34 ปีที่รอคอย ‘สาว สาว สาว’ คัมแบ็ก จัดคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่

วันที่ 18 ก.ค. ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 21 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส เกิร์ลกรุ๊ปในตำนาน นำโดย แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, แหม่ม-พัชริดา วัฒนา และปุ้ม-อรวรรณ เย็นพูนสุข ในนาม “สาว สาว สาว” รวมตัวกันมาถ่ายโปสเตอร์คอนเสิร์ต “สาว สาว สาว” เพื่อโปรโมตคอนเสิร์ตใหญ่ที่แฟนๆ รอคอยกันมานานถึง 34 ปี โดยมี ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้จัดฯ มาร่วมดูแลการถ่ายทำในครั้งนี้ด้วย

ฉอด สายทิพย์-สมาชิกวงสาวสาวสาว

หลังจากนั้น “สาว สาว สาว” และ ‘ฉอด-สายทิพย์’ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงที่มาที่ไปของคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

ที่มาที่ไปของคอนเสิร์ตใหญ่ “สาว สาว สาว” ?
ฉอด สายทิพย์ : หลายคนที่เรียกร้องกันมานานสำหรับวง “สาว สาว สาว” ครั้งนี้จะได้ดูคอนเสิร์ตกันแล้ว หลังจากที่รอกันมา 34 ปี จากคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จริงๆ เรื่องที่จะทำคอนเสิร์ตพวกเราคุยกันทุกปี แต่ด้วยภาระหน้าที่ของแต่ละคนทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ กว่าจะมารวมตัวกันได้ก็ปีนี้

“ถามว่าจะจัดเต็มขนาดไหน ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นความรุนแรงของความคิดถึงที่ทุกคนมีต่อกัน ตอนนี้เอาจริงๆ ยังไม่ได้คิดถึงงานด้านโปรดักชั่น แค่พลังความคิดถึงของพวกเรากับสาวสาวสาว คิดว่ามันก็รุนแรงพอ ส่วนเราในหน้าที่ของการดูแลเรื่องของโปรดักชั่นก็คงยืนยันว่าจะทำให้เต็มที่เหมือนเดิม แต่เดาว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้นั้น สิ่งใดๆ ก็ไม่มีความหมายเท่ากับความรู้สึกที่ทุกคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง”พลังความคิดถึงมันรุนแรงขนาดไหน?
ปุ้ม อรวรรณ : รุนแรงมากค่ะเพราะพวกเราก็เตรียมตัวกันหนักมาก มีการพูดคุยกันเป็นแบบมหกรรม รื้อเพลงทุกเพลงมานั่งฟังกันว่าน่าจะเลือกเพลงอะไรมาร้องบนเวทีเพราะถ้าจะให้ร้องครบทั้ง 11 อัลบั้มคงไม่ไหว เลยต้องมาคัดกันก่อนว่าเพลงไหนดีไม่ดี ค่อนข้างยากเหมือนกันเพราะว่าเพลงของสาวสาวสาวในยุคนั้นดนตรีเอยอะไรเอยมันค่อนข้างบาง เลยมานั่งประชุมกันว่าทำยังไงดีให้เพลงมีความเคลื่อนไหวมากกว่าเดิม ตอนนี้ก็ยังประชุมกันไม่ลงตัวแต่รับรองว่าทุกเพลงที่คิดถึงก็จะได้ฟังกันหมด

แบบนี้จะต้องมีการทำดนตรีใหม่ด้วยไหม?
ปุ้ม อรวรรณ : คงต้องมีแหละค่ะ เพราะว่าดนตรีเก่ามันเป็นในยุคนั้น พอมาถึงตอนนี้ก็ต้องมีสีสันที่แปลกไป

แอม เสาวลักษณ์ : ในเรื่องของเพลงทุกคนก็ช่วยกันเลือก แต่ว่าที่สุดแล้วก็ต้องเป็นทางพี่ฉอดที่จะถามกับคนดูว่าอยากฟังเพลงอะไรกันบ้าง เพราะว่ามีคนดูจำนวนกลุ่มใหญ่เชียวล่ะที่โตมาพร้อมกับพวกเรา ฉะนั้นก็จะมีเพลงในความทรงจำของแต่ละคน

โชว์ที่จะเห็นบนเวทีจะมีอะไรเซอร์ไพรส์คนดูหรือเปล่า?
แหม่ม พัชริดา : ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไป แต่ข้อแขน ข้อเข่า ข้อกระดูกของพวกเราก็ยังดีอยู่ ที่สำคัญพวกเราไม่ได้มารวมตัวกันง่ายๆ เพราะฉะนั้นคนดูอยากฟังเพลงอะไรก็จะได้ฟัง คุณอยากเห็นเราเต้นก็จะได้เห็น ในวงเล็บว่าคุณจะพอใจหรือเปล่าอันนั้นอีกเรื่องหนึ่ง(หัวเราะ) จริงๆ สำหรับพวกเราเองมันเหมือนพี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน ฉะนั้นมันจะไม่ได้เป็นแค่งาน อันนี้มันคือเรื่องของครอบครัวแล้วว่าพวกเราจะสนุกร่วมกันได้ยังไงตื่นเต้นกันไหมเมื่อต้องกลับมาขึ้นเวทีพร้อมหน้ากันอีกครั้ง?
แอม เสาวลักษณ์ : ตอนนี้ยังอึนๆ อยู่ เนื่องจากมีตัวงานที่ต้องทำอีกหลายอย่าง ถึงแม้ว่าเพลงจะเอามาเรียบเรียงใหม่ก็จริง แต่ว่าเราก็ถูกเตือนไว้จากคุณระย้า(ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร)แห่งรถไฟดนตรี ว่าอย่าจับเพลงเดิมที่คนรู้จักมาแต่งตัวจนคนจำไม่ได้ ถ้าจะให้ล้ำเป็นดนตรีสมัยใหม่จนกระทั่งคนงง บางคนอาจจะอยากฟังออริจินัลมากกว่า ซึ่งพวกเราก็จะต้องมานั่งหาตรงกลางระหว่างการทำให้ดนตรีอันแน่นหนาทันสมัยขึ้น แต่ไม่ทำให้คนฟังตกใจและไม่ไปทำลายของเดิมค่ะคิดว่าเสน่ห์ของวง “สาว สาว สาว” ที่มีมาจนถึงวันนี้คืออะไร?
ฉอด สายทิพย์ : ถ้า 3 คนนี้มาในยุคสมัยนี้ บอกเลยว่าเกิร์ลกรุ๊ปทั้งหลายคงไม่ได้เกิด(หัวเราะ) เสน่ห์ของพวกเขาคือการที่พวกเขาร้องเพลงกันมาตั้งแต่ตอนนั้นอายุ 14 15 16 ฉะนั้นในความเป็นธรรมชาติมันมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากนักร้องในยุคสมัยนี้ที่ทุกคนก็ตั้งใจมาเป็นนักร้องกัน แต่ 3 คนนี้เขาไม่ได้ตั้งใจมาเป็นนักร้องกัน ไม่ได้มีความคิดว่าจะเป็นสาวสาวสาวกันด้วยซ้ำไป

“แต่ด้วยอะไรก็ตามแต่มันทำให้พวกเขาได้มารวมตัวกัน เราว่ามันมีความมีเสน่ห์อะไรบางอย่างของเพลง ของการสื่อสารและการแสดง ซึ่งโจทย์ของเราคือการพยายามเชื่อมต่อความทรงจำเก่าๆ ในวันนั้นกับความเป็นวันนี้ซึ่งมันยากนะคะ แต่ว่าเราก็จะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด”คอนเสิร์ตนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มาทำในนามของ “Change” ด้วย?
ฉอด สายทิพย์ : จริงๆ เราทำงานปกติค่ะ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะทำงานภายใต้แบรนด์อะไรก็ตามก็ทำเต็มที่เสมอ แต่ว่างานนี้ออกจากพิเศษหน่อยตรงที่ว่ามันเป็นความไว้วางใจของน้องๆ ทั้ง 3 คนที่ถึงกับบอกว่าถ้าไม่มีเราอยู่ พวกเขาก็จะยังไม่อยากทำงานนี้ เพราะฉะนั้นก็มีความคาดหวังซึ่งกันและกันอยู่อย่างเต็มที่ รวมถึงความคาดหวังของคนดูเชื่อว่าหลังจากที่เราประกาศตัวออกไปว่า สาวสาวสาวจะกลับมาอีกครั้งหลังจาก 34 ปีผ่านไป แน่นอนว่ามันมีความคาดหวังของคนดูอีกมหาศาลคอนเสิร์ตจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?
ฉอด สายทิพย์ : คอนเสิร์ตจัดขึ้นในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ซึ่งจะเปิดขายบัตรในวันที่ 10 สิงหาคม ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ถามว่า 2 รอบคือพอแล้วใช่ไหม ตอนนี้ยังไม่แน่ใจอย่างที่บอกว่ารุ่นนี้แล้วก็ต้องดูพละกำลังด้วย แต่ไม่อยากให้พลาดจริงๆ ค่ะ พวกเรายังคุยกันอยู่เลยว่าก็ไม่แน่เนอะว่าจะมีโอกาสได้เจอกับพวกเราแบบนี้กันอีกหรือเปล่า

“การที่สาวสาวสาวมารวมตัวกันมันไม่ได้มารวมตัวกัน เพราะว่าพวกเขาอยากจะทำธุรกิจของสาวสาวสาวต่อไป แต่มันเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ซึ่งไม่อยากให้พลาดกันเลย เพราะเวลาบัตรมันหมดแล้วมันก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ จะเพิ่มรอบหรือเปล่าตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องรีบไปซื้อบัตรให้มีไว้ในมือก่อนดีกว่า”นอกจาก “สาว สาว สาว” แล้วจะมีแขกรับเชิญอีกไหม?
ฉอด สายทิพย์ : คงมีแขกรับเชิญแน่นอนค่ะ แต่ว่าจะเป็นใครอะไรยังไงก็เดี๋ยวไปคอยดูแล้วกัน

แอม เสาวลักษณ์ : หลายคนบอกมาว่าคอนเสิร์ตสาวสาวสาวครั้งนี้ มันจะเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่อยากดูก่อนตาย ซึ่งพวกเราในฐานะที่เป็นคนเล่นก็อยากบอกว่า พวกเราก็อยากเล่นก่อนตายเหมือนกัน(หัวเราะ) เพราะว่าในวันที่มีคอนเสิร์ตมากมายเยอะแยะจริงๆ คนดูจะเลือกดูอะไรก็ได้ แต่ว่าความแปลกประหลาดและแตกต่างของคอนเสิร์ตสาวสาวสาวสาว

“คืออย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่ามันเกือบจะได้จัดมาหลายรอบ แล้วมันก็เกือบจะไม่ได้จัด พวกเราเคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีตั้งหลายครั้งแบบฟันธงไปเลยว่าไม่จัดไม่มีแน่นอน ซึ่งก็ไม่มีใครนึกว่ามันจะมีคอนเสิร์ตครั้งนี้เกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ”

แหม่ม พัชริดา : แม้แต่พวกเราเองก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีคอนเสิร์ตครั้งนี้เกิดขึ้น อยู่ดีๆ ก็เหมือนว่าเวลามันก็มาในจุดที่ใช่ ในเวลาที่พวกเราพร้อม และในเวลาที่พี่ฉอดพร้อม ทุกคนพร้อม ทางรถไฟดนตรีคือคุณระย้าก็พร้อมและกรุณาพวกเรามากๆ ถ้าไม่ทำวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำวันไหนแล้วค่ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน