หลัง นักร้องเสียงดี ‘เบลล์-นันทิตา ฆัมภิรานนท์’ หรือ ‘เบลล์ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์’ ประกาศแต่งงานกับ แฟนหนุ่มนักธุรกิจด้านเกมส์ชาวญี่ปุ่น สัญชาติอเมริกัน ‘สตีเว่น ฮิโรชิ อิมานูระ’ ที่คบหาดูใจกันมากว่า 4 ปี และฝ่ายชายได้เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานกลางสวนสนุกยูนิเวอร์ซัล สหรัฐอเมริกา เมื่อต้นปี 60
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ‘เบลล์’ เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ‘ข่าวสด’ ขณะถ่ายพรีเวดดิ้งกับแฟนหนุ่มที่เขาใหญ่ ถึงการเตรียมงานว่า “ตอนนี้เตรียมงานแต่งได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ วันนี้ถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จแล้ว จะมีงานแต่งพิธีแบบไทยวันที่ 14 พ.ค. ที่บ้านเกิดของเบลล์ จ.นครราชสีมา เพื่อถ่ายทอดให้แฟนได้เห็นพิธีแบบไทย ให้เขาได้รู้ว่าพิธีการแต่งงานของไทยเป็นแบบไหน มีขบวนขันหมาก และช่วงเย็นมีฉลองมงคลสมรส 18.00 น. และจะแถลงข่าวเวลา 16.00 น. ธีมงานสีขาว เทา เงิน ชื่อธีม The Dream of The Lover ความฝันของคนที่รัก คือแฟนเบลล์เขาอยากให้เบลล์ทำตามความฝันของเราว่าธีมงานจะเป็นประมาณไหน เบลล์เน้นเป็นสีขาวสว่างๆ เรียบหรู และมีศิลปินมาร้องเพลงได้รับเกียรติจาก พี่มัม ลาโคนิค ค่ะ”
ย้อนถามถึงจุดเริ่มต้นความรักของเรา
“เขาเป็นแฟนคลับของเบลล์จากรายการไทยแลนด์ก็อตทาเล้นต์ เขาก็เข้ามาคุยกับเราทางเฟซบุ๊ค ก็ได้พูดคุยกันไปเรื่อยๆ เขาก็อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ความสัมพันธ์ค่อยๆพัฒนาขึ้น จากแฟนคลับกลายเป็นคนรู้จักกันและกลายเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ดี เป็นคนพิเสษและจนสุดท้ายกลายเป็นคนรัก คบกันเป็นแฟน 4 ปี ถึงตัดสินใจแต่งงานกัน เขาขอแต่งงานเมื่อกุมภาปีที่แล้ว ขอแต่งงานที่ยูนิเวอร์ชัล สหรัฐอเมริกา เขาให้เกียรติเราเหมือนเราเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเคยพูดว่าฉันอยากใช้ชีวิตกับเธอ เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนวันนั้นเขาพาไปเที่ยว เขาก็คุกเข่าขอแต่งงาน เราตกใจ ตื่นเต้น อายและเขินมาก ประหลาดใจหลายๆอย่างรวมกัน เซอร์ไพร์สมาก เราไม่รู้มาก่อนเลย”
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจตกลงแต่งงาน
“สิ่งที่ประทับใจคือเขาเป็นคนที่รักครอบครัว เสมอต้นเสมอปลาย พูดคำไหนคำไหน มีความรับผิดชอบ ไม่เคยทำร้ายเราเลย เขาเข้าใจความรู้สึกของเรา และเขาก็ไม่เคยมองว่าเราเป็นสาวประเภทสอง เขามองว่าเราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ และที่สำคัญคือเขารักครอบครัวของเราด้วย เพราะเบลล์จะเป็นคนที่ค่อนข้างรักครอบครัว ถ้ามีใครที่รักเรา คนนั้นจะต้องรับครอบครัวของเราได้ และเขาก็ค่อนข้างเทคแคร์ครอบครัวของเบลล์เราเลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คือใช่ เอาชนะใจเราได้”
“แฟนเบลล์เป็นนักธุรกิจที่ลอสแองเจลิส ทำธุรกิจเกี่ยวกับเกม ขายเกมพวกเพลย์สเตชั่น แผ่นเกมส์ ส่งออกด้วย ปีหนึ่งเขาก็จะบินมาหาเรา 2-3 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่เราก็จะวิดีโอคอลคุยกัน บางครั้งเบลล์ก็บินไปหาเขาบ้าง เบลล์อยู่ที่นี่ก็มีงาน เราอยู่ในวงการบันเทิงเราก็มีงานของเราที่นี่ ซึ่งเราก็เข้าใจซึ่งกันและกัน ระยะทางที่ห่างกันคนละทวีปไม่ได้เป็นอุปสรรคกับคู่ของเราเลย มันอยู่ที่้ความเข้าใจจริงๆ เราเคมีตรงกัน เบลล์ก็ไม่เคยไปจ้ำจี้จ้ำไชเขา หรือไปตามจิก เขาเป็นคนญี่ปุ่นแต่เขาจะมีนิสัยอเมริกัน ง่ายๆ เขาเติบโตที่อเมริกา และเขาไม่เจ้าชู้เลย เขาเคยมีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมาประมาณ 20 ปี และมีลูกด้วยกันสองคน ตอนนี้หย่ากันแล้ว พอระยะเวลาผ่านไปความรักมันจืดลงไปหรือเปล่าเบลล์ก็ไม่ทราบเหตุผล สุดท้ายเขาก็หย่ากันและมาเจอเบลล์ เหมือนเราเข้าไปเติมเต็มเขา”
เขาได้บอกมั้ยว่าประทับใจอะไรในตัวเราถึงอยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วย
“เขาบอกว่าเบลล์สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวประเภทสองได้ เขาเห็นความสามารถของเราตอนประกวดไทยแลนด์ก็อตทาเล้นต์ และเขาก็เชื่อมั่นในตัวเบลล์ รวมถึงเรื่องที่เรามีจิตใจที่รักการทำบุญด้วยกัน ทำบุญบริจาคช่วยเหลือ เขาก็ชอบเราตรงจุดนี้ ที่้สำคัญคือเราสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสาวประเภทสองได้เพื่อให้คนในสังคมยอมรับเราได้มากขึ้น เขาก็เลยอยากจะสนับสนุนในจุดนี้ อยากจะทำให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆแล้วความรักไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ความรักมันก็คือเรื่องของคนสองคนไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร คุณก็สามารถรักกันได้ เป็นโซเชียลมูฟเม้นต์ เราสองคนจะเป็นอีกพลังหนึ่งที่จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของเพศที่สามถูกมองไปในทางบวกได้มากขึ้น ซึ่งเราจะทำให้ดีให้เป็นแบบอย่างของสาวประเภทสองได้ ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เขารู้สึกชอบในตัวเรา และเบลล์เองรู้สึกว่าเราก็รักพ่อแม่ของเขาด้วย”
พอแต่งงานกันเสร็จก็จะบินไปจดทะเบียนสมรสที่อเมริกา
“ใช่ค่ะ และเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็นนางด้วย เพราะกฎหมายที่นู่นเขาจะเปลี่ยนให้เราหลังจากได้กรีนการ์ด เปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางได้เลย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน แต่ส่วนที่ช้าจะเป็นเรื่องของการทำวีซ่า เพราะการขอวีซ่าคู่หมั้นกระบวนการค่อนข้างนานหน่อย เพราะว่าเขาจะดูคนที่เป็นซิติเซ่นว่าสามารถเลี้ยงดูเราได้ไหม หรือว่าการแต่งงานเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาต้องใช้ระยะเวลาในการดูประวัติค่อนข้างนานกว่าจะแอพปรู๊พได้ พอแอพฟรู๊พแล้วมีกฏว่าต้องแต่งงานภายใน 90 วัน ซึ่งเราตั้งใจที่จะแต่งงานกันแล้วอยู่แล้ว เมื่อวีซ่าผ่านแล้วเราจึงต้องแต่งงานกันที่เมืองไทยก่อน แล้วจึงบินไปแต่งที่อเมริกาก่อน เป็นกฏของสถานฑูต ส่วนเรื่องจดทะเบียนด้วยที่บ้านเรายังไม่มีกฎหมายออกมาว่าสามารถให้จดทะเบียนเพศเดียวกันได้ เราก็เลยบอกกับแฟนเราว่า เราก็อยากไปถ่ายทอดวัฒนธรรมเกี่ยวกับประเทศไทยว่าเป็นยังไง เบลล์เชื่อว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน แต่มันเป็นเรื่องของคนหลายคน และเป็นประเพณี เป็นการให้เกียรติพ่อแม่เราด้วย และเขาเองก็รักครอบครัวเรา เขาจึงอยากแสดงออกเป็นการแสดงความเคารพ ก็เลยคิดว่าเราควรทำพิธีที่นี่ก่อน หลังแต่งงานเสร็จเบลล์กับแฟนจะเดินทางไปอเมริกาวันที่ 29 พ.ค. กำหนดแต่งงานที่อเมริกา วันที่ 5 มิ.ย. ค่ะ”
แพลนชีวิตหลังแต่งงาน
“ต้องรอได้กรีนการ์ดก่อน และได้คำนำหน้าให้เหมาะสมกับเพศสภาพของเราด้วย และต้องอยู่ช่วยแฟนทำธุรกิจที่นู่นก่อน แต่ถ้ามีโอกาสได้ทำงานหรือทำเพลงที่เมืองไทยก็จะกลับมา ก็อยากมีซิงเกิลให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงด้วยค่ะ แพลนงานเพลงก็มีคุยกับทางค่ายเหมือนกันว่าอยากจะทำเพลง แต่เบลล์ก็อยากจะหันมาโฟกัสเรื่องครอบครัว และชีวิตคู่ก่อน พอเราทำอะไรลงตัวตามที่แพลนไว้ พอไปที่นู่นก็ตั้งใจช่วยทำธุรกิจให้แฟนและตั้งใจเรียนต่อด้วยค่ะ”
ได้คุยกันเรื่องการมีลูกไหม
“มีคุยกันค่ะ เพราะแฟนมีลูกกับภรรยาเก่าอยู่แล้ว 2 คน และลูกเขารับเราได้ ส่วนเรื่องลูกเรากับเขาก็เป็นเรื่องอนาคต แต่เขาก็มีถามถึงเหมือนกัน ก็ต้องรอดูก่อนเพราะว่าเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ขอบคุณรูปจากไอจี : belle_nuntita
