เดินทางมาโปรโมตงาน “P80 KING OF BATTLE (Inspired by military training)” เทศกาลการแข่งขันวิ่งวิบาก พร้อมด่านอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ข่าวสด จากนั้นนักธุรกิจหนุ่ม “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าผิดพลาดกับชีวิตครอบครัว
ลุยงานหนักตลอดแบบนี้จะมีเวลาให้เรื่องส่วนตัวบ้างไหม สงกรานต์เผยว่า “ก็เรียนรู้จากที่เคยพลาดไป เรื่องการบริหารเวลา ซึ่งตรงนี้เราเริ่มเก่งขึ้น แต่ยังไม่แตกฉาน”
ยอมรับที่ผ่านมา ผิดพลาดเพราะเวลา “ก็ส่วนนึง แต่คงหลายอย่าง เพราะเรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้เขา (แอฟ-ทักษอร) โกรธขนาดนั้น”
บริหารเวลาได้ดีขึ้น ดีขึ้นแบบไหน “คือแต่ก่อน เราก็ไม่ได้เด็ก เพียงแต่ไม่ผู้ใหญ่พอ ก็คิดแต่เรื่องงาน มองข้างหน้าอย่างเดียว แต่ไม่ได้มองรอบข้างเลยว่าเขาจะรู้สึกหรือมีผล กระทบอะไร ก็เลยมีปัญหา และคงย้อนเวลาไม่ได้แล้ว แต่ข้างหน้าต่อไป เราคงเอาบทเรียนตรงนั้นมาปรับปรุง”
ปรับปรุงตัวเองกับสาวคนใหม่ หรือคนเดิม “ยังไม่ซีเรียสเรื่องนั้นครับ ยังคิดเอาเรื่องงานเป็นหลัก งานเป็นพื้นฐานครอบครัว ถ้างานดีจะทำให้สิ่งที่ต่อจากพื้นฐานไม่สั่นคลอน”
ทั้งที่คนนอกมองว่าเรามีพื้นฐานงานที่ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องลุยหนักขนาดไม่มีเวลาให้ครอบครัว นักธุรกิจหนุ่มกล่าวว่า “ด้วยผมเป็นลูกคนโต เราต้องเริ่มคิดแล้วว่าจะทำอะไรเป็นของตัวเอง ต้องดูแลครอบครัวของเราเองด้วย เลยต้องออกมาลุยหนักนิดนึง”
ตอนนี้คือโสด “โสดครับ โสดแบบมีตำหนิที่ทะเบียนราษฎร (ยิ้ม) ถามว่ามีกำหนดมั้ย คือเราก็คุยกันอยู่ แต่รายละเอียดขอเก็บไว้คุยกันสองคน”
หรือที่ยังไม่จดทะเบียนหย่า เพราะเรายังอยากคืนดี “ตรงนั้นผมไม่สามารถตอบได้ แต่ความรู้สึกตอนนี้คือเราเอาเรื่องลูกเป็นหลัก”
ถ้าถามใจเราจริงๆ ยังรักแอฟไหม “มันก็มีความผูกพัน มันต้องเคยรักกันอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นไม่สามารถเป็นครอบครัวเดียวกันได้ถึง 6-7 ปี แต่ก็มีเหตุบางอย่าง เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เราไม่สามารถจะคงไว้ซึ่งสถานะแบบเดิมได้ แต่เรื่องความรู้สึกเราก็มีแต่ความหวังดีให้เสมอ ถึงแม้จะเจอเรื่องร้ายมา เราก็เข้าใจเขาและยอมรับ ผมก็บอกเขาเสมอว่า เรื่องลูกไม่ต้องห่วง เราเต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นพ่อ เป้าหมายของพ่อทุกคนคือต้องทำให้ดีที่สุดสำหรับลูก”
จะไม่กลายเป็นกั๊กกันไปมาหรือ เพราะสถานะยังไม่ชัดเจน “ไม่หรอกครับ เราไม่เคยทะเลาะกันเลย เราไม่เคยสาดโคลนอะไรใส่กันออกสื่อ เพราะมันจะไปตกที่ลูก”
อย่างเวลามีข่าวที่ถามถึงทางแอฟ เกี่ยวข้องหรือพาดพิงเรา เราได้มีการพูดคุยกันบ้างไหม “ก็เป็นห่วง แต่เราไม่ค่อยห่วงแอฟอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่วางตัวรอบคอบอยู่แล้ว”
ปีใหม่โตขึ้นเรื่อยๆ กังวลอะไรไหม “ไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ ถึงจุดนี้เราโชคดีมากที่ลูกมีบุคลิกหรือคาแร็กเตอร์ ที่สดใส ไปที่ไหนก็ทำให้บรรยากาศตรงนั้นสว่าง แฮปปี้ ใครๆ ก็ให้ความเอ็นดู ถือเป็นความโชคดีของเรา อีกอย่างเขามีแม่ที่คอยประกบติด แม่เขาดูแลได้ดีแน่นอน”
ถ้าปีใหม่โตขึ้น แล้วรับรู้ข่าวเรากับแอฟ กลัวจะไม่เข้าใจหรือกระทบจิตใจไหม “เชื่อว่าคงมี แต่เราพร้อมมีคำอธิบายให้เขา และแสดงให้เขาดูว่า ถึงพ่อกับแม่จะไม่ได้มีสถานะเป็นสามีภรรยา แต่ไม่ต้องห่วง ความรักเรามีให้เต็มที่”
