“อนงค์ จันทร”
ทําเอาหลายคนหลอนและผวา กับบท “ผีหยด” ในละคร “นางบาป” ทางช่อง 3 ที่นักแสดงมากฝีมือ“โดนัท”มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับหน้าที่ถ่ายทอด ซึ่งเจ้าตัวถึงกับออกปากว่าเหนื่อยและหนัก เหตุเพราะบทส่วนใหญ่ต้องใช้อารมณ์ด้วยเป็นบทดราม่า
อีกทั้งประจวบเหมาะกับที่ตรวจเจอเป็นโรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับสาวโดนัท ทั้งเรื่องงานและความรัก รวมถึงเรื่องสุขภาพ
เป็นยังไงบ้างกับละคร “นางบาป” มารับบทหนักอีกแล้ว?
โดนัท – “(หัวเราะ) บทหนักทุกเรื่องที่เล่น จนรู้สึกว่าให้หนูเล่นบทง่ายๆ บ้างก็ได้ ไม่ต้องยากมากขนาดนี้ เรื่องนี้โดเล่นเป็นหยด ต้องมีเหตุผลของตัวละครและความเหนือจริงเพราะต้องเล่นเป็นผี โดเคยเล่นเป็นผี แต่ไม่เคยเป็นผี อย่างเล่นเป็นนักร้อง เป็นโน่นนี่ยังไปศึกษาได้ แต่พอเป็นผีแล้วผีเป็นอย่างไร ต้องทำการบ้าน โดเคยเล่นละครผีมาแล้ว เราก็ต้องทำอย่างไรไม่ให้เหมือนกัน”
ยากที่เป็นผี หรือว่าเป็นคน?
โดนัท – “มันยากที่คาแร็กเตอร์ตัวละคร มันมีภายในทำให้เขาเป็นแบบนี้ หยดเขาอยากจะไปให้พ้นจากการเป็นทาส พอเขาเจอพระวนาเทพ(นาวินต้าร์) เขารักจริงๆ แล้วพระวนาเทพก็บอกว่าถ้าเลิกทาสเขาจะเอาเราขึ้นเป็นเมีย เราก็หวังตรงนั้น พอผิดหวังก็หาทางทำวิธีต่างๆ เพื่อให้ได้เขากลับมา พอทำอะไรผิดก็ไปโทษคนอื่น โกหกหน้าซื่อว่าไม่ได้ทำ โยนให้น้อง ทำไปเรื่อยๆ จนมันรุนแรง ดูเผินๆ หยดน่าสงสาร แต่จริงๆ ไม่น่าสงสาร โดต้องเล่นให้ได้แบบนั้นด้วย ในเรื่องหยดทำตัวมันเอง มันมีเรื่องราวจนทำให้วิญญาณติดอยู่ที่นั่น”
ตอนถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง?
โดนัท – “เหนื่อยเพราะส่วนใหญ่เป็นดราม่า พอเป็นละครย้อนยุค ก็มีเรื่องโลเกชั่น ภาษา การแต่งตัว แล้วปีที่แล้วเพิ่งรู้ว่าเป็นโรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นช่วงที่หนัก เพราะเพิ่งเป็น ก็จะแย่จะหลับตลอด จะมีวันที่แทบไม่ไหว ทางกองก็ซัพพอร์ตมาก อย่างตอนถ่ายฉากคุกใต้ดิน ไม่มีฉากไหนที่ไม่มีโด แล้วโดเดี้ยงทุกวัน ฉากไหนไม่มี เราก็นอน พอมีเขาก็เรียกเราขึ้นมาถ่ายใหม่ เป็นแบบนี้ตลอด มันหนัก แต่เรารู้ว่าเราต้องทำให้ได้ พอจบเรื่องนี้โดไม่รับเล่นอะไรเลย เพราะพอเราป่วยแล้วไปทำปัญหาให้คนอื่นมันก็ไม่ดี”
ตอนนี้อาการเป็นอย่างไร?
โดนัท – “ดีขึ้นค่ะ แต่ต้องไปหาหมออยู่ มันจะขึ้นๆ ลงๆ ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วมาก ปีที่แล้วละคร 2 เรื่อง และก็เพิ่งเป็น มันต้องประคองมา แล้วโดไม่ได้กินสเตียรอยด์ รักษาด้วยการกินยาตัวอื่น มันได้ผลช้าหน่อย แต่ต้องไปโรงพยาบาลทุกเดือน”
ได้งานละครแต่ละเรื่องยากตลอด เราทำการบ้านอย่างไร?
โดนัท – “คิดอยากไปเรียนแอ๊กติ้ง แต่เวลาเรามีน้อย ก็จะดูหนังเยอะๆ เพื่อดูความหลากหลายของตัวแสดง การตีความ คุยกับผู้กำกับฯ เยอะๆ ทำความเข้าใจตัวละครให้มากๆ พอเล่นมาพักหนึ่งผู้กำกับฯ ก็จะไม่บอก เพราะเขาเห็นว่าเราเล่นมาเยอะ ก็จะปล่อยให้เล่นเอง”
เลือกบทอย่างไร?
โดนัท – “พยายามดูว่าอันไหนที่เคยเล่นแล้ว หรือใกล้เคียง ก็จะไม่เล่นซ้ำ หรือว่าอายุ เพราะเล่นมาตั้งแต่อายุ 17 ปี จนตอนนี้ 35 ปี คือถ้าให้เล่นเด็กมากๆ หรือโตเยอะๆ ก็ไม่ไหว เราต้องดูว่าอันไหนเหมาะไม่เหมาะ อย่างตอนเล่นสุดแค้นแสนรัก เรื่องนั้นต้องเล่นเป็นคนที่มีลูกโต แต่พอได้อ่านเรื่องและเห็นนักแสดงที่เล่นด้วยก็เลยต้องเล่น จะให้เล่นเป็นแม่มันก็ต้องดูบทอีกทีว่าเรื่องเป็นอย่างไร เล่นกับใครบ้าง ต้องดูโดยรวม”
ตอนนี้นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว ยังเป็นผู้จัดด้วย?
โดนัท – “ค่ะ ละครของตัวเองตอนนี้ยังเขียนบทอยู่ ทางช่องอนุมัติแล้ว เราพยายามหาบทประพันธ์กัน แต่สุดท้ายลงที่พล็อตบทกันขึ้นมาใหม่ ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นแนวไหน รอบทให้เสร็จก่อน นักแสดงก็ยังไม่ได้คุยเลย”
พอเริ่มงานละครที่ต้องเป็นผู้จัดเองก็จะหยุดงานแสดงไปก่อน?
โดนัท – “โดทำได้ทีละอย่าง ช่วงนี้เป็นช่วงทำบท โดก็ไปทำหนัง ทำโฆษณา จะสลับกัน ปีนี้ไม่ค่อยอยากเล่น เพราะปีที่แล้วร่างกายแย่มาก แล้วทำให้งานมันแย่ เราทำไม่ได้เหมือนเดิม แล้วไปเป็นภาระให้คนอื่น โดเป็นโรค SLE มันคือภูมิคุ้มกันของเราทำร้ายตัวมันเอง สิ่งที่คุณหมอห้ามเลยคือห้ามตากแดด ไม่ให้เครียด ให้นอนพักเต็มที่ แล้วเป็นโรคที่ตื่นเช้าไม่ได้ ถ้าตื่นเช้าต้องฮึด อย่างวันนี้นัดเช้า กลายเป็นว่าเมื่อ คืนตื่นทุกชั่วโมง เพราะกลัวตอนเช้าจะไม่ตื่น มันเป็นโรคที่ร่าง กายต้องการการพักผ่อน แล้วคุณหมอห้ามเครียด เพราะถ้าเครียดจะไปกระตุ้นโรค แล้วดูบทสิ (หัวเราะ) แล้วเราเครียดเพราะร่างกายเราทำไม่ได้ กลางวันต้องไปให้ยา เอฟเฟ็กต์ของยาบางวันจะปวดหัว ปวดตัว หงุดหงิด พอมันเป็นอย่างนี้ จิตเราก็ไม่ดี แต่โดก็พยายามจะปล่อยวาง เราเป็นภูมิคุ้มกันบกพร่องทำร้ายตัวเอง มันขึ้นๆ ลงๆ พอห้ามโดนแดดก็กลายเป็นคนขาดวิตามินดี ก็ต้องกินวิตามินดี แล้วพอคนเราไม่ได้แดดก็ไม่มีเอเนอร์จี มันต้องหาสมดุล ทำทุกอย่างให้สมดุล ตอนนี้โรคมันคงที่ก็โอเค”
ตอนนั้นเรียกว่าโหดมาก?
โดนัท – “ถ้าไปกอง โดกลับมาตายทุกรอบ บางวันท้อ เพราะบางวันแย่เลย ลุกไม่ได้ สมมติทำงานหนัก 3 วัน โดจะนอนไปอีก 2 วัน มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่พอรู้ว่าต้องอยู่กับโรคนี้ แล้วเราดื้อกับสิ่งที่หมอห้าม เราต้องจัดการสมดุลมันให้ได้ อย่างตอนนี้โดทำหนังสั้น เกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องตากแดด ก็จะวางแผนว่าต้องมีที่ร่มอยู่ แล้วไม่ตากแดดทั้งวัน เราต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน ใส่เสื้อกันยูวี ใส่มาถึงคอ ปิดหน้าปิดตา ผิวหนังไม่มีส่วนไหนออกมาโดนแดดได้เลย เราต้องรู้ ต้องนอนไปให้พอ จะไม่เครียดมาก พอดีๆ ไม่ตึง ยังใช้ชีวิตได้ โรคนี้รักษาไม่หาย เป็นไปตลอด”
ถามหมอไหมว่าทำไมถึงเป็นโรคนี้ได้?
โดนัท – “มาจากกรรมพันธุ์ด้วยส่วนหนึ่ง ความเครียดด้วยส่วนหนึ่ง ไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ งานที่เราทำ มันเป็นโรคที่แบบว่าพอเราเหนื่อย เราก็คิดว่าเรานอนไม่พอ ไม่มีใครคิดว่าตัวเองป่วย โดเริ่มจากเป็นไข้เลือดออก รอดูอาการ ปรากฏเกล็ดเลือดไม่ขึ้น ลงอย่างเดียว มันเลยผิดปกติ คุณหมอก็เลยส่งตรวจต่อ”
เรียกว่าโรงพยาบาลเป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2?
โดนัท – “ถูกต้อง เข้าทุกเดือน ก็ทำใจเหมือนว่าป่วยก็ต้องรักษา ที่บ้านเขาก็เป็นห่วง แต่พอเราไม่ทำตัวป่วย มันก็โอเค ส่วนหนึ่งตอนนี้เราไม่ได้ทำงานหนัก มันเลยดีขึ้นกว่าตอนที่เป็นใหม่ๆ”
เหมือนทำงานมาเพื่อเอาเงินมารักษาตัวเอง?
โดนัท – “ใช่(เสียงอ่อยๆ) โดว่าสังขารเป็นอะไรที่ซื้อไม่ได้ อยากให้ดูแลตัวเองกันทุกคน ป่วยนิดหน่อยก็ให้ไปหาหมอ จริงๆ ปีนี้โดก็มีโรคแทรกขึ้นมาระหว่างทาง เหตุเพราะภูมิคุ้มกันต่ำ ความเครียดเข้ามาเราก็ป่วยกว่าคนอื่นได้ง่าย อย่าคิดว่าไอนิดเดียวไม่ต้องไปหาหมอ มันต้องดูแลใกล้ชิด ป่วยก็หาหมอ”
ไม่กะเกณฑ์ความรัก-ปล่อยตามธรรมชาติ
คบกับแฟนหนุ่ม “ตาม จำนงค์อาษา” มาได้ 2 ปี กว่า ความรักเป็นไปด้วยดี เรื่อยๆ ไม่หวือหวา โดยดาราสาว “โดนัท-มนัสนันท์”เปิดใจว่า “ความรักตอนนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรหวือหวา โตแล้วก็อยู่กันเงียบๆ โดเป็นคนที่ไม่ได้แสดงออก เข้าใจว่าคนสงสัยว่าทำไม่ไม่มีรูป คือเราอยากอยู่กันเงียบๆ แบบนี้ดีแล้ว มันรู้สึกว่าพอเราแชร์เรื่องตัวเองเยอะมันก็เหนื่อยอีก เราก็จะอยู่กันเงียบๆ เบาๆ ถ่ายรูปคู่ก็ดูกันสองคน จริงๆ ก็มีลงรูปคู่ ไม่ได้ปิดอะไร ใช้ชีวิตปกติมาก เรารู้สึกว่าแบบนี้เราสบาย เขาก็สบายด้วย ไม่กดดัน ช่วงเป็นข่าวเขาจะกดดัน ชอบมีคนเรียกเขาว่าเป็นไฮโซ ซึ่งเขาเป็นคนธรรมดา เราก็อยากให้ทุกคนสบาย ไม่กดดันซึ่งกันและกัน”
เวลามีข่าวแต่ละครั้งดูเขาเครียด “ไม่เครียดค่ะ คือเวลามีข่าวทุกคนมาถามโด โดก็ตอบได้ ไม่ได้ปิด มาถามว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ก็เหมือนเดิมปกติ”
มีวี่แววของการใช้ชีวิตคู่ไหม ดาราสาวกล่าวว่า “ยังค่ะ ขอทำงานก่อน ยังเดี๋ยวก่อน เบาๆ ค่อยๆ เลี้ยงหลานไปก่อน”
แล้วเขาเป็นห่วงเราขนาดไหน เพราะเราป่วยด้วย และเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่งด้วย “เขาก็ดูแล พาไปโรงพยาบาล แต่เขาก็จะคอยบ่นเหมือนกับพ่อแม่โด ว่าห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำอันนี้ไม่ได้ อันนี้ให้พอแล้ว ถึงเขาจะบ่นแต่เขาก็ดูแลและค่อนข้างเข้าใจ โดโชคดี แต่มันก็ธรรมดา คนเราคบกันมันก็ต้องมีไม่เข้าใจกันบ้าง แต่มันก็ต้องหาตรงกลางให้กันและกัน ทะเลาะกันก็ต้องหาทางเข้าใจกันให้เร็ว”
“โชคดีที่เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ได้ แล้วเราก็คบกันตอนที่เราโตแล้วทั้งคู่ เราจะรู้ว่าประสบการณ์ที่เคยมีมาก่อน ถ้าเราเก็บอะไรไว้เยอะๆ แล้วพูดทีเดียวมันพัง ตอนนี้พอเรารู้สึกว่าไม่โอเคตรงไหนของกัน มันก็อาจจะมีบางช่วงไม่ดี แต่เราก็จะหาทางปรับให้กลับมาดี”
ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน จะรู้จักกันดี แล้วความเกรงใจมันมีน้อยลงไหม “โดก็จะเกรงใจเขานะ โดก็จะนึกถึง รู้สึกว่าอันนี้เรายุ่งไปแล้ว ต้องมีเวลาให้เขา เพราะโดจะทำงานเยอะและไม่เป็นเวลา ส่วนเขาทำงานเลิกเป็นเวลา ของโดไม่เป็น เราก็ต้องจัดการให้ได้”
เขามีไปหาที่กองละครบ้างไหม “เขาก็ไปหา แต่ถ้าเป็นเรื่องที่โดแสดงเขาไม่ไป เพราะเขาขี้เกียจรอ แล้วโดก็ไม่ชอบให้เขาเป็นอย่างนั้นด้วย ส่วนใหญ่จะไปกองที่เราทำหน้าที่ผู้จัดมากกว่า ซึ่งเขารู้จักทุกคน”
มีแบบส่งข้าวส่งน้ำมีหรือเปล่า ดาราสาวแย้ง “ไม่ค่ะ เขาเป็นประเภทที่ฝากซื้อของยากมาก เขาไม่เก็ต เป็นผู้หญิงต้องซื้อไปให้ซิ จะไปบอกเขาว่าเธอซื้อนั้นนี้ให้หน่อย เขาจะบอกไลน์แมนมั้ยโด เขาจะไม่ใช่แบบว่าเดี๋ยวแวะซื้อ ครัวซองต์ร้านนี้มาฝาก ถ้าเราฝากเขาแบบนั้นจะโดนด่าด้วย (หัวเราะ) แต่เขาจะชอบทำกิจกรรมด้วยกันมากกว่า ไปหาอะไรกินพร้อมกัน”
“โดว่าความรักครั้งนี้ก็ดีของมัน แต่โดไม่อยากกะเกณฑ์ว่าอะไรยังไงต่อ โดสบายๆ มีคิดถึงอนาคตค่ะ แต่มันก็เป็นอนาคต ตอนนี้เอาตรงนี้ก่อน เอาไปทีละวันๆ สมมติถ้าแต่งงานปุ๊บ ก็ต้องมีคนถามถึงสเต็ปต่อไปคือจะมีลูกหรือยัง ตอนนี้ขอเป็นแบบนี้ก่อนค่ะ” ดาราสาวทิ้งท้าย
