วันที่ 1 ธ.ค. ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ มีการจัดงานเปิดแคมเปญ ไลท์เทิ่น อัพ ทูเกเตอร์ โดยในงานนี้มีนางเอกสาว แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ มาร่วมพูดคุย
หลังจบงาน นางเอกสาวได้ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องคดี ‘บอล กฤษณะ’ สั่งตื้บลูกนายพล ว่า “เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นการไปทานข้าวกันปกติ กลุ่มแต้วไปกัน 8 คน และมีกลุ่มพี่อุ้มอีก 4 คนนั่งอยู่ข้างๆ กัน แต้วก็จะไปห้องน้ำกับมิว ตอนเดินไปเข้าห้องน้ำก็มีพี่ๆ ทางร้านพาไป พอไปถึงห้องน้ำ มีคนออกมาจากห้องน้ำพอดี ทำให้ห้องน้ำของผู้หญิงว่างอยู่สองห้อง แต้วกับมิวเลยเข้าไปและออกมาปกติ ซึ่งการที่มีคนไปอำนวยความสะดวกให้หมายความว่าเวลามีคนมาขอถ่ายรูปเราก็ให้เขาถ่ายรูปให้ได้
ตอนที่เรานั่งอยู่ที่โต๊ะก็ปกติ แต้วไม่รู้ว่าเขาเป็นการ์ดหรืออะไร และแต้วก็จำหน้าเขาไม่ได้ด้วย ทุกอย่างที่แต้วเล่า คือ ความจริงทั้งหมด ซึ่งเราใช้เวลาตั้งแต่อยู่ที่ร้านจนออกจากร้าน 2 ชั่วโมง ตอนที่เรานั่งอยู่ในร้านและกำลังจะกลับเราเห็นคนมุงกันอยู่ อะไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่แต้วเห็นไม่มีการใช้คำพูดที่รุนแรงหรือใช้กำลังเลย จากนั้นมีคนที่โต๊ะกลับ แต่ไม่ได้ชวนกลับ เพราะตั้งใจจะหนี เป็นเพราะว่าเรานั่งอยู่นานแล้วและเราก็ไม่ทราบว่าในร้านมีวัยรุ่นทะเลาะกันหรือเปล่า เพราะอีกวันแต้วมีงานไปถ่ายละครตอนเช้า เลยถือโอกาสกลับก่อนดีกว่า ต่อมาวันรุ่งขึ้นก็ไม่มีใครพูดถึงเหตุการณ์วันนั้นเลย เพราะเราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องและเรื่องที่มีข่าวว่าพี่บอลลุกขึ้นยืนพูดแสดงอำนาจด้วยถ้อยคำหยาบคายแต้วไม่ได้ยินค่ะ”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าได้ยินว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปให้ปากคำ นางเอกสาว กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้ยินแค่ข่าว ยังไม่มีคนติดต่อมาเลย แต่ถ้าเขาติดต่อมาเราก็ยินดีไปให้ปากคำอยู่แล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นแต้วพูดตามตรงว่า ตนไม่สามารถเล่าอะไรนอกเหนือจากที่เล่าไปได้เลย เพราะเรื่องที่เกิดนอกจากนั้น ตนไม่รู้ที่มาที่ไป และไม่ทราบความเป็นไปของเรื่องราวเลย เล่าได้เท่านี้จริงๆ ช่วงแรกที่ข่าวออกมา ตนค่อนข้างตกใจ เพราะข่าวมันค่อนข้างจะชี้เป้ามาที่ดาราเลย ตนได้คุยกับพี่อุ้ม ลักขณา ในช่วงแรกๆ พี่เขาโทรมาขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน และมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของพี่อุ้ม ตนยังไม่ได้คุยกับพี่อุ้มตั้งแต่วันที่เขาโทรมาขอโทษ
ตนคิดว่าเขาก็คงงงไม่ต่างกับตน ช่วงแรกเขาคงจับต้นชนปลายไม่ถูก ซึ่งในวันที่ไปกินข้าวด้วยกัน ตนได้รับคำเชิญจากพี่อุ้มและทีมงานละคร ส่วนเรื่องที่คนมองว่าวันเกิดเหตุ ทำไมดาราไม่ช่วยห้าม คือ เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ถ้าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นตรงหน้าเรา ตนอาจจะรับรู้อะไรได้บ้าง แต่ตนไม่รู้ตรงนั้น ตนรู้สึกว่าเข้าไปทานข้าวและมันไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่รู้จะเข้าไปทำไม เพราะเราไม่เห็นเหตุการณ์อะไรที่ต้องเข้าไปห้ามเลยด้วยซ้ำ ตนเห็นแค่คนยืนมุงกันอยู่ กับเรื่องนี้ ตนก็มีอัพเดทข่าวกับมิวและหมากบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องราวที่ทุกคนกำลังตามหาความจริงกันอยู่ แต่มันก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีเรื่องที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เราก็เห็นใจทุกฝ่ายยังไงก็สู้ๆกัน