‘ชมพู่-อารยา’ เข้าใจหัวอก ‘กุ๊บกิ๊บ’ กรณี ‘เป่าเปา’ โดนมือหยิก!

หลังมาร่วมงานกาล่าเปิดตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ดาวน์นี่ เม็ดน้ำหอมพรีเมี่ยม” ที่ รร.โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ สำหรับซุปตาร์แม่ลูกอ่อน ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรูปลูกชาย ‘น้องสายฟ้า’ ในอินสตาแกรมโพสท่าโชว์พุงได้อินเนอร์แม่มาเต็มๆ รับเข้าใจหัวอกแม่ถ้าเจอกรณีอย่าง ‘กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์’ รวมถึงอัพเดตกำลังจะไปเดินพรมแดง “เซี่ยงไฮ้ ฟิล์ม เฟสติวัล” ที่ประเทศจีน

โดย ‘ชมพู่’ เผยว่า “เรื่องรูป เลือดแม่มันแรง(หัวเราะ) คือเราก็ถ่ายเขาเยอะ เด็กเขาก็บริสุทธิ์คงไม่ได้คิดหรอกว่าเขาโพสท่า แต่เท่าที่ชมมองเวลาถ่ายรูปเขาก็จะมองกล้องตลอด เพราะเอาจริงๆ เด็กสมัยนี้ เจอโทรศัพท์ เจอคนขอถ่ายรูปบ่อย เขาก็เลยมองเพราะว่าความชินมากกว่า แต่ถามว่าเขาติดกล้องมั้ย ก็ไม่นะคะ ตอนนี้เขาจะชอบหยิบอะไรเข้าปากมากกว่า รวมถึงโทรศัพท์ ถ้าเห็นโทรศัพท์ก็กิน”

ที่บอกว่าเลือดแม่แรงเพราะเห็นแววแล้วใช่ไหมว่าน้องจะเข้าวงการ?
“คงยังดูไม่ออกหรอกค่ะ เราแซวเขามากกว่า อะไรที่ดีเราก็เอาเข้าตัวเราไว้ก่อน(ยิ้ม) ส่วนเรื่องที่เพื่อนๆ เห่อหลานกันมากเพราะเห็นแวะไปเยี่ยมกันบ่อยมาก นิดนึงค่ะ หลายๆ คนเขาไม่ค่อยมีเวลาไปบ่อย ดังนั้นพอได้ไปสักทีก็จะถ่ายรูปหลานจนคุ้มเลย แต่ถามว่าเขารับแขกยังไงบ้าง เด็กก็คือเด็กแล้วแต่อารมณ์ ถ้าหากนางนอนไม่อิ่มก็อาจจะงอแงนิดนึง แต่ถ้าหากนางกินอิ่มนอนหลับ นางก็จะเต็มที่ จริงๆ พื้นฐานก็เป็นเด็กอารมณ์ดีทั้งคู่ค่ะ”

ถามถึงกระแสพาลูกออกงาน ช่วงนี้หลายคนไม่ค่อยกล้าพาลูกออกงานสักเท่าไหร่ จากกรณีที่ ‘น้องเป่าเปา’ โดนหยิก?
“จริงๆ มันเป็นเรื่องของอนาคตนะคะ เพราะสำหรับชมตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีงานในลักษณะนั้น แต่ก็คงพูดไม่ได้หรอกว่าเราจะไม่รับงาน คงเป็นด้วยเรื่องของเงื่อนไขต่างๆ มากกว่า เพียงแต่ ณ เวลานี้ยังไม่มีอะไร แต่ถามว่าจะต้องเพิ่มการดูแลน้องให้มากขึ้นมั้ย มันก็พูดยากเนอะ เพราะลูกของเราเป็นลูกของคนของประชาชน แต่ถามว่าชมเข้าใจบ้านกุ๊บกิ๊บมั้ย ชมเข้าใจสุดๆ เลยนะ เพียงแค่ตอนนี้ชมมองว่าเรื่องมันจบไปแล้วก็ไม่อยากรื้อฟื้น เขาขอโทษขอโพยกันเรียบร้อยแล้วค่ะ”

ในฐานะที่เป็นแม่เราต้องระวังลูกมากขึ้นไหมเวลาไปข้างนอก?
“เป็นปกตินะคะ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนในสื่อ บางอย่างก็ไม่สามารถพูดได้ทั้งหมด เพราะถ้าพูดไปแล้วบางทีมันก็อาจจะทำให้ดูไม่น่ารัก ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแม่ ดังนั้นคนรอบข้างตัวเรา อย่างคุณย่า คุณยาย หรือพี่เลี้ยงก็จะทำหน้าที่คอยช่วยพูดแทน อย่างเช่น เบาๆ กับผมนะครับ จับเท้าผมได้ครับ”

แสดงว่าทุกวันนี้เวลาพาน้องออกไปข้างนอกก็จะมีคนเข้ามาหาน้องตลอด?
“ก็มีบ้าง แต่ส่วนมากชมจะเจอแต่คนที่น่ารัก หรือบางคนที่เขามันเขี้ยวมากๆ เขาก็จะมาขอจับเท้าลูกเราสักหน่อย หรือบางคนก็ขอดมเท้าหน่อย ทุกคนเขาเอ็นดูน้องค่ะ และเราก็ไม่ถึงขนาดจับไม่ได้ ต้องเช็ดมือก่อนหรืออะไรนะ ชมไม่ขนาดนั้น แต่ส่วนตัวชมมองว่าการจับเท้าก็ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะว่าเด็กเขาอมมือ วัยนี้เป็นวัยที่เขาเอามือเข้าปาก แล้วคนที่เขาเข้ามาแต่ละคน เราก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรก่อนหน้านี้มาบ้าง ชมไม่ได้อยากเวอร์หรืออะไร แต่หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็จะเข้าใจ”

ถามความคืบหน้าเรื่องบ้าน ตอนนี้ถึงไหนแล้ว?
“ต้องไปถามพี่น็อต(วิศรุต)นะคะ แต่ก็ไม่ได้กดดันแกนะ ไม่รู้ตอนนี้เขาจะได้ดูหรือเปล่า(ยิ้ม) คือตอนนี้อยู่ในขั้นตอนซื้อเฟอร์นิเจอร์แล้ว แต่เราก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าจะเสร็จภายในปีนี้มั้ย เนื่องจากคุณน็อตเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดมาก ดีเทลแกเยอะจริงๆ ถามว่าบ้านหลังนี้ซื้อไว้นานหรือยัง ซื้อไว้ตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน แต่ตอนนี้แต่งงานมา 3 ปีแล้ว จนมีลูกแล้วด้วย(หัวเราะ) ที่มันล่าช้าเนื่องจากที่ผ่านมาเรามีการเปลี่ยนโครงสร้างภายในและมีเรื่องของเอกสารต้องจัดการ แต่ว่าตอนนี้โครงสร้างทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว เหลือแต่งานภายในทั้งหมด ดังนั้นถ้าถามว่าชมตื่นเต้นกับบ้านหลังนี้มั้ย ชมปลงแล้วมากกว่า เพราะรู้สไตล์เขาอยู่แล้วว่าเขาช้า เพียงแค่เราอยากให้ลูกมีที่วิ่งเพราะพวกเขาโตขึ้นทุกวันเท่านั้นเอง”

เขาได้บอกไหมว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าอยู่?
“เขาอัพเดตตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ อย่างล่าสุดเขากลับจากที่ไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่นิวยอร์กก็บอกเรา แต่ตัวชมเองในเมื่อชมไม่ได้มีส่วนช่วยเหลืออะไรเขา เรียกว่าไม่ทำอะไรเลย เราก็บ่นไม่ได้ ดังนั้นปล่อยให้คนที่เขาทำจัดการไปดีกว่า เราไม่กดดัน แต่ให้ลูกกดดันแทน เรื่องงบก็ไม่ทราบเลย ถามว่าสไตล์การแต่งบ้านของเขาจะถูกใจเรามั้ย ถูกใจอยู่แล้ว เขารสนิยมดี(ยิ้ม) ถ้าเป็นเรื่องแต่งบ้างก็ยกให้เขา”

จะได้มีโอกาสได้จัดเซอร์ไพรส์เบิร์ธเดย์วันเกิดน้องแฝดในบ้านไหม?
“ถ้าเข้าได้ก็คงไม่ได้พร้อมมากหรอกค่ะ อาจจะได้เข้าไปอยู่แบบบ้านโล่งๆ เพราะของยังมาไม่ครบ”

เร็วๆ นี้เห็นว่าจะต้องไปร่วมพรมแดงอีกแล้วที่ประเทศจีน?
“ใช่ค่ะ จริงๆ เมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งไปมานะคะ เป็นงาน เซี่ยงไฮ้ ฟิล์ม เฟสติวัล ไปช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายนค่ะ น่าจะวันที่ 16 มิ.ย. ไปเดินแค่วันเดียว ซึ่งชมไปในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ คือมีแบรนด์สินค้าซัพพอร์ตเหมือนปกติ ตอนนี้ก็เตรียมตัวประมาณหนึ่ง ถือว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทริปนี้จะพาลูกไปด้วยค่ะ เพราะมันไม่ยากเท่าไหร่ แถมงานไม่ได้หนักเหมือนตอนไปคานส์ การทำงานก็ไม่ได้ซับซ้อนมาก ส่วนพี่น็อตอาจจะตามไปทีหลัง แต่ ณ ตอนนี้ชมจองลูกไว้แล้ว จองตั๋วให้พี่เลี้ยงและทุกคนพร้อมแล้วค่ะ(หัวเราะ)”

ตื่นเต้นไหมกับการไปเดินพรมแดงของเราในครั้งนี้?
“ไม่ได้กังวลอะไรเท่าไหร่นะคะ แต่จะเป็นห่วงเรื่องขั้นตอนการประสานงานที่โน่นมากกว่า เพราะว่าที่จีนเขาจะเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลย อย่างเมื่อปีที่แล้วที่ไปมาเราก็จะได้เห็นแล้วว่าต้องเจออะไรบ้าง หน้าที่ของเราในครั้งนี้คือมีเดินพรมแดงเป็นหลักค่ะ และอาจจะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของแบรนด์ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของงานแค่นั้นเอง ส่วนชมกับครอบครัวจะเที่ยวต่อเลยมั้ย อาจจะอยู่อีกสัก 1-2 วันค่ะ แต่ก็คงไม่ได้เที่ยวหรอก เพราะชมต้องอยู่ทำคอนเทนต์ที่นู้นมากกว่า”

ทริปนี้จะได้เห็นแฟชั่นจาก ‘สายฟ้า-พายุไหม’ ไหม?
“ตอนนี้ยัง แต่ขอให้โตกว่านี้หน่อยนะ เดี๋ยวแม่จัดให้(ยิ้ม)”

ขอบคุณภาพ IG : chomismaterialgirl