วันที่ 9 พ.ค. ที่บริษัท อาหลอง กรุ๊ป จำกัด ซอยกรุงเทพ-นนท์ 44 นักแสดงหนุ่ม “เพ็ชร-ฐกฤต ตวันพงค์” มาร่วมพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่อง “ลิขิตแห่งจันทร์” เมื่อจบพิธีบวงสรวง นักแสดงหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้อดีตผู้จัดการส่วนตัว ‘อุ๊บ วิริยะ’ ออกมาแฉ จนทำให้ คุณพ่อทรงวุฒิ พ่อของ “เพ็ชร-ฐกฤต” ออกมาโพสต์ตอบโต้ดุเดือดในอินสตาแกรม @songwut999

โดย เพ็ชร เผยว่า “จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลยครับ คุณพ่อเขียนในเฟสบุ๊คหรือในไอจีมันคือการปกป้องลูกตัวเอง จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น บอกว่าโดนเสียบแทน โดนนู่นโดนนี่ แต่จริงๆแล้วคิวเราไม่ว่าง คิวเราไม่ตรงกัน ยอมรับว่ามีการถูกทาบทามให้ลงละครบุพเพสันนิวาสจริง คือวางไว้ก่อน ทาบทามไว้ก่อน คุยกับพี่หน่อง แต่เขายังไม่ฟันธงว่าเราต้องไปเล่น ต้องดูคิวกันก่อน ไม่ใช่ว่าเราโดนเสียบอะไร”

คุณพ่อโมโหหนักไหมตอนเขียนลงไป “มีหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้”

เราก็เห็นข้อความที่เขาได้เขียนเรื่องอดีตขึ้นมา “ใช่ครับ คุณพ่อเห็น แล้วแฟนคลับเขาก็ส่งเข้ามา แชร์มาให้เราดู แต่เราก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว แต่ผมไม่ได้คุยกับพี่อุ๊บครับ ไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้อะไรเลย”

 

 

ก่อนจะโพสต์คุณพ่อได้มีคุยกับเราไหม “ต้องคุยกันก่อนครับ เราเข้าใจว่าคุณพ่อเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ว่าสิ่งที่เขาได้พิมพ์ ได้ออกสื่อไปนั้น มันคือการกรองคำพูดเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่น คำว่า “ถ้าผู้ใหญ่ไม่ห้ามไว้ ผมเอาแน่” เอาแน่ หมายถึง เราโต้กลับด้วยการพูด การคุยกันมากกว่า ไม่ได้ไปทำร้ายร่างกายอะไรขนาดนั้น และพี่อุ๊บเขาไปตีความว่าคุณพ่อไปทำร้ายร่างกาย มันไม่ใช่ไปขู่ทำร้ายเลยแต่เขาเอาไปตีความ”

 

เขาได้ติดต่อเพื่อคุยไหม “เขาไม่ได้ติดต่อมาครับ ตอนนี้ยังไม่มีการเคลียร์กัน แล้วก็ไม่ต้องเคลียร์ครับ”

หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะคนมองว่าผู้ใหญ่อาจจะรังแกเด็ก “จริงๆแล้วเขาไม่ได้รังแกหรอก แต่ด้วยความที่เราเข้าใจเขา เขาก็มีความรู้สึกน้อยใจ พี่อุ๊บก็เป็นอดีตผู้จัดการ เราก็ยังรัก ยังเคารพนับถือเขา เขาเป็นผู้ใหญ่ที่นำเราเข้ามาในวงการ ไม่เคยลืมเลย แต่ว่าด้วยบางสิ่งบางอย่าง ด้วยคำพูดของแกเนี่ย เราก็น้อยใจนะ ว่าทำไมแกถึงพูดแบบนั้น พูดในทางที่ไม่ดี ทั้งๆที่เราไม่เคยทำไม่ดีกับแกเลย”

ในส่วนที่คุณพ่อเขียนถึงเรื่องเงิน ได้มีการทดแทนบุญคุณด้วยเงินจำนวนมากแล้ว “มันก็มีส่วน การตอบแทนเราไม่ได้จำเป็นต้องตอบแทนด้วยชีวิต ถามว่าที่แกบอกว่าจะอยู่ดูแลแก จริงๆผมก็ดูแลพี่ไปเรื่อยๆ แต่ว่าเราไม่ได้สัญญาอะไรขนาดนั้น แต่พอเราโตขึ้น อะไรหลายอย่างมันเปลี่ยนไป แต่ว่าเราไม่เคยเปลี่ยนเลย ก่อนหมดสัญญาเราก็คุยกันเรียบร้อยแล้ว ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่พอเราไม่เซ็น เขาก็เลยเกิดอาการน้อยใจ”

 

บางคนมองว่าเป็นการน้อยใจ แต่บางคนมองว่าเป็นการทำร้าย “เป็นการน้อยใจมากกว่าครับ พอน้อยใจปุ๊บ มันมีผลกระทบมาถึงการหวังไม่ดีกับเรา ถามว่าเบื่อมั้ย ก็ไม่เบื่อครับมันมีอะไรให้อ่าน มีอะไรให้เยอะ(หัวเราะ) เราต้องมองโลกในแง่ดีครับ ถ้ามองลบมันก็มีผลกับเรา”

มันเยอะไปสำหรับเราไหม เพราะมันมีหลายเรื่อง ทำให้เรามีอารมณ์ไหม “พูดตรงๆนะครับ ว่าก็มีอารมณ์ แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็ก เราไม่อยากจะไปว่าผู้ใหญ่ ไปว่าคนที่มีบุญคุณกับเรา ขอนิ่งๆ ดีกว่า แต่เราก็ขอออกมาพูดบ้าง เผื่อว่าคนทางบ้านหรือคนที่ไม่เข้าใจว่าเพ็ชรเป็นอย่างนี้จริงๆ เหรอเพ็ชรเนรคุณจริงๆ เหรอ แต่เราไม่ได้เนรคุณเลย ใครๆ ก็รู้ว่าเพ็ชรเป็นคนยังไง บอกว่าเราเป็นคนอกตัญญู เราไม่ได้อกตัญญู ทุกอย่างคือน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าเราต้องช่วยกัน”

 

อย่างวันนี้เราออกมาพูดแล้ว พี่อุ๊บ วิริยะ อาจจะออกมาตอบโต้อีก เตรียมรับมือยังไง “ไม่จบไม่สิ้นครับ มาเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไร เราก็รับฟัง อ่านครับ แต่ว่าเราก็ปล่อยผ่าน ส่วนคุณพ่อปล่อยผ่านไหม ก็อยู่ที่คุณพ่อครับ เพราะว่าคนละคนกัน เราเป็นลูกชายคุณพ่อต้องออกมาปกป้องสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเขาเป็นห่วงและกังวลว่าคนภายนอกจะมองลูกชายในแง่ที่ไม่ดี มองในแง่ลบว่าลูกชายเป็นคนเนรคุณต่อคนที่มีบุญคุณพาเราเข้าวงการมา”

 

ถ้าพี่อุ๊บ วิระยะ ออกมาพูดอีก เรามีมาตรการจัดการยังไง “อันนี้เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีนึงครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วอย่างที่แกออกมาพูดหรือว่าอะไรเรา เราไม่เคยตอบกลับแก ไม่เคยด่าแก เรายังนับถือแกเหมือนเดิม คืออายุปูนนี้แล้วเราต้องพึ่งพากัน ตอนนี้ถามว่าถ้ามีงานอะไรเพ็ชรคอยช่วยอยู่แล้ว แต่ว่าพอแกมาพูดบางสิ่งบางอย่างมันแทงใจดำเราเนี่ย มันก็ทำให้เราน้อยใจเหมือนกัน แค่เราไม่เซ็นสัญญา แต่เราได้คุยกันแล้วว่าเซ็นกับไม่เซ็นมันไม่ได้ต่างกัน เราก็ช่วยเหลือกันอยู่แล้ว พี่หางานมาก็หักให้พี่ปกติ แต่แค่เราเปิดกว้างมากขึ้น แค่เรารับเองด้วย มันก็หลายๆ ทางเราก็ช่วยกันได้”

อนาคตกลัวเขาจะดิสเครดิตเกี่ยวกับเรื่องงานเรา “เพ็ชรว่าไม่เกี่ยวครับ เพราะว่ามันไม่มีผลอะไรกับเพ็ชรอยู่แล้วครับ คือเราไม่รู้จะโกรธแกไปทำไมเนอะ ถามว่าอยากเปิดใจคุยกับแกไหม ใครๆ ก็รู้ว่าแกเป็นคนยังไง ยิ่งพูดไป ยิ่งไม่จบครับ วิธีเดียวคือนิ่งๆ เงียบๆ ดีกว่ามันจะห่างๆ ไปเรื่อยๆ ดีกว่าต้องมาคอยด่าทอกันมันเป็นเรื่องยาวครับ ตอนนี้คุณพ่อก็ใจเย็นลงแล้ว เขาปล่อยวางแล้ว”

คุณพ่อบอกจะไม่เผาผีกันเลย “ใครเป็นคนพูดก่อนครับ ว่าไม่เผาผีกันคือเราไม่ได้ตอบโต้ในทางที่ไม่ดีหรือคำหยาบคายเลย แต่แกมาพูดใส่ๆ ฝ่ายเราอย่างเดียวเลยบางทีเราก็ต้องออกมาตอบโต้บ้างว่าสิ่งที่แกพูดไปนั้นมันไม่ได้เป็นความจริง พ่อแค่ปกป้องเรามากกว่าครับ”

ขอบคุณภาพจากไอจี songwut999 , oop_wiriya

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน