‘จ๊ะ อาร์สยาม’ เมินเรื่องรัก-ไม่โฟกัสงาน หันทุ่มซื้อนาฬิกาหรูเก็งกำไร!
วันที่ 20 มิ.ย. จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย หรือ จ๊ะ อาร์สยาม ลูกทุ่งสาวชื่อดัง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวข่าวสดออนไลน์ ถึงเรื่องซื้อนาฬิกายี่ห้อหรูและช้อปปิ้งของแบรนด์เนมถี่ พร้อมอัพเดตเรื่องหัวใจมีหนุ่มใหม่ดามใจแล้วจริงหรือเปล่า
โดย จ๊ะ เผยว่า “นาฬิกาซื้อมามันได้กำไรก็เลยซื้อ เรารู้จักร้านที่เขาเล่นอสังหาริมทรัพย์ ก็ไปเจอพวกคนรวยๆ เขาเล่นนาฬิกากัน หนูก็เลยได้ราคาพิเศษมา ซื้อมาหนูก็ขายต่อมันได้กำไร ถามว่าขายไปบ้างหรือยัง มีขายไปบ้างแล้ว ซื้อมาขายไป มันเป็นการลงทุนมากกว่า ที่เราลงรูปแล้วแท็กหาร้านนั้นเพราะ เราได้ส่วนลดพิเศษและเป็นการยืนยันว่าของจริงนะ เวลาเอาไปขายมันมีที่มาที่ไป”
โรเล็กซ์เรือนใหม่
แต่ละเรือนที่ซื้อมามูลค่าเท่าไหร่
“มันก็มีหลักล้านบ้าง มีหลักแสนบ้าง อยากได้อีกเรือนนึงราคาหนึ่งล้านเก้าแสนบาท แต่ต้องใช้เวลาก่อน ส่วนเรือนล่าสุดที่เพิ่งโพสต์ โรเล็กซ์ ราคาสามแสนกว่า ถ้าขายก็จะได้ราคาคุ้ม มันก็แล้วแต่โอกาสด้วยนะ ถ้ามีคนสนใจอยากจะได้ ถามว่าเราเชี่ยวชาญเรื่องเล่นนาฬิกาหรือยัง ไม่ถึงกับเชี่ยวชาญ แค่เราพอมีเงินซื้อเก็บไว้และขายต่อแค่นั้น มันมีประโยชน์ไม่เหมือนรถซื้อมาราคาลดลงเรื่อยๆ แต่นาฬิกาซื้อมาได้ใส่ด้วยและขายได้กำไรด้วย หนูเพิ่งเริ่มเล่นได้ไม่กี่เดือนเอง”
ติดใจกว่าซื้อรถซื้อของแบรนด์เนมไหม
“ตอนนี้ติดใจเรื่องนาฬิกามาก จะดูแต่นาฬิกาทั้งวัน เราชอบมันไปแล้ว ส่วนเรื่องช้อปปิ้งของแบรนด์เนมมันก็มีบ้าง แต่ไม่ได้เยอะ ส่วนมากจะหนักไปที่นาฬิกานี่แหละ อย่างอื่นไม่ค่อยเยอะหรอก อย่างรองเท้าเราชอบเฉยๆ ก็เลยซื้อ จริงๆ หนูอยากให้คนมองว่าตลอดเวลาที่หนูทำงานมา 7-8 ปี หนูเพิ่งมาซื้อช่วงนี้ มันก็ต้องมีบ้าง พอเข้าน่าฝนเป็นช่วงเวลาพักของนักร้องอยู่แล้ว ไม่มีงานเราก็ไปเที่ยวกัน ก็มีซื้อโน่นนี่บ้าง”
นาฬิกาPatekสุดหรูของจ๊ะ
โพสต์โชว์แต่ของราคาแพงๆ ไม่กลัวขโมยจะขึ้นบ้างเหรอ
“ถ้ามันจะมาเพื่อลักรองเท้าก็แล้วแต่เลย ส่วนนาฬิกาเราก็ปิดบ้านดีอยู่นะ หนูว่ามันไม่มีขโมยหรอก ถามว่ามีฟีดแบกอย่างไรบ้างเรื่องเราซื้อของแพง แฟนคลับเราจะชมว่าสวยค่ะ แต่บางคนก็จะมีบอกใช้เงินเยอะจังเลยนะ แต่หนูจะบอกว่าถ้าคนที่เขามีความรู้เรื่องนาฬิกาก็จะเข้าใจ”
เซลฟี่กับพ่อแม่
พ่อแม่มีเป็นห่วงเรื่องการใช้เงินบ้างไหม
“ไม่ค่ะ เพราะว่าเรามีเงินก้อนที่ฝากไว้ ส่วนเงินที่เราไว้ใช้ส่วนตัวก็เอามาหมุน อยากได้อะไรก็ซื้อ หนูมีตังค์ก็ซื้อไม่มีตังค์ก็ขาย ชีวิตหนูจะคิดแค่สั้นๆ เพราะถ้าเราไปคิดมากตายไปก็ไม่ได้ใช้ตังค์ คนเราชีวิตมันสั้นค่ะ”
ถามถึงเรื่องหัวใจมีข่าวว่าเรามีหนุ่มใหม่แล้ว
“ไม่มีเลยร้อยเปอร์เซ็นค่ะ โสดมั้ย ก็โสด แต่ถ้ามีคนคุยก็มีพี่แจ๊คที่คุยไลน์กัน แต่หนุ่มอื่นเลยไม่มีค่ะ ก่อนหน้านี้มีนะ แต่ตอนนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีเลย เราไม่ได้สนใจที่จะคุยกับใครเพราะช่วงนี้บ้านาฬิกาอยู่ ก็จะดูแต่นาฬิกาและคุยแต่กับร้านนาฬิกาอย่างเดียว อย่างไปนั่งกินข้าวมีคนมาชอบก็ไม่ได้สนใจ ไม่มีการสานสัมพันธ์ต่อ ช่วงนี้โฟกัสเรื่องนาฬิกาอย่างเดียว”
เห็นบ่นว่าเหงาไม่ใช่เหรอ
“บ่นไปงั้นแหละ อย่าไปเชื่ออะไรมาเลยโลกโซเชียล ถามว่าเหงามั้ยมันก็ไม่ได้เหงามากอะไรขนาดไหน เวลาไปกับเพื่อนมันอกหัก เพื่อนก็คุยเรื่องความรักดึงเข้าดราม่า เราก็ต้องเหงากับเพื่อนไปด้วย เป็นอารมณ์นั้น ยืนยันว่าไม่มีใครเลยจริงๆ”
ทำบุญปล่อยปลากับ แจ๊ค-ธนพล อดีตหวานใจ
ช่วงที่อกหักเฮิร์ตขนาดไหนหรือเราเป็นคนควบคุมสภาพจิตใจได้
“เราควบคุมได้ โลกโซเชียลหนูชอบโพสต์เพราะเป็นคนติดอินเตอร์เน็ต หนูไม่ใช่คนดราม่าหนัก อย่างตอนกับพี่แจ๊ค ไม่ได้อกหักสิ เราคุยกันแล้วมันเลยไม่ได้หนัก เรายังมีกันและกัน ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันเป็นพี่ชายที่สนิท”
คุยกันในสถานะที่ไม่ชัดเจนเหมือนเมื่อก่อนมันอึดอัดไหม
“หนูไม่อึดอัดเลย แต่คนอึดอัดแทนหนูเยอะ(หัวเราะ) พี่แจ๊คเขาก็ไม่อึดอัดหรอก เราว่างก็ชวนกันไปกินข้าว ดูหนัง ไปทำบุญ แต่ไม่ได้ไปด้วยกันแค่สองคนนะ ต่างคนต่างขับรถไปเจอกัน หนูก็มีเพื่อนไปด้วยบ้าง ถามว่ากับพี่แจ๊คมีโอกาสจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมมั้ย ไม่รู้เลย ไม่มีความคิดเลยว่าจะมีโอกาสกลับไปมั้ย ตอนนี้เรื่องความรักเราไม่ได้คิดเลย และก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องงานด้วยนะ โฟกัสแต่เรื่องนาฬิกา นี่ตอบตามความจริงเลย(หัวเราะ)”
พ่อแม่ยังเป็นห่วงเรื่องความรักอยู่ไหม
“ไม่เป็นห่วง ไม่พูดถึงเรื่องความรักเลย เพราะมันไม่มีข่าวเรื่องความรักพ่อแม่ก็จะไม่พูดถึง ตอนนี้หนูไม่มีความรู้สึกเป็นห่วงพ่อแม่หรือเป็นห่วงพี่แจ๊คเลย หนูไม่ได้เป็นคนคิดมากขนาดนั้น ปล่อยไปตามเวรตามกรรม เขาคงลิขิตมาแล้วล่ะ ถ้าใช่คู่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ หนูคิดว่าความรักเป็นเรื่องของพรหมลิขิต”
เรื่องแจ๊คคนก็ยังมองว่าพ่อแม่เรากีดกัน
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่เป็นความสบายในของหนูมากกว่า คนจะมองยังไงก็มองไปเถอะหนูไม่ได้ใส่ใจ สุดท้ายแล้วเวลาเป็นข่าวคนจะอ่านแต่หัวข้อ แต่ไม่ได้อ่านเนื้อใน เราเริ่มเข้าใจธรรมชาติของคนมากขึ้น ดีซะอีก เราอยู่ในกระแสมีข่าวเป็นความโชคดีของหนูนะ”
แบรนด์เนมหัวจรดเท้า
กลัวว่ามันจะกลายเป็นกั๊กความสัมพันธ์กันหรือเปล่า
“ถ้าเขาเจอใครใหม่ก็ไปเหอะ เราพูดกันแล้วว่า ถ้าคุณเจอคนที่ดีก็ไป ต่างคนต่างไป ไม่ได้มีอะไรจริงจัง เราไม่ได้ห้ามเขามีใคร แต่เขาก็ไม่ได้ขวนขวายความรักนะ เหมือนอยู่ในจุดที่เป็นอย่างนี้สบายใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกัน เราอยู่กันแบบนี้ดีแล้ว เดี๋ยวพอเป็นข่าวปุ๊ปพ่อกับแม่หนูจะโทรมาแล้ว หนูถึงไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องความรัก หนูเบื่อ ถ้าเป็นหัวข้อเรื่องความรักชีวิตหนูจะวุ่นวายทันที พ่อแม่เหมือนจะสิงหนูอยู่แล้ว จะต้องมานั่งที่บ้าน เขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความรักหรอก เพราะเขามองว่าเราเด็กตลอด”
ณ วันนี้มุมมองความรักของเราเปลี่ยนไปไหม
“ตอนแรกเป็นคนที่มองความรักเป็นสิ่งสวยงาม ตอนนี้ไม่มองอะไรทั้งนั้น ไม่มองจริงๆ มุมมองหนูตอนนี้มีแต่นาฬิกาอย่างเดียว คนเรามีพรหมลิขิตถ้ามันจะมีก็มีค่ะ”
รูปจากอินสตาแกรม @jaja_nongpanee
