‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

วันที่ 28 มิ.ย. ที่ BSC Lounge Esplanade รัชดา มีงานแถลงข่าวภาพยนตร์ “ปาฏิหาริย์แก้วนาคราช” โดยพระเอกหนุ่ม นิว ชัยพล พูพาร์ต แสดงนำ หลังจากจบการแถลงข่าว นิว ชัยพล ได้เผยถึงสาเหตุที่เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว จากเมื่อก่อนใช้ผู้จัดการเดียวกับ มาริโอ้ เมาเร่อ พร้อมอัพเดตเรื่องความรักกับสาวนอกวงการ “เมษา”
กับเรื่องเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว คือผมแบ่งมาดูแลคิวเองครับ เพราะเราทำงานเรื่อยๆเหมือนมีแค่คิวละครกับคิวถ่ายรายการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ว่ามีงานอะไรพี่โชเขาก็ยังส่งมาให้ เรียกให้เหมือนเดิม พี่โชเขาไม่ได้ดูให้ทั้งหมดแล้ว ผมมาดูเองได้ไม่นานเท่าไหร่

‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

นิว ชัยพล

มีข่าวว่ามีอักษรย่อนักแสดงชาย-หญิง อยู่ๆก็เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวโดยไม่บอกกับผู้จัดการส่วนตัว ไปอยู่กับอีกที่นึง?
“น่าจะไม่ใช่ผม เพราะเรายังคุยกันอยู่ มีงานอะไรพี่เขาก็ยังส่งมาให้เหมือนเดิม เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน พี่เขาก็ดูงานให้มาตั้งแต่แรก เราไม่ได้มีสัญญาอะไร เป็นสัญญาใจ ซึ่งมันยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ไม่ได้ทะเลาะหรืออะไรกัน มันไม่ใช่ผม ผมไม่กลัวคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นผม ผมทำงานของผมเรื่อยๆ”

‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

ทะเลอันกว้างใหญ่

พอได้มาดูงานเองเป็นอย่างไรบ้าง?
“ไม่ถึงกับว่ามาดูงานเองขนาดนั้น ผมแค่ดูแลคิวของตัวเอง เพราะงานผมมีแค่คิวละครกับคิวถ่ายรายการ เราเข้ามาตรงนี้ เราตั้งใจมาเล่นละครเล่นหนังเป็นหลักมากกว่า เราเน้นเรื่องการแสดงเป็นหลัก เราทุ่มเทให้คิวตรงนี้ก่อน ถ้ามีอย่างอื่นเข้ามาก็หลังจากนั้นค่อยว่ากัน อาชีพของเราคือการแสดงเราอยากทำตรงนี้ ทางช่อง3 ก็มีมาช่วยครับ ละครเรื่องใหม่ๆก็ช่วยดูให้ คอยส่งบทมาให้”

ทำไมถึงคิดว่าการเอามาจัดการเองมันจะดีกว่า?
“ด้วยงานเราเรื่อยๆไม่ได้มีอะไรหวือหวา เราเข้ามาในฐานะนักแสดงคนนึงที่มาทำความฝันอยากเล่นหนัง อยากเล่นละคร มันเริ่มต้นจากตรงนี้ อยากให้ตรงนี้เป็นหลักกับตัวเอง นอกเหนือจากนั้นมันเป็นเรื่องรอง แต่ทุกอย่างมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่ว่าเราจะมองมุมไหน ก็ค่อยๆปรับตัวไปตามสิ่งที่เราเจอ เราไม่อยากจะคิดไปไกลถึงอนาคต เราอยากจะทำปัจจุบันให้ดี ให้มันมีความสุขจะดีกว่า”

‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

นั่งชมทุ่งนาชิลๆ

เกี่ยวมั้ยว่าพี่เขาอาจจะเป็นสายอีเว้นต์แต่ตัวเราเป็นสายละคร?
“ไม่เกี่ยวครับ มีทั้งสองอย่างควบคู่กันไปมันก็ดีที่สุดแล้ว เราไม่ได้อยากสุดโต้งในทุกด้าน มันไม่ดี มันจะเห็นข้อเสียที่ชัดมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีสองด้านเราก็อยากจะบาลานซ์ให้ได้มากที่สุด ทุกวันนี้เรายังคุยกับพี่เขา ยังทำงานด้วยกัน ไม่ได้มีปัญหา พี่เขาก็ยังรับงานให้ ส่วนตัวผมให้แม่ดูงานให้เป็นหลัดในอินสตาแกรมผมก็ลงเบอร์แม่ผมไว้ แต่ถ้าใครยังโทรไปทางพี่โชก็ได้ครับ จะติดต่องานมาทางใครก็ได้หมดครับ”

ถามถึงเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เห็นบินไปเที่ยวกับแฟน
“ใช่ครับ ไปเที่ยวด้วยกัน คิดถึงก็เลยไปหา พอดีว่างช่วงสงกรานต์ด้วย เลยบินไปหาปกติครับ ตอนนี้ใกล้เรียนจบใกล้แล้วครับ คิดว่ากลับภายในปีนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าพอเขาเรียนจบแล้วจะไปเที่ยวต่ออีกหรือเปล่า”

‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

มันสุดยอด

แล้วเรื่องแต่งงานล่ะ ที่บอกว่าเขาเรียนจบแล้วมีแพลนแต่งงาน
เราพูดฝ่ายเดียวไม่ได้ครับ ต้องรอกลับมาก่อนค่อยคุยกันครับ ถามว่ามีพูดเกิร่นเขาไหม ผมยังไม่ได้เกิร่นครับ รอให้เขาเรียนจบก่อน ไม่อยากให้เขา เอาเรื่องอื่นไปผสม กลัวเขาจะโฟกัสไม่ตรงจุด จึงอยากให้เขาเรียนให้จบก่อน เรื่องการเรียนมันสำคัญกว่า ตอนนี้ก็อยากให้เขาโฟกัสเรื่องเรียนก่อน กับข่าวที่ผมให้สัมภาษณืเรื่องแพลนแต่งงานเขาก็ได้อ่านครับ แต่เขาไม่เคยถาม แต่มีส่งข่าวมาให้ดู แล้วถามว่าพูดแบบนี้เหรอ เป็นการแซวมากกว่า ไม่ได้ถามว่าจริงหรือเปล่า ผมก็บอกว่าพูด ถูกสัมภาษณ์ก็ตอบปกติ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึก อยากรอให้เขากลับมาก่อน อย่างที่บอกว่าอยากให้เขาโฟกัสเรื่องเรียนก่อน ไม่อยากให้ไปกวนสมาธิเขาเวลาเรียน

‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

นานๆ สวีทที

ถามว่าเราพร้อมไหม ส่วนตัวผมผมก็ไม่สามารถบอกว่าพร้อมแล้วได้ มันไม่รู้ว่าพร้อมกับเรื่องอะไรแบบนั้น แต่ผมรู้สึกว่า ยังไงก็คงไม่พร้อมเพราะเราไม่เคยแต่งงาน ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไรไม่เคยใช้ชีวิตคู่กับใครทั้งนั้น การแต่งงานไม่จำเป็นว่าเราต้องพร้อมที่สุด มันเป็นขั้นตอนที่ทำให้เราเรียนรู้กันได้มากขึ้นและเป็นการปรับจูนเข้าหากัน ถ้ารอให้พร้อมเราก็ต้องรอไปเรื่อยๆ ผมว่าเรื่องแบบนี้เราสามารถเรียนรู้ไปด้วยกันได้

‘นิว ชัยพล’ รอคุยแฟนเรื่องแต่ง-เปล่าเปลี่ยนผู้จัดการแค่ขอคิวมาดูเอง

มุมขี้เล่นก็มีนะคู่เราอ่ะ

เขาไปเรียนถึงอังกฤษระยะทางมีอุปสรรคไหม
“ไม่เป็น เราใช้ชีวิตปกติทั่วไป มีเฟซไทม์ แต่แน่นอนเวลามันมีไม่ตรงกันบ้าง ไม่ตรงก็ไม่คุยบอกนอนแล้วนะ บางวันก็คุยแค่ 2-3 นาที บางวันก็ไม่ได้คุย บางวันคุยนานหน่อยถ้าว่าง มันไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร เพราะเราค่อนข้างเชื่อใจกันพอสมควร เราก็รู้อยู่แล้วว่าเขาไปเรียน และเราก็ทำงาน บางทีเราก็ทำงาน เราต่างมีหน้าที่อื่นต่องทำเหมือนกัน มันแยกแยะได้ แล้วผมก็ทำให้เขาเชื่อใจ เราใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอะไรหวือหวาอยู่แล้ว เราไม่มีเรื่องอะไรปิดบัง ถามอะไรก็ตอบไปตรงๆ เขาก็เป็นคนนิสัยแมนๆ คุยกันง่าย รู้เรื่องครับ

ขอบคุณภาพจากไอจี newcjp27

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน