หลังจากมีข่าวลือออกมาว่า “กลุ่มปราสาททองโอสถ” ได้ควักเงินซื้อหุ้น 50% จากช่องวัน จนทำให้หลายคนมองว่า กลุ่มทุนกลุ่มนี้จะเข้ามามีบทบาทในการบริหารของช่องหรือเปล่า เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่า “กลุ่มปราสาททองโอสถ” คือเจ้าของช่องทีวีดิจิตอล PPTV นั่นเอง

ด้าน ‘บอย’ ถกลเกียรติ วีรวรรณ CEO ช่องวัน 31 ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวกลางกองละคร “กับดักพิศสวาท” ย่านทองหล่อซอย 10 ว่า เป็น การร่วมทุน ไม่ใช่การซื้อหุ้น และการร่วมทุนครั้งนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ PPTV ซึ่งเป็นช่องทีวีดิจิตอลเหมือนกัน และยืนยันว่าไม่มีแนวทางการร่วมมือกันในอนาคต โดยการร่วมทุนครั้งนี้ บริษัท ประนันท์ภรณ์ จํากัด ซึ่งมี ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ลูกสาวของ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้เข้ามาถือหุ้นจำนวน 50% จึงทำให้ในส่วนของ GMM GRAMMY ซึ่งมี อากู๋-ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เหลือหุ้น 25.50% ส่วนหุ้นของ ‘บอย-ถกลเกียรติ’ จะเหลือ 24.50% อีกทั้งยืนยันว่าการร่วมทุนครั้งนี้ แนวทางการบริหารและแพลนปีหน้าของช่องวันยังเหมือนเดิม

“การที่มีข่าวออกมาเมื่อวาน(1 ธ.ค.) จริงๆ แล้วมันเป็นการเพิ่มทุน ให้กับทางช่องวัน เรามีความคิดว่าเราอยากจะเพิ่มทุนมาสักพักหนึ่งแล้ว ด้วยกิจการของเรามันดีขึ้นเรื่อยๆ เรตติ้งเราอยู่ติดอันดับท็อป 5 แต่จะทำอย่างไรให้มันแข็งแรงยิ่งขึ้น จึงอยากจะเพิ่มทุน ประกอบกับที่เราไปเจอ บริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด โดย คุณปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ซึ่งเป็นบริษัทที่จะมาร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่เห็นว่ามันจะมีกำไร และมีอนาคต เป็นโอกาสทางธุรกิจ พอได้มาเจอกันมันเลยลงตัว ก็เลยเป็นบริษัทประนันท์ภรณ์ที่เข้ามาร่วมลงทุนกับเรา ยืนยันว่าเราไม่ได้ขายหุ้น แต่เราเพิ่มทุน”

ต่อข้อถามพอมีข่าวออกไป จะมีผลอะไรหรือไม่ ซีอีโอหนุ่ม กล่าวว่า “ผมขอยืนยันตรงนี้ว่าไม่ได้เป็นการซื้อหุ้น นี่เป็นการเพิ่มทุนครับ ซึ่งจะทำให้ช่องของเราแข็งแรงขึ้น เป็นการต่อยอดทางธุรกิจ การเดินทางของช่องวัน เป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างที่เห็นว่าความนิยมของช่องเราก็ติดอันดับ 1 ใน 5 ทีนี้จะทำอย่างไรให้แข็งแรงและดีขึ้นไปอีก เรามีความคิดว่าจะเพิ่มทุน นี้ไม่ใช่เป็นการขายหุ้น เป็นการเพิ่มทุน โดยทางเราบริหารงานเหมือนเดิม เพราะเขาเชื่อมั่นในการทำงานของเรา เชื่อมั่นในการบริหารงานของเรา”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าทำไมผู้ถือหุ้นเดิม ไม่เลือกที่จะเพิ่มทุนเอง คุณบอย ตอบว่า “การทำงานของเราดีอยู่แล้ว แต่นี่คือการต่อยอด ทำให้แข็งแรงมากขึ้น ถ้าเราเป็นคนเพิ่มทุนเอง อาจจะไม่แข็งแรงเท่าให้คนอื่นเข้ามาถือหุ้นด้วย น่าจะทำให้บริษัทเราแข็งแกร่งมากขึ้นการเดิม อย่างเช่นสต๊อกละครเรามีน้อยเรื่อง แต่พอเพิ่มทุนเราอาจมีสต๊อกละครเพิ่มขึ้น พอถึงเวลาจริง เราก็สามารถเลือกได้มากกว่า ถึงอันเดิมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”

img_9752

ถ้าเราเพิ่มทุนเองก็เพิ่มสต๊อกละครได้เหมือนกัน ผู้บริหารหนุ่มแย้ง “ไม่เหมือนครับ ในเรื่องของการดำเนินการ รายการที่ใหญ่เราต้องใช้เงินมากขึ้น การดำเนินการของช่องที่ผ่านมา ดำเนินไปได้ด้วยดี ได้ความสำเร็จอย่างที่เห็นกันอยู่ แต่พออย่างนี้เรามีตัวเลือกมากขึ้น ลองผิดลองถูกได้มากขึ้น ในธุรกิจบันเทิง บางอย่างไม่ใช่ว่าทำปุ๊บแล้วได้เลย เราสามารถมีอ๊อพชั่นเพิ่มมากขึ้นจากบริษัทใหม่ที่มาเพิ่มทุน ถ้าเราเพิ่มทุนเองมันเป็นไปได้ แต่อาจจะไม่ได้จำนวนเท่านี้ กลุ่มทุนใหม่เข้ามาเพิ่มทุนอย่างเดียว”

ทำไมกลุ่มใหม่ถึงได้เข้ามาเพิ่มในสัดส่วนที่เท่ากัน “ไม่ได้มีใครมากกว่ากัน ผมคิดว่าคนที่เข้ามาใหม่ คงอยากให้เป็นแบบนี้ ไหนๆ ลงทุนแล้วอยากได้สัดส่วนที่เท่ากัน”

ทางบริษัทประนันท์ภรณ์ จํากัด เขาต้องการตัวแทนเข้ามาบริหารไหม “มีครับ แต่ต้องคุยกันอีกที ว่าจะมีกี่คน”

ถามต่อว่าคนที่เข้ามาซื้อ มีชื่อในพีพีทีวี ซึ่งเป็นทีวีดิจิตอลเหมือนกัน คุณบอย กล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ เพราะบริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด ถือหุ้นโดยลูกสาวของหมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ คือ คุณปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพีพีทีวี”

ผู้ถือหุ้นเดิม ได้ส่วนแบ่งจากตรงนี้ไหม “ไม่ได้ครับ เพราะตรงนี้เป็นการเพิ่มทุน ไม่ใช่การขายหุ้น เงินที่ได้มาเอามาทำโปรดักต์ของเราให้ดีขึ้น เอามาลงทุนไม่ใช่ใช้หนี้ เงินที่เราจะต้องจ่าย กสทช. ซึ่งเป็นค่าสัมปทาน เราได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”

ต้องแจ้ง กสทช. เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไหม “ไม่ได้มีในข้อกฎหมายว่าต้องแจ้ง เพราะมันชื่อ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ คิดว่าไม่ต้องแจ้ง ทาง กสทช. มีถามมาบ้าง แต่สิ่งที่ดูตรงนั้นมันไม่เกี่ยว”

เราไม่ได้ขายหุ้น แต่เป็นการเพิ่มทุน หุ้นในส่วนของเราลดลงรู้สึกอย่างไรบ้าง “ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ผมมองในตัวของงาน ผลลัพธ์ของผลงานมากกว่า ไม่ใช่ หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง แต่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสิบ มันเป็นการขยายผลจากที่เรามีอยู่ และหุ้นที่ผมมีอยู่ผมก็ไม่คิดที่จะขาย ผมว่ามันเป็นการทำงาน ผมรักงานของผม”

เดิมปีหน้า ก่อนที่ยังไม่ได้มีคนมาเพิ่มทุนมีการเตรียมงบไว้เท่าไหร พอมีคนมาเพิ่มทุน งบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไหร่ “ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องแผนธุรกิจ แต่ก็คงเป็นเร็วๆ นี้ ดีลนี้มีการเซ็นไปแล้วจะจบเมื่อไหร่ก็ได้ ในส่วนของการจ่ายเงินก็ค่อยๆ ทยอยจ่าย”

มองแนวโน้มการเข้าไปร่วมงานกับพีพีทีวีอย่างไร ในฐานะที่มีผู้ถือหุ้นเดียวกัน “ไม่ใช่ครับ เราไม่มีแนวโน้มในการร่วมงานกับพีพีทีวีทั้งสิ้น เป็นคนละเรื่อง และไม่มีความคิดที่จะทำด้วย ถ้าเราจะร่วมมือกับช่องไหน เราก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราร่วมมือกับช่อง 3 หรือ ช่องเอ็มคอต เหมือนกันครับ ไม่ได้มีการร่วมมืออะไรกัน อย่างที่บอกไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดียวกัน อันนี้ลูกเขาอยากทำแบบนี้ และเท่าที่ผมทราบ เขาไม่มีหุ้นในพีพีทีวีครับ”

เราคาดหวังกับเรตติ้งมากน้อยแค่ไหน “คาดหวังให้สูงขึ้น แต่ตอบไม่ได้”

กลยุทธใหม่ๆ มีการปรับอะไรบ้าง “ด้านการปรับกลยุทธ เราจะมีอะไรให้ดูมากขึ้น ละครสนุกขึ้น แต่ที่ผ่านมาเรามีการปรับเรื่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้กระแสก็ดีมาก คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ในปีหน้า ผมจะบอกได้ยังไง มันเป็นความลับในการดำเนินธุรกิจ เพราะเราก็มีแผนการที่คิดเอาไว้บ้าง รับรองรายการเด็ดๆ เพียบ ส่วนแนวทางของละครปีหน้า ผมคิดว่าละครมีความหลากหลายอยู่แล้ว การจะย่ำอยู่กับที่ด้วยละครแนวเดิม มันคงเป็นไปไม่ได้”

หลายสถานีฮิตซื้อซีรีส์เกาหลีมาฉาย ทางเรามีนโยบายยังไง “ไม่สนใจครับ เพราะเคยซื้อมาแล้วไม่ได้รับการตอบรับที่ดี คงจะไม่เหมาะกับช่องเราเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ช่องวันแฮปปี้มาก ส่วนเรื่องสถานะด้านตัวเลขผลประกอบการในอนาคต ถามว่าหลังจากเพิ่มทุนแล้ว คาดหวังจะเห็นเป็นเลขสีเขียวใช่ไหม ตอบไม่ได้เลยครับ ลุ้นๆ อยู่ จริงๆ ปีนี้ก็ได้ดีกว่าเป้า โฆษณาเข้ามามากขึ้น”

เห็นว่าไตรมาสสุดท้ายพลาดเป้าไป 10 เปอร์เซ็นต์จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,700 ล้านบาท “ครับ แต่เป้าหมายของทั้งปียังโอเค”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน