อนุทิน เผย ส่งรายชื่อ รมต.ภูมิใจไทย ให้เพื่อไทยแล้ว ยันไม่มีประวัติด่างพร้อย รอ ‘เศรษฐา’ ส่งสำนักเลขาครม.สอบประวัติ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ของพรรคภูมิใจไทยนิ่งแล้ว และได้ส่งรายชื่อไปให้แกนนำพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นพรรคแกนนำจะส่งรายชื่อให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อประสานกลับมาที่พรรคภูมิใจไทยให้เร่งกรอกประวัติของผู้ที่จะได้รับเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อตรวจสอบประวัติก่อนว่าเป็นไปตามคุณสมบัติทุกประการ ซึ่งหัวหน้าพรรคต้องอธิบายได้ทั้งหมดว่าใครเป็นใคร เหมาะสมอย่างไร
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยแจ้งหรือไม่ว่าจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้เมื่อไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้ถาม เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีภารกิจยุ่งมากในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนเราทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าประวัติรัฐมนตรีที่พรรคภูมิใจไทยส่งไป ขาวสะอาดทุกคนหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะก่อนกล่าวว่า คำถามนี้ ไม่อยากตอบ เพราะไม่ควรถาม ผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติทุ่มเท เสียสละและไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงต้องตรวจสอบประวัติกันก่อน
เมื่อถามว่าประชาชนจะเชื่อมั่นในรัฐบาลเศรษฐา1 ได้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ครม.ทุกคณะมาจากประชาชน เพราะนายกฯ ถูกเลือกมาโดยรัฐสภา ถือว่าประชาชนเลือกมาให้ทำหน้าที่นายกฯของประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความร่วมมือกับนายกฯ อยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่ายังรู้สึกติดใจอยู่หรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ดูแลกระทรวงเดิม นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ติดใจ ตรงนั้นจบไปแล้ว ขั้นตอนนั้นผ่านไปได้ด้วยดี เข้าใจกันได้ทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องการฝากให้รมว.สาธารณสุขคนใหม่ ให้สานต่อเรื่องกัญชาและกัญชงอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยคุยกันในเรื่องนี้ ในแถลงการณ์ร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีเรื่องการนำมาใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นผู้แถลง มีอยู่ในนโยบายเรื่องทางการแพทย์และสุขภาพที่ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
แต่ที่มีปัญหาก่อนจะจบรัฐบาลชุดที่ผ่านมา คือกฎหมายค้างอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร มีการใช้เกมการเมืองกับพรรคร่วมด้วยกันเอง ทำให้ยังไม่ผ่าน ตอนนี้กฎหมายตกไปแล้ว ซึ่งรมว.สาธารณสุขคนใหม่ ต้องมาดูแลต่อไป แต่จะออกมาในรูปแบบใดนั้น ต้องเป็นนโยบายของรมว.สาธารณสุข
เมื่อถามว่าภูมิใจไทยจะมีนโยบายใดที่บรรจุในนโยบายรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า มีหลายเรื่อง ขอหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน รอการแถลงนโยบาย
ผู้สื่อถามว่าการประชุมครม.ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ประเมินแล้วว่าจะเป็นนัดสุดท้ายหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กำหนดอย่างนั้นคงไม่ควร เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าครม.ชุดเดิมจะพ้นหน้าที่ต่อเมื่อ ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้นเราต้องหน้าที่ไปจนถึงครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อถามว่ากรณีมีข่าวนายอนุทินนั่งรองนายกฯควบรมว.มหาดไทย ประเมินว่าโครงการรถไฟสายสีเขียวจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า รอโปรดเกล้าฯก่อน ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเมื่อรายชื่อถูกส่งให้นายกฯ ซึ่งต้องพิจารณาเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ
ต่อข้อถามว่าสำหรับรัฐมนตรี 8 เก้าอี้ที่พรรคภูมิใจไทยได้โควตา สามารถจัดสรรให้ครบทุกกลุ่มหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีโควตาในพรรค การพิจารณารัฐมนตรีของพรรคไม่ได้ดูจากโควตา ไม่ได้ดูจากรากฐานการเมือง แต่ดูหลายอย่างประกอบกัน ทั้งความรู้ความสามารถ ความทุ่มเททำงาน และการจะทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เราดูทุกมิติ
เมื่อถามว่าหากมีกลุ่มสส.ที่ถูกขับจากบางพรรค พร้อมรับมือหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้พรรคมีสส. 71 คน เรื่องอนาคตเราพูดไม่ได้ แต่พรรคภูมิใจไทยแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา เราเริ่มจาก 51 เสียง แล้วมีสส.มาร่วมมากขึ้น พรรคไม่ได้ทำตัวให้เป็นปัญหา ไม่ได้ขอโควตารัฐมนตรีเพิ่ม ไม่ได้ขอตำแหน่งเพิ่ม เริ่มทำงานตามที่เริ่มมาจนจบสมัย มีแต่รัฐมนตรีหายไป 2-3 คนด้วยซ้ำ
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ปิดประตูใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ต้องคุยกัน เมื่อมาเป็นรัฐบาลด้วยกันแล้ว อะไรที่ทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง เราก็ต้องพิจารณา ต้องช่วยกัน เราอย่าไปกินแรงพรรคอื่น ตรงไหนที่ช่วยได้ ทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง บริหารราชการราบรื่น ประชาชนได้ประโยชน์ พวกเราคือคนที่ประชาชนไว้ใจเลือกมาทำหน้าที่ เราต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินว่าเรือรัฐบาลใหม่ลำนี้จะเดินหน้าไปได้ด้วยความแข็งแกร่งหรือจะทุลักทุเล นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเทียบเป็นรัฐบาลผสม ก็ไม่ได้มีมากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วทำงานกันมาได้อย่างดีในภาพรวม และอยู่กันมาครบ 4 ปี ซึ่งตนรู้สึกใจหายเหมือนกัน
เมื่อถามย้ำว่ารู้สึกใจหายที่จะต้องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างนั้นหรือ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน เพราะทำงานร่วมกันมา 4 ปี
เมื่อถามว่า จะนัดหมายพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมามีตติ้งสักครั้งบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องแล้วแต่หัวหน้ารัฐบาล ซึ่งตนได้กราบเรียนพล.อ.ประยุทธ์ แล้วว่าถ้าจะชวนไปกินข้าว และตีกอล์ฟที่ไหน ก็พร้อม
