วันที่ 22 พ.ย. ที่ ช่อง 7 ได้ มีการบันทึกรายการสด สนามข่าว 7 สี ซึ่งมี ‘แซนวิช’ ปภาดา โชติกวณิชย์ นักแสดงสาวที่ตกเป็นข่าวคบหาดูใจกับร็อกเกอร์หนุ่มชื่อดัง ‘เสก โลโซ’ หลังจากบันทึกรายการสด นักแสดงสาวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชิลๆ ถึงความสัมพันธ์กับร็อกเกอร์หนุ่ม
โดยผู้สื่อข่าวถามว่า เพิ่งเข้ามาคนก็รู้จักเลย เพราะมีข่าวกับพี่เสก “มันเป็นเรื่องปกติของวงการนี้ ไม่ซีเรียสหรือว่าตกใจอะไรเรื่องนี่ ตอนที่คบกับพี่เสกนึกภาพไว้แล้วว่าวันนึงต้องเป็นข่าวกับเขา แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ มันเร็วไป ตอนวันลอยกระทงเขาก็โพสต์รูปลอยกระทงด้วยกัน”
ตอนเห็นรูปตกใจไหม “มารู้ตอนที่เป็นข่าวแล้ว เพราะว่าวันนั้นตื่นสาย เพราะว่าเป็นวันหยุด โทรศัพท์ก็ปิดเสียงหมด มารู้อีกทีเย็นแล้ว ผู้จัดการโทรมา เลยไปเปิดดูข่าว ก็เห็นข่าวขึ้นมาเต็มหมดเลย แซนก็โทรไปหาเขาบอกว่าข่าวเต็มไปหมดเลย พี่เสกเขาก็แซวว่าเป็นไง ได้ข่าวว่าดังนิ(หัวเราะ)”
คิดไหมว่าจะกลายเป็นข่าวที่มีคนสนใจขนาดนี้ “ไม่ค่ะ คิดว่าเป็นข่าวคนคุยกันทั่วไป คนคบกันก็ต้องเริ่มจากศึกษากัน คุยกัน ไม่คิดว่าคนจะหันมาให้ความสนใจขนาดนี้”
กับพี่เสกรู้จักกันได้อย่างไร “วันนั้นเพื่อนแซน ชื่อพี่บอยรู้จักกับพี่เสกอยู่แล้ว ไปทานข้าวกันกับพี่เสก เขาชวนแซนไปด้วย เลยได้เจอกับพี่เสก เลยได้มีการคุยกัน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คุยกันเป็นพี่น้องทั่วไป มีการแลกไลน์กัน เนื่องจากมีการถ่ายรูปในกล้องของแซน แล้วก็ส่งรูปให้พี่เสก นี้คือประเด็นที่บอกว่าเราไปจีบเขาก่อน เขาต้องการรูป เขาบอกว่าส่งรูปให้พี่หน่อย จากนั้นก็ได้มีการคุยไลน์กันมาเรื่อยๆ”
พอเสกบอกว่าเราจีบเขาก่อนรู้สึกอย่างไร “ตลกดี เขาเป็นคนขำๆ อยู่แล้ว”
หลังจากที่คุยไลน์กันมาอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าถูกใจใช่เลย “อาจจะยังไม่ใช่ก็ได้(หัวเราะ) ประทับใจในความเป็นผู้ใหญ่ เรื่องที่บอกว่าชอบเขาเพราะว่าเขาดิบเถื่อน มันไม่จริง ข้างหลังที่คนไม่เคยเห็นเขาไม่ได้ป่า เถื่อนดิบ เขาก็เป็นคนที่ปกติทั่วไป เป็นคนจิตใจดี แล้วเขามีความเป็นผู้ใหญ่ สอนมุมมองที่เราไม่เคยรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในวงการหรือการใช้ชีวิต เขาจะสอนในเรื่องการสู้ชีวิต เราก็โอเค เวลาที่คุยกับเขา เขามักจะมีความรู้ใหม่ๆ มาบอกเราตลอด คุยกับพี่เขาไม่เครียด”
กังวลไหมเพราะว่าภาพพี่เสกค่อนข้างแรง “ไม่กังวล เพราะว่าแซนเพิ่งเริ่มศึกษากับเขา ก่อนเจอพี่เขาแซนคิดภาพเขาไว้ว่า เขาต้องดิบเถื่อน ไม่มีมารยาท แต่พอรู้จักกันจริงมันไม่ใช่ เขาเป็นอีกคนนึง คนที่อยู่รอบตัวเขาจะเห็นว่าเขาเป็นคนยังไง เขาเป็นคนน่ารัก ไม่ได้ดิบเถื่อนอย่างที่ทุกคนคิด”
ตัดสินใจนานไหมที่เราจะคบกับเสกหลังจากที่แลกไลน์กัน “นานค่ะ ประมาณ 4 เดือน มีช่วงที่เราเริ่มรู้ว่าพี่เสกเริ่มจีบ เขาจะโพสต์ลงรูปก่อนแล้วเข้ามาถามแซนว่ากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เราก็ถามกลับไปว่า พี่จีบหนูเหรอ เขาก็บอกว่าใช่ แล้วตอนนี้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว แซนบอกว่า 30 เปอร์เซ็นต์มั้ง พี่เขาบอกน้อยจัง 50 เปอร์เซ็นต์ได้ไหม ยอดมาเรื่อยๆ”
ตอนนั้นที่รู้ว่าเขาเริ่มจีบเรามีหวั่นไหวไหม “ตัวแซนไม่ซีเรียสเรื่องความรัก หรือว่าเรื่องคู่ ไม่ได้มุ่งเน้นตรงนั้น เพราะเราเน้นเรื่องการทำงาน แต่การที่เราจะเรียนรู้คนคนนึงไม่น่ากลัวอะไร วันนี้เราเรียนรู้เขา แล้วรู้สึกว่ามีสิ่งในตัวเขาที่เราไม่ชอบ เราก็ถอยหลังกลับมา ก็ไม่ต้องไปต่อแค่นั้นก็แฟร์กัน”
วันที่เขาขอเราเป็นแฟนมีโมเม้นต์ยังไง “ไม่นะขอเป็นแฟน มันเป็นไปตามความรู้สึก ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้เพิ่งศึกษากัน เรารู้ว่าเขาจีบเรา แต่เราไม่รู้ว่าเขารู้สึกว่าเราเป็นแฟนเขาแล้วตอนไหน เพราะเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าเป็นแฟนกันนะ”
ตอนนี้เป็นแฟนกันหรือยัง “ศึกษากัน ดูกันไปทุกอย่างขึ้นอยู่กับอนาคต”
กับข่าวที่ผ่านมาของพี่เสก มันมีผลกับการตัดสินใจคุยกับเขาไหม “เข้าใจทั้งเขา และเข้าใจกับคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องของเขา เราเข้าใจทุกคน เพราะว่าเราเองก็ห้ามใครคิดไม่ได้นะ เรามองตัวเราเป็นหลักมากกว่า ซึ่งเราก็ไม่ได้ถามพี่เขาและพี่เขาก็ไม่ได้เล่าให้ฟังด้วย พี่เขาก็ให้กำลังใจเรา บอกให้เราเข้มแข็ง”
ทางบ้านว่ายังไงบ้าง “คุณแม่ก็มีถามว่าคบกับพี่เสกเหรอ แต่เราก็ยังไม่ได้เล่าให้ท่านฟังสักเท่าไหร่ เพราะเราไม่อยู่กับท่าน อยู่กับคุณพ่อมากกว่า ซึ่งคุณพ่อก็มาถาม มาคุย แต่ท่านก็ไม่ค่อยมายุ่งเรื่องของแซนอยู่แล้ว แต่ท่านก็จะให้คำแนะนำว่าควรทำยังไง ปฏิบัติตัวยังไง และการใช้ชีวิตมีเป้าหมายแบบไหน”
เห็นเสกบอกว่าเจอกับแม่แล้ว “ได้เจอกันเมื่อวันเกิด เขาก็คุยกันปกติเพราะตอนนั้นแซนกับพี่เสกยังไม่ได้อะไรกัน และวันนั้นเป็นวันเกิดพี่บอย ก็เชิญพี่เสกมาร้องเพลงและแม่เราก็เป็นแฟนคลับของพี่เขาด้วย(หัวเราะ) ซึ่งเขาก็ไม่ได้คุยหรือว่าถามพี่เขาว่าเป็นแฟนลูกสาวเหรอ เขาก็มาในนามของแฟนคลับ ติดตามผลงานมากกว่าแต่พอเรามาเป็นแฟน เราก็ยังไม่ได้คุยกับแม่เลย”
ระหว่างที่เราคุยกันจนมาถึงคบหาเป็นแฟน มีใครรู้บ้าง “มีผู้ใหญ่และคนใกล้ตัวก็ทราบ เราก็เล่าให้ท่านฟังว่าเราคบใคร คุยกับใครอยู่แล้วยิ่งเป็นพี่เสกด้วย ก็ต้องช่วยดู ท่านก็ช่วยดู แต่ด้วยความที่เราโตแล้ว ท่านก็ไม่ได้เตือนอะไรมาก ท่านบอกว่าให้ศึกษาดูกันไป ไม่ต้องรีบร้อน”
แต่ก็จะมีข่าวว่าเรามาเกาะกระแสพี่เสกเขาหรือเปล่า “ถ้าแซนจะเกาะกระแสพี่เขาดัง หนูคงโพสต์รูปคู่กับพี่เขาไปนานแล้วมั้งคะ คงไม่ต้องรอให้พี่เขาต้องออกมาพูด หรือออกมาโพสต์รูปคู่ก่อน จนเกิดข่าวตูมตามขนาดนี้หรอกคะ (ยิ้ม) ส่วนการที่เราเพิ่งเข้าวงการมาใหม่ แล้วเป็นข่าวกับพี่เขาจนกระทบกับงานเราเลยไหม ก็มีคิดบ้างคะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นกังวลอะไรมากมาย แซนเชื่อว่าระยะเวลามันจะพิสูจน์คนเอง ว่าใครหรือคนนั้นเป็นยังไง แซนเชื่อว่าหลายคนน่าจะเข้าใจ ให้มองในมุมของผลงานมากกว่า อย่ามองว่ากำลังคบใคร หรือทำไมไปคบกับคนแบบนี้”
มีคนถามไหม ทำไมถึงมาคบกับคนแบบนี้ “อย่าคิดอย่างนั้นเลย แซนคิดว่ามันเป็นโอกาส มีโอกาสได้เจอกัน มันเหมือนคนๆ นึงมีโอกาสได้เจอกันบังเอิญ ได้คุยกัน ปกติแซนก็ไม่ได้คบใคร เราก็ตามสบายๆ เราไม่ใช่แบบว่าเห็นพี่เสกแล้วชี้เป้า พุ่งเข้าใส่(หัวเราะ) มันไม่ใช่ เรียกว่าเป็นโอกาสที่ได้เจอกัน และได้คุยกัน มีการสานต่อและพัฒนากัน”
อะไรที่อยากทำให้เราพัฒนากับเขา “แซนมองในมุมที่พี่เขาเป็นผู้ใหญ่มากกว่า แซนคุยกับเขาแล้วสบายใจ แต่คือยังไม่ได้ตกลงปลงใจว่าฉันจะอยู่กับคุณไปจนตลอดชีวิต แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นศึกษา เราคุยกันนะ เราคุยกันแล้วโอเค สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายนะ ไม่ได้มีอารมณ์กุ๊กกิ๊กเหมือนวัยรุ่น”
อายุห่างกัน 17 ปี เป็นช่องว่างระหว่างวัยไหม “ไม่นะ ความรักมันไม่มีขอบเขต ความรักมันเป็นสิ่งสวยงามและอีกอย่างนึงมันยังไม่ได้แต่งงาน”
สเป๊กของแซนวิชเป็นแบบไหน “ตอนนี้แซนยังไม่ได้คิดเรื่องแฟนเลยค่ะ”
แล้วเสกล่ะ “ไม่ๆ บังเอิญเขาเข้ามาพอดีค่ะ เราไม่ได้สรรหาว่าฉันจะต้องมีแฟนตอนนี้ ไม่ได้ตั้งเป้าตรงนั้นไว้ค่ะ ยังไม่ได้คิดล่วงหน้าไว้ แฟนในอุดมคติของแซนจริงๆ แซนชอบคนที่คุยกันแล้วเข้าใจ อยู่กันแล้วมีความสุขแค่นั้น อีกอย่างคนจะมองว่าทำไมไปเอาผู้ชายเจ้าชู้ ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเขาจะเผยตัวตนออกมามากน้อยแค่ไหน เรารับได้ตรงนั้นมากน้อยแค่ไหนแค่นั้นเอง”
แสดงว่าเราก็มีวิธีปราบผู้ชายเจ้าชู้ “ไม่ปราบอะไรค่ะ แต่การคบของแซนคือถ้าแซนคบแล้วสบายใจแซนก็คบ แต่ถ้าวันนึงแซนรู้สึกว่าไม่มีความสุข อยู่แล้วไม่โอเคก็ถอยออกมาแค่นั้นเอง”
เท่าที่คบตอนนี้ถือว่าถูกใจไหม “ตอนนี้ก็ยังโอเคอยู่ ยังไม่ได้มีความทุกข์อะไร”
ที่ผ่านมาสาวๆ เขาเยอะมาก ตอนนี้ยังมีไหม “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขานะคะ แซนไม่ค่อยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา ถามว่าถามเขาไหมเรื่องเจ้าชู้ ไม่ได้ถามค่ะ ไม่เคยถามอะไรเกี่ยวกับชีวิตเขาเลย นอกจากตัวเขาเล่าให้ฟังเอง เขาเล่าให้ฟังตลอดว่าพี่มีผู้หญิงนั่นนี่ เขาเป็นคนเปิดเผยอยู่แล้ว”
เขาบอกไหมว่าเป็นแฟนเขาต้องอดทน “เขาบอกว่าเป็นแฟนพี่ต้องเข้มแข็ง แซนก็เลยบอกว่าแซนเข้มแข็งนะ แต่แซนไม่ทน (ยิ้ม)”
เสกบอกว่าประทับใจเราที่พาหมาไปหาหมอ “คือจริงๆ แซนเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว และพอเราเห็นหมาเขาป่วย คือน้องแฮร์ร็อดน่ะ แล้วเขาไม่อยู่บ้าน เขาเป็นแผลสักอย่างที่มันลาม ถ้ามันเข้าตาจะตาบอดได้ เห็นแล้วไม่มีคนอยู่บ้านเลยไปกับแม่บ้านเขาค่ะ แล้วคลินิกมันก็อยู่ตรงนั้นพอดี ถึงไม่รู้จักกับพี่เสกแล้วเห็นหมาเป็นอย่างนั้นก็พาไปหาหมออยู่ดีค่ะ”
กับเรื่องที่เสกบอกว่าเราเก็บผ้าปูที่นอนให้ คนก็มองในด้านลบ “จริงๆ บ้านพี่เสกเหมือนเป็นบริษัท เพื่อนเขาก็ไปกันปกติอยู่แล้ว เข้านอกออกในเป็นเรื่องปกติ ที่เก็บผ้าปูที่นอนคือห้องเขารกมากไงคะ เราเห็นห้องแล้วโห…พี่ บ้านพี่ห้องพี่เหมือนป่าเลย (หัวเราะ) เห็นแล้วมันรกหูรกตา แซนไม่ชอบอยู่แล้ว ก็เลยเก็บแค่นั้นเองไม่มีอะไร”
คนตีความไปผิดๆ แซนจะบอกว่ายังไง “ไม่ เราห้ามความคิดใครไม่ได้ค่ะ”
อดีตภรรยาของเสกโพสต์ว่าเราแอบคบกัน และโพสต์ถึงขั้นว่าไปแย่งเขามา เพราะก่อนหน้านี้คนเข้าใจว่าเสกกับภรรยาคืนดีกันแล้ว “ถ้ากรณีนี้ขอไม่พูดถึงดีกว่าเนอะ เพราะที่เขาโพสต์ก็โพสต์ในพื้นที่ของเขา เขาจะระบายอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่เข้าไปรบกวนหรือเข้าไปยุ่งกับเขาดีกว่า ต่างคนต่างอยู่ พี่เสกก็บอกว่าเรื่องนี้ให้เราเฉยๆ อย่าไปคิดอะไรมาก”
เห็นเขาโพสต์พาดพิงถึงผู้จัดการเราด้วย “ก็อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันค่ะ”
การเป็นแฟนกับเสก ส่งผลกับแซนวิชทางตรงยังไงบ้าง “ส่วนมากคนจะเข้ามาถาม เพราะงงว่าเราคบกับพี่เสกจริงเหรอ มีส่งแช็ตมาถามบ้าง แต่หลังๆ พอพี่เสกให้สัมภาษณ์ว่าคบกัน ก็มีคนมาให้กำลังใจให้แซนเข้มแข็ง เพราะอาจจะโดนข่าวเยอะ และมีทางแฟนคลับพี่เสกมาให้กำลังใจด้วย”
การเป็นแฟนร็อกเกอร์ต้องทำตัวยังไง “ไม่ต้องทำยังไง เพราะแซนก็เป็นของแซนแบบนี้เพราะพี่เขาก็เป็นคนๆ นึง”
เหมือนเรายังไม่ค่อยกล้าใช้คำว่าแฟน เรายังมีอะไรติดในใจหรือเปล่า “มันยังเป็นช่วงศึกษาดูใจกันอยู่ เรายังไม่อยากพูดอะไรมาก ด้วยตัวเราเป็นผู้หญิง เขาเป็นผู้ชายเขาจะพูดอะไรก็ได้(หัวเราะ) แต่เขาเป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว เราก็ดูดูกันไป ในอนาคตจะเป็นยังไงให้มองเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า ตอนนี้ยังไม่อยากจะพูด”
การคบกันของเรา ส่วนมากใช้ชีวิตประจำวัน ทำอะไรด้วยกันบ้าง “มุมมุ้งมิ้งไม่มีหรอกค่ะ เพราะต่างคนต่างทำงาน เขาก็งานเยอะ แซนก็ถ่ายละคร ทำงานของเราไป จะมีก็ทานข้าวกันปกติ ส่วนมากจะคุยไลน์กัน”
เห็นเราชอบพาเสกเข้าวัด “ค่ะ ก็มีชวนไปวัดบ้าง จริงๆ พี่เสกเป็นคนชอบทำบุญนะ แต่คนอาจจะไม่ค่อยเห็นในมุมนี้ เขาใจบุญ ทำบุญบ่อย ชอบช่วยเหลือคน แต่เขาไม่ค่อยโพสต์ในโซเชี่ยล”
เราได้เจอลูกๆ เสกบ้างหรือยัง “ยังเลยค่ะ เพราะเป็นเรื่องของครอบครัวเก่าเขา แซนไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายตรงนั้น”
คนอาจมองว่าตอนนี้เป็นความรักช่วงโปรโมชั่น ทำให้อะไรยังดูดีไปหมดเรารู้สึกยังไงบ้าง “แซนว่าไม่เฉพาะพี่เสกหรอกค่ะ ทุกคู่ความรักช่วงแรกมันหวานหมดอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ที่เป็นข่าวเพราะแซนคบกับพี่เสก แต่จริงๆหลายๆคู่ก็เป็นแบบนั้น แรกๆ หวาน หลังๆ เหมือนข้าวจิ้มเกลือ คือ คนเราจะคบกันต้องศึกษา เหมือนเราเรียนหนังสือ เราไม่ได้เรียนแค่วิชาที่เราชอบ เราต้องเรียนทุกวิชา แล้วถ้าเราโตขึ้น ถ้าเรารู้สึกว่าเราชอบในวิชานั้นเราถึงเลือกทำงานในทางที่เราถนัด ความรักก็เหมือนกัน ถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่เราก็เลิกกันไป จบกันไป ก็แค่นั้น เป็นสัจธรรมของโลก น้อยคู่มากที่จะรักกันยืนยาวจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ขนาดนั้น”
ถ้าท้ายที่สุดแล้วความรักนี้จบลงไม่สวย คนอาจจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่าเดิมอีก เรามองตรงนี้ไว้อย่างไรบ้าง “คนจะมุ่งประเด็นเพราะเป็นพี่เสก แต่จริงๆ หลายๆ คู่ที่รักกันไปแล้วก็เลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้ ตอนนี้แซนก็ยังบอกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของอนาคตจริงๆ”
เรายังยืนยันว่าจะศึกษาเสกไปเรื่อยๆ “ถ้าวันหนึ่งเขาไม่ใช่จริงๆ พี่เสกก็เป็นพี่ชายคนหนึ่ง ที่สามารถให้คำแนะนำเรา เป็นไอดอลในด้านความคิดบวก ก็อย่าเพิ่งซีเรียสอะไรมาก เรายังไม่ถึงขั้นแต่งงานมีลูกด้วยกัน”
กระแสสังคมมีผล กดดันเราบ้างไหม “แซนไม่ซีเรียส เพราะแซนไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบในตัวเราได้ ต่างคนต่างความคิด เราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ ให้เขาใช้เวลามองคนดีกว่า แล้ววันหนึ่งเขาจะรู้เองว่าใครเป็นยังไง”
เร็วๆนี้มีแพลนไปไหนด้วยกันไหม “ยังไม่มีค่ะ”
