แพท ณปภา ตันตระกูล ดาราสาวชื่อดัง มาร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “สก๊อต 100 ซุปไก่สกัด 100%” ที่สกายวอร์ค สาทร ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงเรื่อง หมอลักษณ์ เรขานิเทศ ทักว่าจะมีหนุ่มๆ แวะเวียนมาขายขนมจีบ

โดย แพท เผยว่า “งงไหม อันนี้คอนเฟิร์มว่ายังไม่มี ก็ยังตกใจเหมือนกัน เพราะนี่ไม่ใช่รอบแรกนะ จริงๆ เขาบอกหลังไมค์มาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่เขาพูด ซึ่งแกก็บอกว่าจริงๆ มันเป็นเรื่องของอนาคตและใจเรา สมมติถ้าวันนี้เราเดินทางไปและมีอุปสรรคเข้ามาจนเรารู้สึกว่าเราไปต่อไม่ได้ ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ อยู่ดีๆ ก็จะมีคนเข้ามา 1 คน ที่ทำให้เราหักเหประมาณนี้ ถามว่าส่วนตัวเราเชื่อเรื่องแบบนี้มั้ย อย่าเรียกว่าเชื่อ เรียกว่า งมงายไปเลยดีกว่า ขีดเส้นใต้ไปเลย”

ที่ผ่านมามีหนุ่มๆ เข้ามาบ้างไหม “ไม่มี แพทต้องบอกตรงนี้ไว้ก่อนว่า หนึ่งเลย คือ แพทกับพี่เบนซ์เราไม่ได้ชัดเจนในเรื่องของการจะจบหรือไม่จบ ตอนนี้เราแค่ห่างกันจะครบปีแล้ว เดือนหน้าก็ปีหนึ่งแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราก็ยังไปเยี่ยมเขา ยังทำหน้าที่ของภรรยาและแม่ของลูกเขาอยู่ ซึ่งตรงนี้มันก็ยังทำให้ใครหลายๆ คน อย่างที่หมอลักษณ์บอกไงว่า คนที่เขาอาจจะมองอยู่ไกลๆ เขาอาจจะรู้สึกว่าเธอยังเป็นภรรยาของเขา และยังเป็นแม่ของลูกเขา เขาก็คงมองได้ไกลๆ แหละ ยังไม่กล้าเข้ามา อีกอย่างก็ยังไม่ถึงเวลา”

ตอนนี้เรายังใจแข็งอยู่ใช่ไหม “มันไม่เกี่ยวกับใจแข็งหรือไม่แข็งหรอก แพทต้องบอกว่าตอนนี้เส้นทางของแพท พี่เบนซ์ และลูก มันเป็นเส้นทางที่พูดยากมาก เพราะเราเลี้ยงลูกคนเดียวเลยตลอด 1 ปี กับทางบ้านพี่เบนซ์เราก็มีคุยบ้าง แต่ไม่ได้เยอะ ส่วนตัวพี่เบนซ์เอง เนื่องจากเขาอยู่ข้างใน เราก็เลยไม่เคยเอาปัญหาอะไรต่างๆ ไปคุยกับเขา”

“ในจุดตรงนี้เราเลยไม่รู้ว่าสิ่งที่มันหล่อหลอมเราหรือปัญหาอะไรหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น มันจะไปทางไหนเหมือนกัน และหากเมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาได้ออกมา มันยังจะจูนกันได้เหมือนก่อนหน้านี้ไหม เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต มันก็เลยเป็นสาเหตุให้อาจารย์ลักษณ์ได้ฟันธงออกมาเป็นแบบนี้ เพราะตัวเรากลับมาเลี้ยงลูกเองอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้ใกล้ชิดทางฝั่งครอบครัวพี่เบนซ์เหมือนเดินแล้วค่ะ

กลัวคนจะเข้าใจผิดไหม ว่าเดี๋ยวเราก็มีใหม่แล้ว “แพทเชื่อว่าหลายๆ คนเข้าใจ โดยเฉพาะคุณแม่หลายคนที่ตกอยู่ในสภาพแบบแพท มันเป็นทางเลือกที่หลายๆ คน คงเจอแหละ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเรา ที่ต้องบอกแบบนี้ เนื่องจากว่าตอนนี้ตัวน้องเองเริ่มมีการเรียนต่างๆ เพื่อเสริมทักษะ ซึ่งแพทดูแล และอีกในอนาคตสัก 2 ปี น้องต้องเข้าโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนแต่ละที่ก็ไม่ได้ถูก ณ จุดจุดนี้เราได้มีการเกริ่นไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีฟีดแบ็กตอบกลับมา อาจจะเป็นเพราะเขามองว่ามันไม่ใช่เวลา เหลืออีกตั้ง 2 ปี ดังนั้นในช่วงจังหวะเวลาตรงนี้ที่มันดำเนินไป มันก็จะเป็นเรื่องราวต่างๆ ที่เราจะต้องคุยกันค่ะ”

ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนมันมากขนาดไหน “ณ ตอนนี้แพทจะต้องแบ่งเงินเป็น 3 กอง ของแม่กับพี่สาวอยู่กองเดียวกัน ของลูกกองหนึ่ง และหลังจากที่ 2 กองนี้เต็ม ถึงจะเป็นกองของเรา คือก่อนหน้านี้มันเป็นแค่ 2 กอง มีของแม่กับพี่ และก็ของเรา แต่พอมีลูกก็ต้องแบ่งให้ลูกด้วย ที่แพทต้องแบ่งให้แม่ เพราะตอนนี้แกป่วยมีแค่ทรงกับทรุด พี่สาวแพทก็ป่วย ในอนาคตเขาจำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาของเขาทั้ง 2 คนแน่นอน แพทจึงจำเป็นต้องเก็บเงินก้อนหนึ่งให้เขา เพื่อวันหนึ่งที่มันจำเป็นต้องใช้ แพทจะได้ไม่ต้องไปขอร้องหรือหยิบยืมใคร ส่วนของลูก ตอนนี้เราก็คาดเดาไป 50-60 เปอร์เซ็นต์ ว่าอาจจะต้องเลี้ยงลูกเอง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแพทต้องเก็บเงินให้เขาเรียนจบจนถึงปริญญาตรี ส่วนที่เหลือก็ค่อยมาเป็นรางวัลของตัวเอง

เหนื่อยไหม “ก็นิดหนึ่งนะคะ แต่มันเป็นความสุข แพทชอบเห็นทุกคนมีความสุข แพทชอบเห็นคนในครอบครัว เพื่อนฝูงมีรอยยิ้ม แพทไม่อยากเห็นว่าการที่เขามาอยู่กับเรา แล้วเราจะทุกข์หรือเครียด เราอยากให้ทุกคนมีความสุข เพราะสิ่งที่แพททำอยู่มันเหนื่อยแต่ก็มีความสุข เรารู้ว่าเราทำเพื่อใคร รู้ว่าสิ่งที่เราทำเพราะอะไร และตัวเราเองก็มีความสุข”

แสดงว่าตัวเราเองก็มีการวางแผนไว้ในระยะยาวอยู่ตลอดเวลา “ใช่ค่ะ มันเป็นเรื่องที่ต้องแพลนไว้แล้ว ตอนแรกเราก็ชะล่าใจไม่ดูโรงเรียนเลย เพราะคิดว่าเป็นระยะทางที่ไกลมาก แต่เอาเข้าจริงๆ ลูกเราขวบกว่าแล้ว มันก็ไม่ไกลแล้วนะ นี่เราอยู่กันเต็มๆ แบบ 2 คน แม่ลูกมาจะปีหนึ่งแล้วเหรอ ส่วนหลายๆ เรื่องที่แพลนในอนาคต แพทตอบในเรื่องของพี่เบนซ์ไม่ได้จริงๆ ว่าสุดท้ายแล้วในวันขึ้นศาลจะเป็นยังไง เราไม่รู้ว่าวันที่เราต้องไปขึ้นศาลด้วยกันทั้ง 2 คน ศาลจะตัดสินยังไง เพราะตอนนี้ที่เขาติดอยู่เป็นแค่ระหว่างรอตัดสินนะคะ แต่ที่ศาลไม่อยากให้ประกันตัวเพราะเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ถ้าให้ประกันตัวออกไปก็จะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ออกมา ก็ไม่ต้องประกัน เราเลยยังไม่รู้ว่าในอนาคตนั้นจะเป็นยังไง”

ค่าใช้จ่ายสูงแบบนี้ให้น้องเรซซิ่ง ช่วยเก็บเงินด้วยการเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยไหม “เขาแฮปปี้ คือตอนนี้เขาก็หาได้นะ กรุ๊บๆ กริ๊บๆ ของเขา แต่อาจจะไม่ได้เยอะ ซึ่งเราก็โอเค เพราะเราคิดว่าตรงส่วนนั้นแม่ก็เก็บให้หนู แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดเยอะ เพราะเขาไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ อาจจะได้แค่จากการถ่ายแบบลงหนังสือนิดๆ หน่อยๆ และโชคดีที่ของก็ได้มาใช้โดยที่แม่ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อเนอะ (ยิ้ม) เราจะใช้วิธี พี่ส่งมา เดี๋ยวหนูรีวิวให้ ก็จะเป็นของเด็กๆ อะไรแบบนี้ ถามว่าถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ใหญ่ๆ แพทโอเคมั้ย โอ๊ย แฮปปี้ค่ะ(ยิ้ม) แฮปปี้ที่สุด”

ต่อข้อถามถึงเรื่องคดีเมจิกสกิน เราไปให้ปากคำเรียบร้อยแล้วหรือยัง “เรียบร้อยค่ะ เป็นล็อตแรก คือจริงๆ แพทไม่แน่ใจ ตอนเขาเรียกล็อตแรกจริงๆ มี 9 คน ทีนี้อาจจะด้วยวันต่างๆ ไม่สะดวกกัน ก็เลยเข้าไป 4 คน สิ่งที่พี่ๆ ตำรวจเขาอยากรู้ก็คือเราได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในกระบวนการผลิตไหม มีส่วนแบ่ง ส่วนต่างที่ได้จากผลประโยชน์ที่เขาขายไหม อันนี้คือประเด็นหลัก เพราะถ้าเรามีส่วนรู้เห็นหรือเรารับรู้เนี่ยผิดแน่นอน แล้วอีกอย่างคือเขาอยากจะรู้ว่าเราได้ใช้ไหม ได้มีการตรวจสอบถึงขั้นไหน ซึ่งตรงนี้เราก็ตอบเขาได้หมด คือแพทอยู่กับการใช้ อยู่กับของออนไลน์ อยู่กับสิ่งรอบๆตัว จะเป็นไฮท์แบรนด์ เป็นออนไลน์แบรนด์ ออฟไลน์แบรนด์ คือแพทใช้หมด ซึ่งแพทอยู่ตรงนี้มา 5 ปี ก่อนที่มันจะบูม

จริงๆจุดเริ่มต้นของการรีวิว มันเกิดจากการที่พี่ๆ เพื่อนๆ หรือคนรู้จักอยากจะให้เราช่วยใช้ แล้วก็ตามมาด้วยช่วยรีวิว จนกลายเป็นช่องทางของแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คน เขาก็เรียกใช้เรา แพทต้องบอกว่าบางอย่างเราได้เป็นของ เพราะเราอยากได้จริงๆ เราก็เอาของเขามาแลกกับการรีวิว บางอย่างเป็นของที่เขาอยากให้เราลอง พอเราลองปุ๊บเราก็นิ่งๆ พอเขาบอกให้ช่วยรีวิวหน่อย เราก็ได้สิพี่ มันเป็นแบบนี้ ในส่วนตัวของแพทเนี่ย แพทเป็นคนที่รีวิวของไม่ได้ถือแค่รูป แพทมีทำคลิปด้วย แล้วแพทรีวิวของเขาหนึ่งตัว ซึ่งตัวอื่นแพทไม่ได้รีวิวเลย เพราะว่าตัวแพทเอง จริงๆ ถ้าถามเรื่องของการรีวิวมันก็ไม่ได้เยอะมากหรอก เพราะติดพรีเซ็นเตอร์ ติดของตัวเอง ไอ้ตัวที่แพทรีวิวของเขา มันก็เกิดจากการที่เราเห็นคนใช้เยอะ แล้วก็เห็นว่าคนที่เรารู้จักคนหนึ่งรีวิว แล้วรู้จักกับพี่เขาก็เลยขอ พอขอมาปุ๊บ มันก็เกิดจากการที่ว่าโดนทาบทามว่าเอาของมาแล้วก็ช่วยรีวิวให้หน่อยแบบนี้ เราก็โอเคพี่ ได้ งั้นแพทเอามาทั้งหมด แพทขอทาน ทานเสร็จก็ค่อยรีวิว ในส่วนตรงนี้ที่ยืนยันได้ว่าแพทใช้แน่นอน ไม่ได้แค่ถือถ่าย เพราะแพทมีคลิป แล้วในคลิปก็คือแพทกิน กินเองทุกครั้ง”

กินแล้วมีผลอะไรไหมตอนนั้น “ไม่ค่ะ ไม่มี ซึ่งในส่วนที่แพทตรวจสอบ ถามว่าทำไมเราถึงกล้ากิน รีเช็คก่อนเลย 13 ตัว ว่าสวมป่ะ สรุปว่าขึ้นชื่อตรง แต่บริษัทไม่ตรง ก็เลยโทรไปว่าทำไมบริษัทไม่ตรง เขาบอกว่าเผอิญว่าบริษัทที่ลงเป็นบริษัทในเครือพี่เองไม่ต้องกังวล ส่วนหลังซองก็เป็นบริษัทของพี่เองไม่ต้องกังวล เรารีเช็คแล้วค่ะ เพราะอย่างที่บอกเรากิน เราก็ต้องเช็ค เพราะเวลารีวิวหรือเราไปทำคลิปกับคนอื่น คนที่เราไปทำคลิปด้วยเขาไม่ได้กิน แต่เรากิน อย่างคลิปตัวที่พี่ตำรวจฉายวันนั้น ก็เป็นคลิปที่แพทไปทำ แล้วในคลิปจะเห็นว่าคนที่กินก็คือเรา”

ต้องไปตรวจร่างกายไหม “แต่เราไม่เป็นอะไรไง แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะบอกทุกคนเลยคือว่า เราอยากขอโทษจริงๆ คือหลายๆ คนที่ทานตามเราเพราะเห็นเราทานจริงๆ ในคลิป เขาก็คงเข้าใจเหมือนเราว่ามันก็มี อย. ก็ต้องปลอดภัย เพราะสุดท้ายแล้วคนเราเวลาจะทานอะไรสักอย่าง วันๆ เราก็ดูแต่ อย. ว่า 13 หลักถูกไหม คงอยู่หรือเปล่า แค่นั้น ซึ่งวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ข่าวที่เกิดขึ้น มันเกิดจากพี่ๆตำรวจทุกๆคนไปเสาะหา ว่าอยู่ตรงไหน มีที่ตั้งตรงไหน พอไปตรวจสอบถึงได้รู้ว่าเป็นแค่ทาวน์โฮมที่มีชื่อป้ายบริษัท แต่ข้างในไม่มีเครื่องจักรเลย ถามว่ามีผู้บริโภคคนไหนที่ทำแบบนั้นหรือเปล่า เขาก็แค่เช็คเบื้องต้น อย. คงอยู่ แค่นี้ อย่างมากสุดก็โทรไปที่โรงงาน ก็จะเจอเหมือนแพทนี่แหละ แต่ก็ไม่มีใครที่ไปบุกถึงโรงงานเลย”

อย่างดาราหลายๆ คนอาจจะเลิกรีวิวไปเลยหลังจากมีกรณีนี้ “คือจริงๆ แพทจะบอกว่าเลิกไปมันก็เป็นส่วนดีของเขา จะได้ไม่ต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ แต่ส่วนหนึ่งที่แพทเจอปัญหามา ที่ได้ยินมาคือพวกแม่ค้าออนไลน์ ที่ตอนนี้เขารู้สึกเฟล เพราะว่าเขาค้าขายสุจริต แค่อยากมีธุรกิจของตัวเอง ทำอะไรออกมาขาย แล้วของเขาก็ไม่ใช่ของไม่ดี แล้วเขาทำถูกต้องทุกอย่าง แต่มาวันนี้พอเกิดเรื่องนี้ ทุกคนแอนตี้ไปเลย แล้วเขาจะอยู่ยังไงแล้วของที่เขาผลิตมาเป็นแสนๆ กล่อง จะทำยังไงดี”

อย่างกรณีนี้เราก็ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในส่วนแบ่งของบริษัท “เขาไม่ให้เรายุ่งอยู่แล้ว เขาไม่เคยบอก คือตรงนี้แพทเชื่อว่าทั้ง 59 คน ไม่มีใครรู้ เพราะถ้ารู้ไม่มีใครทำหรอก ไม่มีใครอยากไปสำนักงานตำรวจหรอก ไม่ว่าจะไปให้ปากคำ หรือไปให้ข้อมูล แล้วก็ไม่มีใครอยากมายืนจุดนี้ เพื่อตอบว่ารู้สึกยังไงบ้างกับการรีวิวของผิดกฎหมาย 59 คนไม่มีใครอยากอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครอยากเจอคำถามนี้ แล้วแพทเชื่อว่าเขาก็ตรวจสอบแล้ว แบบที่หลายๆ คนทำ แต่มันได้แค่นี้”

ครั้งต่อไปเรามีวิธีการตรวจสอบให้มันรัดกุมขึ้นอย่างไรบ้าง “ตอนนี้รีวิวของตัวเอง(หัวเราะ) เพราะอันนี้เชื่อใจได้ที่สุดแล้ว แต่อย่างอื่นก็ต้องขอโทษนะคะ กับหลายๆคนที่ส่งมาแล้วพยายามบอกให้ช่วยหน่อย ตอนนี้ขายไม่ได้ เงินจม ตอนนี้หนูเป็นหนี้ คือสิ่งหนึ่งที่แพทเองก็อึดอัดใจ เพราะเราก็เข้าใจว่ากระแสตอนนี้มันเป็นด้านลบซะส่วนใหญ่ แต่เขาก็บอกว่าของหนูดีนะพี่ หนูไม่เกี่ยว เราก็บอกว่าพี่เข้าใจ พี่อยากช่วย แต่ว่ามันก็เลยกลายเป็นสองจิตสองใจว่าจะยังไงดี แต่ยังไงแพทก็ยังขายของออนไลน์นะคะ”

เราสังเกตตัวเองไหม ว่าเราขึ้นโรงขึ้นศาลทุกปีเลย “แฮปปี้มั้ย(หัวเราะ) งงมาก หมอกจางๆ และควันมาบ่อยเหลือเกิน ถามว่าต้องไปพบตำรวจอีกมั้ย ยังค่ะ ตอนนี้เท่าที่สอบถาม พี่ๆ ตำรวจบอกว่าอยากจะรอเรียก 59 คนให้ครบก่อน อยากจะฟังทุกปากก่อน ว่าทุกคนไปในแนวไหนก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน