วันที่ 21 พค. ที่สตูดิโอ5 ช่อง 9 อสมท. อดีตนักแสดงหนุ่ม “พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์” ควงแฟนสาว “ฟอว์น-ไปยดา มหิทธนันท์” มาออกรายการ “หม้ายตัวแม่” เผยถึงเรื่องเตรียมจะแต่งงานปลายปีนี้
หลังจบรายการทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวดี โดย พอล เผยว่า “ตั้งแต่ผมคบกับเขา ก็คิดมานานแล้วว่าคนนี้แหละที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตเลย เพียงแค่หาจังหวะว่าเมื่อไหร่จะได้ขอเขาแบบเป็นทางการ”

วันที่ไปขอเขาแต่งงาน ได้วางแผนอะไรไว้บ้าง
พอล : “ผมว่าเรารู้กันอยู่แล้ว และด้วยความที่ฟอว์นไม่ชอบเซอร์ไพรส์ แต่ผมเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ ซึ่งเมื่อก่อนเคยทำมาหลายอย่างแล้ว อย่างวันวาเลนไทน์ก็ซื้อดอกไม้ให้ ซึ่งเขาก็ว่าซื้อทำไม เปลือง คือเขาเป็นคนนิสัยแบบนี้จริงๆ ครับ เพราะฉะนั้นตอนจะขอก็เหมือนกัน เรารู้เลยว่าถ้าเราไปเตรียมอะไรเยอะแยะ เช่น ดนตรี หรือการเซอร์ไพรส์อะไรต่างๆ เขาก็ไม่ได้ชอบตรงนั้นอยู่ดี เราเลยตัดสินใจเอาแบบเรียบๆ ง่ายๆ เลยก็คือ วันเกิดไปกินข้าวกันนะ และเราก็ได้ขอเขาในวันเกิด อยากให้เป็นสัญลักษณ์ว่า เขาเป็นของขวัญของเราที่ดีที่สุดเลยที่เราเคยได้รับมา”

ฟอว์น : “ตอนที่เขาขอ ก็ตื่นเต้น จริงๆ เหมือนเราแอบคิดอยู่แล้วว่าวันนั้นอาจจะมี แต่ก็อาจจะไม่ (หัวเราะ) คือที่พอรู้ก่อนเพราะเราได้มีการคุยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ และเขาก็มีคุยกับคุณพ่อคุณแม่เราอยู่แล้ว”

วันนั้นมีน้ำตาไหม
ฟอว์น : “ไม่มีค่ะ”

พอล : “เขาจะออกแนวขำมากกว่า จะเป็นแนวฮา ตัวจริงเขาเป็นคนตลกครับ”

ตอนจะขอมีอาการตื่นเต้นไหม
พอล : “ตื่นเต้นครับ บอกเลยว่าตอนแรกคิดว่าสบายมาก เรื่องแบบนี้ทำมาหลายครั้งแล้ว ผมหมายถึงเล่นละครนะครับ (ยิ้ม) ตอนเราเป็นพระเอกในทุกๆ เรื่องส่วนใหญ่ก็จะมีฉากขอแต่งงานในทุกรูปแบบ เราเลยคิดว่าเรามีโอกาสได้ซ้อมมาเยอะกว่าหนุ่มคนอื่นๆ แต่พอวันจริงปุ๊บ ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเปิดกล้องแหวนทางไหน ทุลักทุเลพอสมควร แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ”

แผนที่เตรียมมาเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ไหม
พอล : “ภาพรวมถือว่าเข้าเป้า สำเร็จ แค่ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ก็มีบ้าง อย่างดนตรีจริงๆ ต้องมาหลังจากที่เขาตอบตกลงแล้วนะ ซึ่งเอาเข้าจริงดนตรีมาก่อน แต่อันนั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเรามาก เพราะผมว่าทุกอย่างมันคือองค์ประกอบที่ทำให้ความไม่สมบูรณ์มันสมบูรณ์นะ”

หลังจากนี้ต้องเตรียมงานยังไง ได้ฤกษ์วันแต่งแล้วหรือยัง
พอล : “เราได้วันแล้ว ก็คือวันที่ 11 พ.ย. ปีนี้ครับ มีคนถามเราว่าไปดูฤกษ์ที่ไหนมา บอกเลยครับว่าฤกษ์สะดวก เพราะเรากางปฏิทินกัน 2 คน ว่าจะเอาวันไหนดี ก็สรุปเลือกวันเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ แต่เราไม่ได้มีงานเหมือนคนอื่น ไม่ได้จัดโรงแรมเหมือนคนอื่นเขา เราชอบอะไรที่เป็นสวนตัวงานเล็กๆ แล้วเราก็ได้มีการคุยกับทางคุณแม่ของฟอว์น แล้วเขาก็เห็นด้วยว่างานเล็กๆแบบนี้ โอเค ก็เชิญผู้ใหญ่ฝั่งเขาและฝั่งเรามาทำพิธีเล็กๆร่วมกัน ส่วนเพื่อนๆที่เหลือเราก็มานัดกินข้าวกัน เป็นกลุ่มๆกัน ส่วนงานปาร์ตี้จัด
ที่บ้านผมเองครับ”

งานจัดตอนไหน
พอล “เราคิดว่าจัดตอนบ่าย ทุกคนได้ตื่นสายๆ เราเป็นคนสบายๆ ทุกคนมาพร้อมเวลานั้น ฤกษ์สวมแหวนก็ยังไม่ได้คิดครับ เราเป็นแบบสบายๆ ให้ทั้งสองฝั่งสบายๆครับ”

สินสอด
พอล “ผมนี่ล่ะครับ(หัวเราะ) ไม่ใช่ๆ จริงๆได้มีการถามทางคุณพ่อคุณแม่ไปเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ผมบอกเท่าไหร่ก็ได้ ท่านไม่ได้ซีเรียส เรื่องสินสอดยังไม่ได้คิด ยังไม่ได้เตรียม โดยส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยเชื่อเรื่องสินสอดว่าถ้าเยอะแปลว่ารัก น้อยแปลว่ารักน้อง ผมว่ามันไม่เกี่ยว แต่ถามว่ามีเพื่อให้ทางผู้ใหญ่สบายใจ เราก็ต้องทำ ส่วนตัวเท่าไหร่ขอไปคิดอีกทีแล้วกันครับ”

หลายคนแซวว่าคู่เราเป็นคู่รักร้อยล้าน
พอล “คือผมเข้าใจ คนอื่นที่มองเข้ามา ข้อแรกเลย สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้นะครับ แต่จริงๆ เราแฮปปี้ เราเน้นทั้งสองฝ่ายแฮปปี้ ส่วนตัวเลขเป็นเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องรองมากๆ”

ฟอว์น เผยต่อว่า “ฟอว์นว่าปัจจุบันผู้หญิงทุกคนเราไม่ได้อยากได้สิ่งของ หรือเงินทอง โดยเฉพาะผู้หญิงปัจจุบันหาเงินเองได้ ซื้อของเองได้ สิ่งที่เราอยากได้คือความมั่นใจมากกว่า ความสงบสุขในใจ อยู่ด้วยกันตลอดไป มีคนคนนึงรักเราแบบไม่มีข้อกำจัดมากกว่า”

จดทะเบียนไหม
พอล “ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่ได้คิด จดไม่จดไม่ต่างสำหรับผมนะ”

จะมีทายาทเลยไหม
พอล “ตอบได้เลยว่าไม่มี เราก็คิดเหมือนกัน ถึงได้อยู่ด้วยกัน ผมเองก็ไม่ได้อยากมีลูกตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเด็กนะ ผมแค่รู้สึกว่าเรามีเด็กที่ไม่มีครอบครัวเยอะแยะเลย ก็ไม่รู้ว่าเราจะผลิตเพิ่มทำไม ส่วนในมุมของเขาก็ไม่ได้อยากมีเหมือนกัน คิดคล้ายกัน”

ทำไมไม่อยากมี
ฟอว์น “เราติดห่วงค่ะ เราก็รู้ว่าถ้ามีก็ต้องรักเขาเยอะๆ เขาไปไหนเราก็จะห่วงนู่นห่วงนี่ ด้วยความที่ทุกปี พี่พอลก็ส่งเด็กเรียนอยู่แล้ว ให้การศึกษา ส่งเด็กเรียน ยังมีเด็กอีกหลายคนที่ยังขาดด้านนี้อีกเยอะ ที่เราช่วยเขาได้ และไม่ต้องห่วงด้วย ก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า”

ทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายไม่อยากอุ้มหลานหรอ
พอล “ทางฝ่ายผมมีหลานเรียบร้อยแล้ว 2 คน คุณแม่โอเคแล้วนะ จริงๆ ต้องขอเสริมอีกนิดนึง อีกเหตุผลนึง ที่ส่วนตัวเราเองไม่อยากมีลูก การเป็นพ่อแม่คนก็เป็นภาระ เป็นงานที่ใหญ่หลวงมาก ยาก และรู้สึกว่าเราคงเป็นได้ไม่ดี ก็ไม่เป็นดีกว่า แต่ยินดีเลี้ยงลูกเพื่อนนะ (ยิ้ม) บอกเพื่อนทุกคนแล้วว่า ถ้าไปเที่ยวเมืองนอก ติดงาน เอามาฝากเราได้”

หลายคนอยากรู้จักเจ้าสาวของพอลมากขึ้น
ฟอว์น “เป็นบิสิเนส เดเวลอปเม้นท์ ร้านอาหาร และมีโปรเจ็คใหม่ด้วยกัน เกี่ยวกับการพัฒนา เดเวลอปเม้นท์ จะเป็นคนทั่วไป หรือ องค์กร ผู้ประกอบการ”

ความรักครั้งนี้เกิดจากการร่วมงานกัน
พอล “ไม่นะ เริ่มต้นไม่คิดว่าเราจะทำงานร่วมกันด้วยซ้ำไป เราแค่ชอบเขา เจอกันที่งานไหนซักงานนึง มากกว่าหนึ่งงานแน่ๆ และเรามีเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันหลายคน พอเจอเขาก็ชอบเขา ก็ไปส่องในเฟสบุ๊คเขา อยู่หลายปี ค่อยติดต่อทักเขาไป”

เจอแล้วประทับใจพอลเลยไหม
ฟอว์น “ครั้งแรกน่าจะยังไม่ทันสังเกตเนอะ เจอกับแว๊บๆ ตามงานอีเว้นท์ คนเยอะมาก ถามว่าเขาจีบนานไหม ก็นานนะ แล้วไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาจีบ เขามาคุยในฐานะเพื่อน”

ระยะเวลาในการศึกษาดูใจ
พอล “ประมาณ 5 ปีนะ”

สำหรับคู่เราถือว่าเป็นคู่ที่หวานมั้ยตลอดเวลาที่คบกัน5ปี
พอล “ก็มีบ้าง เราเป็นคู่ที่เข้าใจกันมากกว่า เราแทบไม่เคยทะเลาะกันเลยตั้งแต่คบกันมา มีทะเลาะกันเรื่องเดียวคือเรื่องกิน คือเกี่ยงกันว่ากินอะไรดี ช่วยคิดหน่อยนี่คือทะเลาะที่สุดแล้วของเรา นอกนั้นไม่มี ผมว่าเราเป็นคู่ที่เข้าใจกัน เราเป็นมากกว่าคนที่รักกัน เราเป็นเพื่อนที่สนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย อยู่ด้วยกันทั้งยามดียามร้าย ก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าหวานมั้ย โดยรวมเราเป็นคู่ที่มีความสุขแล้วกัน”

ฟอว์นประทับใจอะไรในตัวพอลถึงเลือกให้เขาเป็นคู่ชีวิต
ฟอว์น “เขาเป็นคนนึงที่มีหัวใจที่ดี เขาเป็นผู้ให้ ฟอว์นชอบที่เขาเป็นคนสุภาพ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เขาก็ยังเหมือนเดิม เขาอยู่กับเราในวันที่ดีที่สุดและก็แย่ที่สุดเขาก็ยังอยู่กับเรา ที่สำคัญประทับใจที่เขาเป็นคนที่รักคุณแม่มากและด้วยความที่เราก็รักครอบครัว ฟอว์นก็รู้สึกว่าคุณแม่เขาก็รักเรา ครอบครัวเราก็รักเขา”

พอลล่ะทำไมถึงต้องเป็นผู้หญิงคนนี้
พอล “เขามีหลายคุณสมบัติครับ แน่นอนเลยคือเขาเป็นคนดี จิตใจดี ไม่เคยพูดร้ายถึงใครเลยซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เขาเป็นคนห่วงใยคน พูดถึงเพื่อนในทางที่ดี ปฎิบัติกับพ่อแม่อย่างดี เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนรอบตัวเขาเล็กๆน้อยๆเขาดูแลหมด เป็นคนไม่งี่เง่า เขาเป็นคนที่คอยสนับสนุนเราตลอดไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะดีจะแย่เขาก็ยังอยู่กับเรา ผมจะชอบเรียกเขาว่า sunshine ก็คือพระอาทิตย์ขึ้น เวลาอยู่กับเขาเรารู้สึกเหมือนช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นแสงสว่างให้เรา”

ขอบคุณภาพจากไอจี paulpattarapon

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน