'ปีเตอร์' รับเคยเป็นแบดบอย เผยลูกคือแรงบันดาลใจเปลี่ยนชีวิต

‘ปีเตอร์’ รับเคยเป็นแบดบอย เผยลูกคือแรงบันดาลใจเปลี่ยนชีวิต

วันที่ 3 ส.ค. ที่ แฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น 1 สยามพารากอน มีการจัดงาน “Hamilton 100 Years of Timing the Skies” ซึ่งมี “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” นักแสดงหนุ่ม มาร่วมงาน และให้สัมภาษณ์อัพเดตพัฒนาการลูกชาย “น้องแพนเตอร์-น้องพูม่า” รวมถึงที่ได้เลือดพ่อมาเต็มเพราะลูกชายดูจะชอบขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนตนเอง

ลูกเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?
“น่ารักขึ้นเรื่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ ที่ผมดีใจมากเลยคือตอนนี้เขาคุยกันเป็นประโยคได้ เข้าใจเยอะขึ้น มันได้สื่อสารกันในจุดที่เรารู้สึกว่าอิ่มใจ อย่างเด็กเล็กคุยเราต้องเดาเอาว่าเขาหมายถึงอะไร บางอย่างเขาก็พูดได้ บางอย่างก็อธิบายไม่ได้”ล่าสุดน้องนั่งมอเตอร์ไซค์
“เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลย เขาเองก็ชอบกันอยู่แล้ว เห็นมอเตอร์ไซค์เขาจะกลัวนิดนึง เพราะของผมคันใหญ่มาก ทรงสูง เหมาะกับคนขายาวๆ เขาเห็นเขาก็จะกลัวๆนิดนึงผมเลยจับไปนั่ง พอได้นั่งเขาก็ชอบกันใหญ่เลย แพนเตอร์หันมาบอกว่ามอเตอร์ไซค์ปาป๊าใหญ่มากเลย ปาป๊าซื้อคันเล็กๆ ให้แพนเตอร์นะครับ”

“น่ารักมาก งานเข้าเลย แต่ยังไงก็รอให้โตก่อน ควรจะให้แข็งแรง ควรจะมีพื้นฐานที่ดี ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ควรปั่นจักรยานให้แข็งแรงก่อน ค่อยว่ากันทีละสเต็ป ตอนนี้สเต็ปจักรยานได้แล้วครับ มอเตอร์ไซค์นี่คงจะไม่รอด(หัวเราะ)”

แพนเตอร์-พูม่า นั่งมอเตอร์ไซค์

ลูกพ่อมาเต็ม?
“เขาเหมือนพ่อเลย ผมเองก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เด็กๆ อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เป็นทางสายเลือดรึเปล่าที่ทำให้เขาชอบ แต่ยังไงเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน รอเวลาอีกนิดนึงนะลูก”

บ้านอื่นเขาอาจจะเป็นห่วงที่เด็กชอบความเร็ว อันตราย จะเป็นการปลูกฝังเขาให้รักความเร็วมั้ย?
“จริงๆ แล้วผู้ชายยิ่งบ้านเราแล้ว ยากที่จะไม่มีการขี่มอเตอร์ไซค์เลย ยากมาก ผมว่าแทนที่จะปลูกฝังว่าห้าม ยังไงเขาก็ทำอยู่ดี ผมว่าเรามาสอนเขาดีกว่าว่าขี่นี่ต้องใช้ความระมัดระวัง ความปลอดภัยมันสำคัญยังไง เดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อน ทุกวันนี้ท้องถนนมันเต็มไปด้วยรถ การจราจรติดขัดมากขึ้นทุกวัน ความเร็วมันก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน”

“เมื่อก่อนอาจจะบิด 200 เดี๋ยวนี้ขี่ในเมืองผมว่า20 ก็บุญแล้ว(หัวเราะ) แต่มันจะมีอันตรายในรูปแบบอื่น จริงๆไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์เล็กหรือบิ๊กไบค์ก็ควรจะหมั่นเข้าไปทวน ไปเรียนก็เป็นเรื่องที่ดีในการดูแลความปลอดภัยให้ตัวเองและคนรอบข้างที่ใช้รถใช้ถนนกับเรา”พลอยจะโอเคมั้ย ถ้าลูกสนใจมอเตอร์ไซค์?
“เรื่องนี้แน่นอนว่าต้องเป็นการตกลงร่วมกันอยู่แล้ว จะไปขี่ในท้องถนนทั่วไปมันไม่ใช่อยู่แล้ว มันไม่ปลอดภัย แล้วก็มีเรื่องของกฎหมายด้วย มันมีสนามให้ฝึกหัด ก็มีเด็กเล็กๆ มาฝึกนะครับ เริ่มตั้งแต่2-3ขวบก็มี จะมีการปูพื้นฐานมาอย่างดีก่อนจะให้ขี่ เป็นมอเตอร์ไซค์ที่วิ่ง 15 กม.ต่อ 1 ชม. ใส่ชุดหนังเต็ม อยู่ภายใต้ความปลอดภัยที่สุดเท่าที่ทำได้ ซี่งความเร็วเท่านี้เหมาะกับเด็กเล็ก มันเป็นความสนุกสนานมากกว่า ไม่ได้เทรนด์เพื่อไปแข่งอะไรทั้งนั้น”

มีแซวตัวเองว่าเป็นนาฬิกาที่ไม่ตรงเวลา?
“ตอนนี้ตรงเวลาแล้ว(หัวเราะ) เป็นนิวปีเตอร์ครับ ผมไปทบทวนตัวเองก็คงจะมีบางส่วนที่มันจริง ผมได้ทบทวนตัวเองว่าเรื่องราวมันเป็นอะไรยังไงบ้าง ทีแรกผมก็แค่คิดว่ากลับไปเหมือนก่อนแต่งงาน แต่พอทบทวนแล้วคิดว่ามันน่าจะดีกว่าก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ เพราะก่อนแต่งงานก็ยังมีความเป็นร็อคสตาร์ เป็นแบดบอย จริงๆ ตอนนี้มันน่าเลยยุคไปแล้ว ตอนนี้มันก็อยู่ในเรื่องของการทำงานล้วนๆ เลย ระบบรูทีนชีวิตเปลี่ยนหมด ตื่นตี 5-6 โมงเช้า 3-4 ทุ่มง่วงแล้ว ก็ลุยงานตลอด มันคงเป็นนิวปีเตอร์จริงๆ(หัวเราะ)”

ลูกมีส่วนสำคัญให้เราเปลี่ยนไปมากไหม?
“ลูกสำคัญมากครับ พอมีลูกแล้วจะเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำ เราทำเพื่อลูก เหมือนการมีลูกเป็นอะไรที่เปลี่ยนชีวิต ตอนนี้สำหรับผมไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งมากีดขวางทางที่เป็นเรื่องกวนใจ เป็นเวลาที่จะทำเพื่อลูกได้จริงๆ ตอนนี้มีอีกหลายโครงการที่กำลังจะเปิดตัว กำลังเรียบเรียงโครงการอยู่ หันมาทำการค้าขายและธุรกิจที่โยงไปในภาคอินเตอร์ หลายต่อหลายโครงการมีแนวโน้มจะไปได้ดีมาก”

เรื่องหัวใจล่ะ?
“หัวใจเก็บไว้ให้ลูกครับ จริงๆ เราไม่ค่อยมีเวลาทำอะไรมาก เก็บแรงไว้ลุยงานและเก็บใจไว้อยู่กับลูก ส่วนสาวๆ ก็ดูท่าทางแล้วจะมีแต่ความวุ่นวายครับ (หัวเราะ) ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง และอนาคตไม่ใช่แค่อนาคตของผมคนเดียว เป็นอนาคตของลูกด้วย”

“ยอมรับว่าที่ผ่านมามันวุ่นวายอยู่บ้าง จึงส่งกระทบกับอะไรหลายๆ อย่าง รวมถึงเรื่องงานด้วย ผมเลยตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อปูพื้นฐานชีวิตตัวเองใหม่ ปูพื้นฐานอนาคตใหม่ นั่นหมายความว่าอนาคตของลูกจะดีไปด้วย ถ้าตรงนี้ลงตัวเราค่อยว่ากันใหม่ แค่ทำตรงนี้ผมก็ไม่มีเวลาแล้ว”รอให้ทุกอย่างลงตัวค่อยว่ากันเรื่องหัวใจ?
“เดี๋ยวดูก่อนๆ (หัวเราะ) ไม่รีบครับ”

เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนนี้มันช้าไป?
“มันไม่มีคำว่าช้าเกินไปอยู่แล้วครับ การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงของคนเป็นเรื่องที่ยากมาก คนอื่นจะมาเปลี่ยนแปลงคนคนนึงมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนคนคนนั้นต้องเป็นคนเปลี่ยนเอง ซึ่งต้องมีแรงบันดาลใจ ผมเชื่อว่าใครที่มีลูกต้องสามารถทำได้”