‘เจษ เจษฎ์พิพัฒ’ ปลื้ม ‘เจ๊ไก่’ ออกปากอยากร่วมงาน-หวั่นมีปัญหาถ้าสาวคนสนิทไปเรียนต่างแดน
วันที่ 8 มิ.ย. ที่ แอ๊กซ์ สตูดิโอ จ.ปทุมธานี มีการจัดพิธีบวงสรวงละคร ‘วิมานดวงดาว’ ซึ่งมี “เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” นักแสดงหนุ่ม มาร่วมพิธีและให้สัมภาษณ์หลังเสร็จงาน ถึงเรื่องที่ผู้จัดต่างค่าย “ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา” ออกปากบอกจะขอ “บอย-ถกลเกียรติ” ว่าอยากร่วมงานกับเจษ พร้อมอัพเดตถึงสาวคนสนิทกำลังจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ
โดย เจษ เผยถึงเรื่องผู้จัดคนดังว่า “กับพี่ไก่เราเจอกันหลายรอบแล้ว ผมเองก็เคยไปช่วยงานพี่ไก่อยู่ ชอบเจอพี่ไก่ตามงานกาล่าละครเวที มีพูดคุยกัน เขาก็ชมว่าชอบนะ ดูละครแล้วชอบ ถ้ามีโอกาสก็อยากร่วมงานด้วย คือพี่เขาก็มีมาติดต่อบ้าง แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องไปถึงขั้นพี่บอย พี่ป้อนยังไง แต่กับตัวผมคือรู้แค่ว่าพี่ไก่ฝากคนมาชมหลายครั้ง”
เจษ เจษฎ์พิพัฒน์
อยากไปร่วมงานไหม
“ถ้ามีโอกาสและคิวเราได้ ก็อยากไปครับ คือดีใจที่มีผู้จัดต่างช่องเล็งเห็นฝีมือเราครับ จริงๆ เป็นผู้ใหญ่คนนึงที่เรานับถือในวงการอยู่แล้ว อยู่ๆ เดินมาชมเราเลย มีครั้งนึงที่พี่เขาพยายามหาตัวเราให้เจอ และอยากจะชมต่อหน้า คือเราทำงานแล้วมีคนเห็น เราก็ภูมิใจที่เราได้ตั้งใจทำงานออกไปให้ดี”
ร่วมพิธีบวงสรวง วิมานดวงดาว
เขาบอกว่าจะไปขอพี่บอยด้วย ว่าอยากร่วมงานกับเรา
“ไปเลยครับ(หัวเราะ) ถามว่าผมอยากไปร่วมงานกับพี่ไก่มั้ย คือมันก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ผมก็อยากจะไปและเรานับถือพี่ไก่อยู่แล้ว ดูละครพี่ไก่อยู่แล้ว ถ้าได้เล่นก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ส่วนตัวผมยังไม่ได้มีโอกาสคุยอะไรกับพี่บอยครับ คือเรารู้คร่าวๆ จากเวลาพี่ไก่ฝากคนมาชมและพี่ไก่เดินเข้ามาหา แต่เพิ่งจะเห็นข่าวบอกอยากร่วมงาน คือคงต้องรอผู้ใหญ่ครับ”
เรากดดันไหม ถ้าต้องไปเล่นนอกค่าย
“มันก็กดดันครับ และก็แปลว่าเราห้ามพลาด ต้องทำให้ดีที่สุดที่ต้องทำได้ แต่ถามว่าผมรู้มั้ยว่าพี่ไก่เวลาทำงานเด็ดขาด อันนี้ผมโอเค เพราะพี่ป้อนก็ได้อยู่ครับ เรื่องความเคี่ยวกับงาน ความเป๊ะ(หัวเราะ)”
เจ๊ไก่ ผู้จัดคนเก่ง
ตอนนี้แฟนไปเรียนเมืองนอกยัง นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า “เพื่อนผมอะเหรอครับ คุยมานานแล้วก็จริง แต่เพื่อนครับ เพื่อน ก็กำลังจะไปครับเดือนนี้ ไปประมาณ 2 ปี ผมไม่ต้องทำใจอะไร เราไม่ได้เสียใจอะไร เราต้องเข้าใจ มันเป็นโอกาสที่ดีของคนที่จะมีการศึกษาต่อ”
มันติดอะไรที่ยังขยับสถานะไม่ได้
“ไม่ได้ติดอะไร แต่พอเราโต เราไม่อยากจะใช้คำเหล่านี้เพื่อมาจำกัด พอยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะมาจริงจังกับเรื่องนี้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ปล่อยให้ใครต่อใครไปทำอะไรของตัวเองดีกว่า เขาจะไปเรียน เราจะไปทำงาน จะได้ไม่ต้องมากังวลว่าเรามีสถานะแบบนี้นะ ต้องคุยกันทุกวัน ต้องดูแลใกล้ชิดกัน มันจะกลายเป็นปัญหาหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้เป็นข้อตกลงกันมาตั้งแต่แรกของเราแล้ว”
เท่ป่ะล่ะ
แล้วกังวลไหมถ้าเขาไปต่างประเทศแล้วระยะทางจะทำให้มีปัญหา
“ก็กังวลนิดหน่อย แต่เราพยายามเข้าใจและทำงานของเรา ก่อร่างสร้างตัวไป เขาก็ไปเรียนต่อ ดีทั้งสองฝ่าย คิดแบบนี้ดีกว่า”
ถ้ามีหนุ่มใหม่มาจีบเขา หรือมีสาวเข้ามาหาเรา เราจะว่ายังไงเพราะยังไม่มีสถานะกัน
“หึหึ เราโตแล้ว ถ้าเกิดดีกว่าจริงๆ แล้วความรู้สึกมันไปจริงๆ เราก็ไม่ควรมานั่งห้ามกัน มันไม่ควรเอาคำเดียวมาจำกัดว่าคุณต้องอยู่กับเรา ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เราใช้ความเชื่อใจและความรู้สึกเข้ามากกว่าครับ”
ขอบคุณรูปจากไอจีhttp://www.instagram.com/jesjpp/?hl=th
