ตูน บอดี้สแลม ฝันเป็นพระเอกพันล้าน สานต่อโครงการ ก้าวนี้…เพื่อศิริราช ให้สำเร็จ!
“2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” หนังที่ส่งต่อแรงบันดาลใจจาก ‘ตูน บอดี้สแลม’ ให้กับทุกคนในการทำตามความฝันและสิ่งดีๆ เพื่อตนเองและผู้อื่น ผ่านการชมหนังและร่วมบริจาคหารายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา รพ.ศิริราช
- ‘ตูน’ ชวนดูหนัง ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ก.ย.นี้! แจงอัลบั้มคืบ-ลุ้นแต่ง ‘ก้อย’ เร็วๆ นี้
- พี่ตูนสู้ๆ ! เผยเบื้องหลังสุดช็อก กว่าจะได้มา แต่ละก้าว ต้องเจ็บปวดขนาดไหน
หลังจากเปิดตัวโปรเจกต์และปล่อยตัวอย่าง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ภาพยนตร์คลุกวงในตลอด 55 วันของ “ก้าวคนละก้าว” ให้ได้ชมกันเป็นน้ำจิ้มแล้ว ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากประชาชนคนไทยที่ตั้งตารอดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เป็นเพราะเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดนั้นเป็นภาพจากกล้องตัวเดียวของทีมจีดีเอช ซึ่งยังไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน พร้อมเผยให้เห็นถึงเบื้องหลังของทุกๆ ก้าวของร็อกเกอร์หนุ่มหัวใจยิ่งใหญ่ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ตลอด 55 วัน จาก อ.เบตง จ.ยะลา จนถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย
โดย ‘ตูน-อาทิวราห์’ ผู้ริเริ่มโครงการก้าวคนละก้าวและโปรเจกต์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” กล่าวว่า “ในนามโครงการก้าวคนละก้าว ผมคงไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถตอบแทนน้ำใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมก้าวไปด้วยกันจนสามารถระดมเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่งกว่า 1,400 ล้านบาท เหนือสิ่งอื่นใดคือกำลังใจจากพี่น้องชาวไทยทุกๆ คน ที่ทำให้โครงการก้าวคนละก้าวประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย และหากเพื่อเป็นการขอบคุณ ผมและทีมก้าวคนละก้าวได้ร่วมกับ จีดีเอช ทำภาพยนตร์คลุกวงใน เรื่อง ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่พี่น้องชาวไทยทุกคน เพื่อสร้างและสานต่อแรงบันดาลใจในการทำความดีเพื่อผู้อื่น”
เบื้องหลังการถ่าย
“โดยจะเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผมและทีมงานก้าวคนละก้าวตลอดโครงการ ซึ่งมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พวกเราหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนได้ลุกขึ้นมาทำตามความฝัน ได้เริ่มดูแลสุขภาพของตัวเอง และได้รับพลังงานดีๆ ที่จะทำสิ่งดีๆ ทั้งเพื่อตนเอง และเพื่อผู้อื่นต่อไป หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของผมก็อยากเป็นพระเอกพันล้านกับเขาบ้าง เพื่อจะได้นำเงินไปช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส และเพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ครับ” ตูน กล่าว
ทีมถ่ายภาพยนตร์
ในส่วนของ “จีดีเอช” ที่เป็นเพียงผู้เดียวที่ได้รับโอกาสให้ตามติดชีวิต ‘พี่ตูน’ โดยมี 2 หัวเรือใหญ่ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ โปรดิวเซอร์ และ ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับภาพยนตร์ ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขัน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวระหว่างการทำงานให้ฟัง
เบื้องหลังการถ่าย
‘วรรณฤดี’ โปรดิวเซอร์ เล่าว่า “ตูนกับทีม ก้าวคนละก้าว เคยเข้ามาคุยกับเราตอนที่เขาวิ่งที่บางสะพานแล้วมีฟุตเทจเยอะมาก อยากให้ทางเราช่วยนำมาตัดเป็นบันทึกความทรงจำ หรือจะทำเป็นหนังก็ได้ ตอนนั้นวันกับพี่เก้ง(จิระ มะลิกุล) เคยไปร่วมวิ่งกับตูนด้วย เรารู้สึกว่าการวิ่งของตูนครั้งนั้นเป็นเรื่องราวที่ดีมาก เราชอบเรื่องราวข้างทาง คนรอบข้างที่เข้ามาบริจาค รู้สึกว่าน่ารัก มีแต่พลังงานดีๆ เข้ามา เลยคุยกับตูนว่ามีโปรเจกต์ที่จะวิ่งครั้งต่อไปอีกไหม พอตูนเล่าว่าจะมีโครงการวิ่ง 2,000 กิโลเมตรจากใต้สุดไปเหนือสุด เป็นการวิ่งทั่วประเทศเพื่อ 11 โรงพยาบาล พอฟังแล้วเรารู้สึกทึ่งมาก ทึ่งในความคิด และทึ่งในหัวใจของเขา รู้สึกดีใจจังเลยที่ตูนมาชวนให้เราทำหนังเรื่องราวดีๆ แบบนี้ เลยขอตูนว่า ทางเราขอถ่ายการวิ่งครั้งใหม่ดีกว่า เพราะการทำหนังต่างจากการบันทึกไลฟ์ เราขอมีผู้กำกับและช่างภาพของเราเองตามไปบันทึกเรื่องราวของตูน”
ช่วยกันเล่าถึงการทำงาน
“เราได้ผู้กำกับใหม่ ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ที่เคยทำงานกับจีดีเอช และเขาไปเรียนต่อที่นิวยอร์กด้านสารคดี เขาบินกลับมาทันที่ที่รู้ว่าจะได้ร่วมทำโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ ร่วมกับน้องๆ อีก 5 คน เพื่อตามไปถ่ายทำเรื่องราวการวิ่งตลอด 55 วัน จากใต้จรดเหนือ ในแบบที่ไม่ได้เห็นในไลฟ์มาก่อน เป็นการทำงานที่ทีมกล้องถ่ายไป ทีมตัดต่อก็ตัดไป ใช้เวลาเกือบ 3 เดือน กับฟุตเทจที่ส่งกลับมาเป็นจำนวนมากกว่าจะได้เวอร์ชั่นหนังที่ลงตัวที่สุด เมื่อหนังเสร็จสมบูรณ์แล้วเราก็ปรึกษากันว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากประชาชนทุกคนที่ร่วมบริจาค ดังนั้นทุกคนคือเจ้าของหนังเรื่องนี้ที่จะได้ชมฟรี เพื่อเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำดีที่ตูนเคยทำมาแล้วครั้งแรก คือวิ่งที่บางสะพาน วิ่งครั้งที่สองเพื่อ 11 โรงพยาบาล และวิ่งครั้งที่สาม คือใช้หนังเป็นตัวขับเคลื่อนส่งต่อเรื่องราวดีๆ ความทรงจำดีๆ เพื่อให้ทุกคนมาร่วมบริจาค ทำสิ่งดีๆ ร่วมกันอีกครั้ง” โปรดิวเซอร์สาว กล่าว
เบื้องหลังการถ่าย
ด้าน ‘ไก่-ณฐพล’ ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมทำงานโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ ตอนแรกตั้งใจว่าจบแล้วจะทำงานอยู่ที่นิวยอร์กสักพัก แต่พอพี่วัน พี่เก้ง โทร.มาว่ามีโปรเจกต์หนังวิ่งของพี่ตูน ผมตัดสินใจบินกลับมาทันที ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมได้มากำกับ ได้มาทำโปรเจกต์ที่ยิ่งใหญ่มาก คือเป็นการบันทึกเรื่องราวจากเหตุการณ์จริง การวิ่งของพี่ตูนจากเบตงถึงแม่สาย มันเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ เป็นงานที่ท้าทายผมมากเพราะเป็นภาพยนตร์ที่มีความผูกพันต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ และยังฉายในโรงภาพยนตร์”
เบื้องหลังการถ่ายกับเด็กๆ ระหว่างทาง
“ถึงแม้ว่าเรื่องราวตลอดการวิ่งของพี่ตูนจะได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ไปแล้ว แต่ความพิเศษของหนังเรื่องนี้ยังไม่เคยถูกถ่ายทอดที่ไหนมาก่อน จะเป็นการเรียบเรียงภาพเหตุการณ์ต่างๆ บทสนทนาระหว่างเพื่อนๆ การพูดคุยกับครอบครัว ความประทับใจตลอดเส้นทางการวิ่ง ให้ผู้ชมได้รับรู้ในแง่มุมที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน 55 วันของการวิ่งเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีสำหรับผม เหมือนผมได้รับปริญญาอีกหนึ่งใบ ซึ่งเป็นปริญญาที่ผมได้ร่วมวิ่งไปกับหนังเรื่องนี้ หนังที่ให้พลังงานดีๆ กับเราตลอดการทำงาน ในมุมของคนทำหนังผมก็แค่หวังว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจบางอย่างให้กับผู้ชมครับ” ผู้กำกับคนเก่ง กล่าว
ทีมงานทนแดดทนฝน
ผู้กำกับและทีมงานคุณภาพ
สำหรับ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ฉายให้ชมฟรีจำนวน 720,000 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 6-16 กันยายน ที่ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และโรงภาพยนตร์ ในเครือ เอส เอฟ จันทร์-ศุกร์ ฉายให้ชม 1 รอบ และเสาร์-อาทิตย์ ฉายให้ชม 2 รอบ
แม้ในเวลานอนยังมุ่งมั่นทำงาน
ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำความดี “ก้าวนี้..เพื่อศิริราช” ด้วยการบริจาคเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อาคารหลังสุดท้ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส และ ผลิตบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ต่อไป
ผู้กำกับบริการนวดให้ทีมงาน
