พิธา ลั่นพร้อมจับมือเพื่อไทย-ฝ่ายค้านเดิม ตั้งรัฐบาล ปิดประตูเสียงข้างน้อย ทุกพรรคต้องเซ็น MOU เพื่อความโปร่งใส ย้ำมีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล แถลงว่า ประเด็นแรกขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและให้โอกาสกับพรรคก้าวไกล ทุกการโหวตเป็นศรัทธาที่ท่านมอบให้เรา เราจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ถึงแม้คะแนนจะยังนับไม่หมด

นายพิธา กล่าวต่อว่า ตอนนี้เราอยากจะขอประกาศกับกับประชาชนคนไทยว่า คะแนนรวมของพรรคก้าวไกลตอนนี้น่าจะทะลุ 3 หลัก เกิน 100 ที่นั่งไปแล้ว เราใช้วิธีในช่วงเว็บไซต์ กกต.ล่ม โทรตามเช็กแต่ละบอร์ดทั่วประเทศไทย ตอนนี้เรามั่นใจว่า ชนะขาดไปแล้ว 72 เขต แล้วก็มีอีก 50 เขต ใกล้จะนับเสร็จแล้ว คะแนนนำอยู่

นายพิธา กล่าวอีกว่า เบื้องต้น 70+50 เท่ากับ 120 เขต ส่วนบัญชีรายชื่อ ถ้าดูตามเว็บไซต์ตอนนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 35-40 คน ตอนนี้เราเริ่มที่จะมีความมั่นใจว่า น่าจะบรรลุเป้าหมายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างน้อยที่สุดทะลุ 3 หลัก เกิน 100 เสียงแน่นอน

นายพิธา กล่าวต่อว่า 2.มีแนวโน้มที่ดีว่าเราจะสามารถทะลุไปอีก 160 เขต แล้วอาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้ กำลังนั่งไล่โทรเช็กคะแนนกับแต่ละเขตที่เหลือ จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ขอขอบคุณทีมงาน อาสาสมัคร หัวคะแนนธรรมชาติ เพื่อนๆ ทีมงานจังหวัดทุกคน ทำให้เราบรรลุเป้าหมายขององค์กรอย่างที่เคยได้สัญญากับประชาชนไว้

นายพิธา กล่าวอีกว่า 3.ผลออกมาน่าจะชัดพอสมควรว่าผลการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แทบจะไม่มีเหลือแล้ว แค่เราดูตัวเลข ณ ปัจจุบัน ทั้งจากที่สื่อมวลชนรายงาน และจากการตรวจสอบของพรรคก้าวไกล แสดงให้เห็นว่า พรรคที่คะแนนเกิน 100 ตอนนี้มีแค่พรรคก้าวไกล และเพื่อไทยเท่านั้น

นายพิธา กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม น่าจะยากที่จะมีโอกาสมี ส.ส.เกิน 100 ภาพที่พอจะอนุมานได้คือรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตอนนี้คงจะไม่มี แปลว่าคงจะใช้เวลาอีกไม่นาน ในการรวบรวมข้อมูล ว่าคะแนนที่ออกมาใครจะเป็นอันดับ 1 และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

“จุดยืนของพรรคก้าวไกลยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะก่อนเลือกตั้งหรือหลังเลือกตั้ง จุดยืนในการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล คือมีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง จะไม่มี 2 พรรค คือพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติในสมการ”

นายพิธา กล่าวต่อว่า ในการร่วมรัฐบาลจะมีการ MOU เป็นเงื่อนไข มีความโปร่งใสที่จะชี้แจงกับประชาชนตามที่ได้สัญญาไว้ กรณีที่พรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล จะต้องโทรหาพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดที่เคยทำงานกับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย เสรีรวมไทย ประชาชาติ ถ้าดูปัจจุบันแค่ทั้ง 2 พรรค ทะลุ 251 แล้ว ไม่มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายพิธา กล่าวอีกว่า การจัดลำดับความสำคัญจะดูกับพรรคฝ่ายค้านปัจจุบัน ถ้าพร้อมคงจบที่พรรคฝ่ายค้านปัจจจุบัน แต่ถ้าอีกพรรคหนึ่งได้เป็นอันดับ 1 เราก็ให้สิทธิ์เขาในการจัดตั้งรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน