หลังพาหนังของตัวเองไปเดินสายฉายตามเทศกาลหนังต่างประเทศ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับภาพยนตร์ เรื่อง เพื่อนฉันฝันสลาย Sad Beauty ของผู้กำกับ ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล ล่าสุดเจ้าตัวมาร่วมเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์ฝรั่งเศส ประจำปี 2018 ที่ โรงภาพยนตร์ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เลยได้มีโอกาสสอบถามหลังกลับจากนำหนังไปฉายเทศกาลหนังที่อิตาลี พร้อมอัพเดตพล็อตหนังเรื่องใหม่

ที่นำหนังไปเดินสายต่างประเทศมีที่ไหนยังไงบ้าง
“มีนิวยอร์ก ชิคาโก้ บาเซโลน่า แล้วก็อีกหลายประเทศค่ะ น่าจะเป็นปลายปี เดี๋ยวจะอัปเดทต่อไปค่ะ ที่นิวยอร์กเข้ารอบสุดท้าย แต่ตอนแรกไม่ติดค่ะ อยู่ดีๆ เขาก็ติดต่อกลับมาว่าได้ชิงด้วย แต่ว่าจะต้องเป็นการโหวตจากผู้ชม”

รู้สึกยังไงบ้างที่หนังของเราได้เข้าชิง
“ดีใจมากค่ะ เพราะว่าคนทำหนังก็อยากให้คนดูหนัง แล้วก็อยากให้คนได้ชมกัน กระแสตอบรับเขาก็บอกว่าหนังของตั๊กค่อนข้างเป็นหนังทางเลือกที่ไร้ขอบเขตและจินตนาการ แต่ก็สอดแทรกในเรื่องของเพื่อนเข้าไป ซึ่งเขารู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นความเป็นเพื่อน หรือการได้อยู่ในสังคมไทยเป็นยังไง เขารู้สึกแปลกดี แตกต่างจากที่เขาเคยได้เห็น”

เขายังมองหนังของ ตั๊ก มีความเป็นไทย ไม่ได้สากลมาก
“ใช่ค่ะ เพราะเขาบอกเลยว่าที่เขาชอบหนัง เป็นเพราะมันคือหนังไทย เพียงแต่ว่าหนังไทยส่งเข้าไปประกวดน้อย อย่างหนังเกาหลีเขาส่งที 18 เรื่อง ถ้าทำหนังไทยแล้วส่งไปเยอะๆ ตั๊กว่าสู้หนังเกาหลี หนังจีนได้ค่ะ”

เหมือนเราเป็นคนเปิดตลาดหนังไทยไปสู่สากล
“จริงๆ ทุกประเทศบอกเลยว่าทุกปีเทศกาลทุกเทศกาลจะมาจากกลุ่มเดียวกัน ทั้งกรรมการ นักวิจารณ์ อย่างที่อิตาลีเขาก็จะไปดูหนังเล็กๆ พอเขารู้สึกชอบก็จะติดต่อให้ไปฉายในเทศกาลต่อไป พอดีเราได้เข้าไปคุยกับเขา เขาก็จะบอกว่าประเทศคุณส่งหนังน้อยมาก อย่างเกาหลีเขาส่งทีเป็น 100 เรื่อง รางวัลนึง 18 เรื่อง แล้ว 3 รางวัลก็ปาเข้าไปหลายเรื่องแล้ว เขาเลยบอกว่าหนังไทยมีให้เลือกน้อย เขาอยากให้คนไทยทำหนังเยอะๆ”

ความรู้สึกที่ได้เข้าชิงรางวัล
“เหมือนตั๊กได้เข้าไปเรียนรู้ แต่คิดว่ายังไม่ถึงขั้นประสบความสำเร็จ แค่เป็นก้าวๆ หนึ่งที่เราได้ไปเรียนรู้และบางครั้งมันก็ทำให้กลับมาพัฒนาเรื่องของการทำภาพยนตร์ต่อไปได้อีก ตอนนี้ก็มีแพลนทำเรื่องต่อไปค่ะ”

ได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง
“ตั๊กว่าเมืองนอกเขาชอบคนไทยมากนะคะ แต่คนไทยอาจจะไม่รู้ว่าเขาชอบความเป็นไทยจริงๆ เขาอยากให้ไทยเป็นชาตินิยมค่ะ อย่างตั๊กไปเขาก็จะถามว่าภูเก็ต พัทยา อยุธยา เป็นยังไง แล้วก็จะมีล่ามที่คุยภาษาอังกฤษได้ก็จะเล่าให้ฟังตลอด”

การได้นำหนังไปต่างประเทศมันสร้างความเชื่อถือให้เราในฐานะผู้กำกับที่จะร่วมงานกับคนอื่นไหม
“จริงๆ ทุกอย่างอยู่ที่บทค่ะ ถ้าเราคิดจะทำหนังเรื่องหนึ่ง เราก็จะต้องดูเรื่องของบทภาพยนตร์ด้วย บทดี ทุกอย่างก็ดีค่ะ”

หนังเรื่องต่อไปก็จะเป็นแนวที่ตัวเองถนัด
“ใช่ค่ะ จริงๆ หนังตั๊กก็แมสนะ ก็แล้วแต่คนดูด้วยค่ะ อย่างเรื่อง Sad Beauty เพื่อนฉันฝันสลาย ถามว่าดูรู้เรื่องไหม ดูรู้เรื่องนะคะ เพียงแต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องหรือภาพอาจจะดูเก๋ๆ”

หนังเรื่องต่อไปจะไม่เน้นตลาดไทย หวังไปนอกอย่างเดียว
“ตั๊กก็อยากให้คนไทยดูหนังตั๊กค่ะ เพราะถ้าคนไทยยอมรับเรา ตั๊กก็ดีใจมากกว่าเมืองนอกยอมรับอีกนะ ตั๊กถึงบอกว่าอยากให้ Sad Beauty ฉายในเมืองไทยก่อน ถึงจะส่งไปต่างประเทศ”

จะไปฉายหนังที่เทศกาลต่างๆ เมื่อไหร่บ้าง
“ที่เซี่ยงไฮ้เดือนมิถุนายน แล้วก็นิวยอร์กจะเป็นกรกฎาคม ไปฉายด้วย เข้าประกวดด้วย ทุกที่ที่ไปคือได้ฉายหมดไม่งั้นไม่ไป เพราะว่าไม่ค่อยชอบเดินทางทางอากาศ มีแพลนฉายเรื่อยๆ ทั้งปีค่ะ”

หลังจากอิตาลีมามีความคาดหวังกับประเทศที่เหลือไหม
“ไม่นะคะ พอเห็นคู่แข็งแล้วรู้สึกโชคดีมากกว่า โชคดีมากที่ได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ เพราะเขาคัดมาอย่างดีแล้ว จนเราไม่รู้สึกเสียใจเลย และเราก็รู้ว่าเราไม่ได้หรอก เพราะหนังคนอื่นดี เราสู้ไม่ได้จริงๆ ก็เลยไปยินดีด้วย”

เห็นล่าสุดได้พล็อตเรื่องใหม่จากอินสตาแกรมที่มีคนมาคอมเมนต์
“ใช่ จริงๆ ตั๊กคิดตลอดว่าจะนำเสนอมุมมองเรื่องของสังคมไทยยังไงที่จะทำให้ไม่กระทบกับสังคมเยอะ ทุกคนก็รู้ว่าสังคมไทยบางเรื่องเราพูดไม่ได้ ตั๊กก็อยากเล่าเรื่องสังคมที่เขาคอมเมนต์มาที่เอาขึ้นไอจี เพราะอยากดูกระแสว่าสิ่งที่เขาคิดแล้วคนอื่นตีความยังไง ถ้าเอามาตีความแล้วเหมือนเขาเอาความรู้สึกมาคอมเมนต์เรามากกว่า ให้ความสนใจ ไม่รักก็เกลียดเลย ถ้าดูในเรื่องของจิต สังคมคอมเมนต์เริ่มมีอิทธิพลเรื่องการชักจูงคนสูงมาก เลยรู้สึกว่ามันมีหลายด้าน เลยอยากจะทำในเรื่องของสังคมคอมเมนต์ สังคมออนไลน์”

ที่ขึ้นในไอจีเพราะต้องการรีเสิร์ช
“ใช่ๆ แต่ก่อนตั๊กอ่านแล้วโกรธนะ แต่เดี๋ยวนี้ดาราทุกคนโดน มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำ แล้วก็มีอิทธิพลสูงกับคนไทย เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นภาพยนตร์ก็คงจะมีอะไรดีๆ ที่ต่างประเทศเขาก็โดน แต่คนไทยโดนแบบไหนเขาไม่รู้ ถ้าเราเล่าว่าคนไทยโดนแบบนี้ เขาก็จะได้รู้ ไม่ได้จงใจแหกเขา อย่างเราเป็นข่าว เขามาคอมเมนต์ ตั๊กเลยอยากให้เขาเป็นข่าวแล้วให้คนลองคอมเมนต์ดูบ้างว่าคนคอมเมนต์เขายัง เพื่อจะดูกระแสการตอบรับว่ามีคนเห็นด้วยกับเขาก็มีนะ กับคนที่อาจจะมีบทสนทนาที่แตกต่างกันไป”

 

หลายคนมองว่าเป็นการประจานหรือเปล่า
“หือ แล้วที่เขาว่าตั๊กล่ะ ตั๊กยังชิลล์เลย (หัวเราะ) คือเราก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน ตั๊กก็ได้ไอเดีย เขาก็ได้ว่าตั๊กโดยที่คนกระจายเสียงเขาออกไป ทำให้คนฟังเขาได้ชัดขึ้น”

นี่คือพล็อตหนังเรื่องหน้าเลย
“ไม่บอก บอกหมดเดี๋ยวคนเอาไปทำ(ยิ้ม)”

 

ขอบคุณภาพจากไอจี bong_kod_tak

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน