุดที่สุด อย่างเช่น เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 – 4,000 – 5,000 บาท , บัตรประชารัฐ 700 , การลดค่าครองชีพ ลดน้ำมันเบนซิน 18 บาท ลดน้ำมันดีเซล 6.30 บาท , ลดแก๊ส เหลือถังละ 250 บาท , ลดไฟฟ้าบ้าน หน่วยละ 2.50 บาท ไฟฟ้าอุตสาหกรรม 2.70 บาท เป็นการตอบโจทย์ ใครจะทะเลาะกับใคร วิจารณ์ใคร ทางเราจะไม่ยุ่ง มุ่งแต่แก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน จากการพัฒนาพื้นที่ลำบาก ทางพรรคก็มีนโยบายกองทุนประชารัฐ มาช่วยอีกทาง

ยิ่งได้คนพื้นที่ เป็น ส.ส. ที่เข้าใจปัญหา รู้ปัญหาที่แท้จริงของชาวบ้าน และ พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคเดียว ที่เสนอปัญหาหาทางแก้ไข ให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่านี้ได้ จากการที่ เคยเป็น รอง ผู้ว่าฯ กทม. มาก่อน ทำให้รู้ว่างบประมาณจะพัฒนาทั้ง 50 เขต กทม. ได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งกองทุนประชารัฐ 3แสนล้านบาท ที่เป็นของรัฐบาล จะมาแก้การพัฒนา ซึ่งรัฐบาลกับท้องถิ่นจะจับมือกันพัฒนา กรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น ถ้าดูนโยบายพรรคอื่นจะไม่มีใคร มีนโยบายเพื่อคนกรุงเทพฯ ตรงเท่านี้ นายสกลธี กล่าว

ด้าน นายพณิชย์ กล่าวว่า จริงแล้ว ผูกพันกับพื้นที่นี้มาโดยตลอด ยิ่งช่วงโควิด-19 เหมือนกับร่วมทุกข์ร่วมสุข ได้รู้จักบ้านทุกบ้าน เพราะต้องพูดคุยเข้าช่วยเหลือ การฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ การนำเครื่องผลิตออกซิเจน มาสนับสนุน การประสานหาเตียง หาโรงพยาบาล ซึ่งในสมัยนั้นหาเตียงยากมาก ทำให้เรารู้สึกสนิทสนมกับชาวบ้าน และ ยังเคยมีโอกาส ประสาน คุณสกลธี สมัยเป็น รอง ผู้ว่าฯ กทม. เข้าช่วยเหลือประสานงานไปด้วย ทำเรารู้สึกผูกพันมีมาตลอดในการลงพื้นที่ 3-4 ปีที่ผ่านมา อยากให้สนับสนุนให้ฐานะผู้สมัคร ส.ส. เพื่อช่วยพี่น้องในพื้นที่อย่างเต็มที่อีกครั้ง

สอบถาม นายสมชาย หวังเจริญ กรรมการอิสลามประจำมัสยิดดารุ้ลอะมาน พญาไท เพชรบุรี ซ.7 ได้เล่าว่าชาวบ้านภายในชุมชน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตลอด 3-4 ปี ที่ผ่านมา นายพณิชย์ ไม่เคยทิ้งชาวบ้านย่านนี้เลย ยิ่งเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการประสานงานให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชน ทั้งการจัดตั้ง รพ.สนาม , จัดหาเครื่องช่วยหายใจ, จัดการเรื่องส่งอาหารผู้ป่วย รวมไปถึงเรื่องป้องกันเรื่องอาชญากรรมเป็นห่วงความปลอดของคนภายในชุมชนอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน