ความรักสุขงอมเต็มที่แล้ว สำหรับคู่รักนักร้องเสียงคุณภาพ พัดชา เอนกอายุวัฒน์ กับ ปิงปอง-ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ มีโอกาสเจอทั้งคู่มาร้องเพลงด้วยกันในงาน “กรีนแชร์ริตี้ พิทักษ์ผู้พิทักษ์” ที่สตูดิโอ เอ-ไทม์ มีเดีย อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ก็เลยต้องถามว่าเมื่อไหร่จะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์สักที
โดย พัดชา เผยว่า “มีคนจ้างให้ไปร้องเพลงคู่กันเรื่อยๆ รู้สึกว่าพอโตแล้วก็ง่ายขึ้น แรกๆ คนจ้างจะงงๆ นิดนึงว่าทำไมเป็นพัดชากับศิรศักดิ์ หลังๆ ออแกไนซ์ก็เริ่มรู้แล้ว เพราะพัดไปกี่งานพี่ปองก็ไปส่งตลอด หลังๆ เขาเลยรู้กันหมดแล้ว”

เวลาออกงานคู่กันเขินไหม
พัดชา : “ถามพี่ปอง ไม่ถามพัดหน่อยเหรอว่าเขินมั้ย ถามว่าเขินมั้ย พัดทำตัวแข็งแรงไปงั้น เดี๋ยวเสียการปกครอง จริงๆ ก็มีเขินบ้าง แรกๆ อย่างที่พี่ปองบอกเราจะทำตัวสบายๆ มากก็ไม่ได้ บางทีคุณผู้ชมส่วนใหญ่เขายังไม่รู้ว่าเป็นแฟนกันนะ ก็จะต้องพูดเอ็นเตอร์เทนกลางๆ จะมาเล่นมุขภายในมากก็ไม่ได้”
ปิงปอง : “แรกๆ ก็เขินบ้าง หลังๆ ก็สนุกสนาน มันต้องมีเขินๆ บ้างอยู่แล้ว เพราะเราเคยชินกับการอยู่ข้างล่างพูดคุยกันตามปกติ พอเป็นเวทีมันก็จะเป็นอีกบทบาทนึง จะคุยเล่นเหมือนอยู่ข้างล่างเลยก็ไม่ได้ บางคนเขารู้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่บางคนก็ไม่รู้ เห็นเราเล่นเบอร์ใหญ่ นั่นเขาทำอะไรกันบนเวที จีบกันบนเวทีทำไม”

ตอนโชว์อยู่คนที่รู้ว่าเราเป็นแฟนกันเขามีแซวขึ้นมาไหม
พัดชา : “ส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ตัวมากกว่า ในเฟซบุ๊กพี่ปองชอบถ่ายรูปพัดไปประจาน พัดไม่เล่นเฟซบุ๊กไง เฟซบุ๊กเหมือนเป็นดินแดนของเขาเลย เขาสามารถเอาเราไปเม้าธ์ได้เต็มที่ โดยที่เราเข้าไปตอบโต้ไม่ได้ ถ้าในอินสตาแกรมถ้าลงเราก็จะเข้าไปเม้นต์สู้ได้”

พัดชาดุไหม
ปิงปอง : “เหมือนเลี้ยงแมวที่บ้าน ก็ดุในเลเวลเหมือนเลี้ยงแมวครับ ถามว่ากลัวหรือเกรงใจ เกรงใจให้เกียรติครับ(หัวเราะ) เราเป็นสุภาพบุรุษไงก็ต้องเกรงใจให้เกียรติ เขาอยากได้อะไรก็ต้องหาให้ เขาบ่นอะไรก็ต้องดูแล”
พัดชา : “พูดไปพูดมารู้สึกว่าต้องยอมทุกอย่าง จริงๆ เขาดูแลดี จะบอกว่าเราทำอะไรก็ต้องยอมทุกอย่างก็ไม่ถูก เพราะพี่ปองจะตามใจก่อนไม่ค่อยขัดใจ จริงๆ แล้วมันง่ายกว่ามาต่อกร(หัวเราะ)”
ปิงปอง : “จริงๆ แล้วเราอยากให้เขามีความสุข ถ้าเขามีความสุขเราก็จะมีความสุขสงบ”

มีเรื่องอะไรที่ทำให้ทะเลาะกันบ้างไหม
พัดชา : “ที่ทะเลาะกันบ่อยมาก ก็เรื่องขับรถ ส่วนใหญ่พัดจะบ่นว่าทำไมไม่ไปทางนั้นทำไมไม่ไปทางนี้ มันเป็นเรื่องที่จะไปเหมือนกันทุกอย่างไม่ได้ ถือเป็นเรื่องกรุบกริบไม่เก็บมาคิด ก็มีเก็บไปคิดบ้างแต่พอถึงจุดก็จะโดนพี่ปองเตือนกลับมาว่า อย่างนี้ไม่ได้นะ หรือถ้าทักแบบนี้มันไม่ดีนะ”
ปิงปอง : “เราเรียกว่าช่องว่างระหว่างวัยครับ ก็มีบ้างนิดหน่อย บางทีผมเตือนไม่ได้ก็ง้อข้ามขั้นตอนไปเลย”

หวานขนาดนี้จะแต่งงานหรือยัง
พัดชา : “แต่งมั้ยคะ”
ปิงปอง : “พร้อมเมื่อไหร่เมื่อนั้นครับ เพราะยุคนี้เราก็ต้องพูดกันตรงๆ ว่าเงินทองเป็นเรื่องสำคัญมาก เขาไม่ได้เรียกสินสอดแพงหรอก เราก็อยากแต่งเพราะคบกันมาเราก็มีความสุขที่เขามีความสุข ฉะนั้นถ้าเกิดต้องแต่งงานเราก็ต้องทำให้เขามีความสุขเหมือนกัน สมมติบ้านยังต้องผ่อน โน่นนั่นนี่ไม่พร้อมแล้วข้ามขั้นแต่งงานเลย กลายเป็นทำให้ชีวิตมีปัญหาเขาก็ไม่มีความสุข ซึ่งเราก็ไม่อยากเห็นแบบนั้น”

คิดไว้ว่าจะเมื่อไหร่
ปิงปอง : “ก็พร้อมเมื่อไหร่ ตอนนี้เรามานั่งช่วยกันคิดเพราะพัดเขาเพิ่งหมดสัญญากับทรู อายุเท่านี้จะว่างงานไปเลยก็ไม่ได้ต่อให้มีเงินเก็บเยอะ มันยังเป็นวัยที่มีพลังมีความสุขในการทำงานกันอยู่ทั้งคู่ เราก็ค่อยๆ ดูกันปีต่อปีว่าจะทำอะไรกันดี ปีนี้รายได้เราโอเคมั้ย”
พัดชา : “ถามตัวเองเหรอ(หัวเราะ) สำหรับพัดไม่ขัดค่ะ คุณแม่ก็ไม่ขัดบอกเอาเลยลูกอายุสามสิบกว่าแล้วเด้อ มันโตพอที่จะคุยกันเรื่องจริงแล้ว ถ้าเราจะต้องดูแลผู้ปกครอง พี่น้อง หรือคนในครอบครัวของแต่ละฝั่งก่อนมันก็ต้องทำ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะอาชีพนี้มันไม่มั่นคงทั้งคู่ ต้องตั้งสติดีๆ ไม่ใช่หุนหันพลันแล่น”

ทุกวันนี้การงานทุกอย่างยังดีใช่ไหม
พัดชา : “ดีค่ะ ลมสงบสบาย ช่วงนี้พัดกับปองเรื่องรายได้ไม่มีปัญหา ยังมีงานทำ พอมาเป็นศิลปินอิสระพัดตื่นเต้นนะ(หัวเราะ) เพราะเป็นเอเอฟก็อยู่แต่ในองค์กรอย่างเดียว ยังไม่เคยเป็นศิลปินอิสระก็ต้องตั้งสติใหม่ พี่ปองเขามีประสบการณ์ก็จะแนะนำ รู้ว่าเราต้องพยายามมากขึ้นและต้องเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นของใหม่มากสำหรับพัดถึงแม้จะเป็นนักร้องมา 10 กว่าปีแล้ว เอาง่ายๆ แค่รับงานเองยังต้องมีสติตั้งท่าใหม่ทุกอย่าง ต้องค่อยๆ ปรับตัวค่ะ เพิ่งหมดสัญญาเมื่อต้นปีต้องปรึกษาคนรอบตัว ปรึกษาพวกพี่ๆ เยอะ แต่ยุคนี้การเป็นนักร้องมันอยู่ยากจริงๆ เป็นนักร้องอย่างเดียวมันก็ทำงานลำบากหน่อย คนมีสามารถทำงานได้หลากหลายกว่าก็จะมีทางเลือกในชีวิตมากกว่า แต่พัดกับพี่ปองตกลงตรงกันมากที่สุดเรื่องนึง คืออยากทำเพลงให้ได้นานที่สุด เป็นคำตอบว่าทำไมไม่ลงหลักปักฐานสักที เพราะมันไม่มั่นคงส่วนหนึ่งและพี่ปองไม่เคยใช้ชีวิตวัยรุ่น ก่อนมาเจอกันเขาทำแต่งานอย่างเดียว พอรู้จักกันมากๆ เรารู้สึกว่าพี่ต้องมาใช้ชีวิตก่อน ก็จะพาไปเที่ยวอยากให้ได้เจอประสบการณ์พัดก็พาไปซิ่งสุดฤทธิ์(หัวเราะ) พัดเป็นคนชอบเดินทางถ้าเรารู้จักกันแค่ครึ่งทาง พี่ปองไม่ได้เห็นอีกฝั่งนึงที่เราเป็นจริงๆ มันจะเวิร์กมั้ย เขาบอกว่าการเดินทางทำให้คนรู้จักกันมากขึ้น ทำให้พี่ปองรู้ว่าต้องยอมพัดมากขึ้น”
ปิงปอง : “อะไรที่เขามีความสุขมันทำให้ผมมีความสุขแน่นอนอยู่แล้ว”

รูปจากไอจี @pingpongsirasak / @patchadotnet

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน