เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นักแสดงสาว ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ มาร่วมงานเดิน-วิ่งการกุศล “๙ เพื่อประชา” เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพ่อ ที่โรงพยาบาลศิริราช พร้อมเผยความรู้สึกหลังมาร่วมวิ่งวันนี้ ก่อนอัพเดตอาการบาดเจ็บของแฟนหนุ่ม ‘ตูน บอดี้สแลม’ หลังจบโปรเจ็กต์ “ก้าว #ก้าวคนละก้าว” รับดีใจหลังแฟนหนุ่มลงข้อความขอบคุณเซอร์ไพรส์ผ่านไอจี

1-248-768x447

ก้อย เผยว่า “วันนี้เป็นเกียรติ รู้สึกยินดีอย่างมากที่เราได้มาร่วมวิ่งกับคนไทย และได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งนี้ก้อยร่วมวิ่ง 6 กิโลเมตร แต่เราวิ่งเลยไป 8 กิโลเมตร คือตอนที่ปล่อยตัววิ่ง เราปล่อยตัวพร้อมกับนักวิ่ง 12 กิโลเมตร ระหว่างการวิ่งบรรยากาศมันดีมาก มองไปด้านไหนก็เป็นบริเวณรอบศิริราช มันทำให้เราคิดถึงพ่อตลอดเวลา ระหว่างที่วิ่งเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก็รู้สึกเหมือนแสงสว่างจากพ่อ ก้อยว่านักวิ่งในวันนี้ทุกคนรู้สึกสุขใจอิ่มใจ”

dsc07838

เราได้ชวนพี่ตูนมาร่วมด้วยไหม “บอกค่ะ พี่ตูนก็อยากมามาก แต่ตอนนี้เขาอยู่ต่างจังหวัดเลยมาไม่ได้ คือปกติทุกครั้งเวลาวิ่งก็อยากจะมาวิ่งด้วยกัน แต่ครั้งนี้เรารู้สึกว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เราได้มาวิ่งในบริเวณที่เราได้มานึกถึงพ่อหลวงของเรา มาแสดงความจงรักภักดีกับคนไทยเป็นหมื่นๆ คน เราเลยตัดสินใจว่า งั้นพี่ตูนเดี๋ยวเราขอเป็นตัวแทนเขามาวิ่งให้ และเหรียญที่ได้ก็เป็นเหรียญจากฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดีใจมาก วันนี้ก็จะเป็นการวิ่งที่ระลึกถึงไปตลอด”

ส่วนอาการบาดเจ็บของตูน นักแสดงสาว กล่าวว่า “สภาพร่างกายไม่เป็นอะไรเลยค่ะ คุณหมอนัดไปตรวจเลือดเพื่อเช็กเรื่องการสลายตัวของกล้ามเนื้อ ปรากฎว่าค่าสลายตัวไม่ขึ้น คือขึ้นน้อยมากๆ แบบบุบสลายน้อยมากๆ สำหรับคนที่วิ่งระยะทางไกลขนาดนั้น 400 กิโลเมตร หมอก็แซวว่านี้เป็นมนุษย์เหล็กหรือเปล่า ไอรอนแมนมาก เรารู้สึกว่าเขาคงมีพลังวิเศษในตอนนั้นที่วิ่งไป เลยทำให้ร่างกายเขาไม่เสื่อมมาก”

เรากับพี่ตูนยังคงลงรูปแล้วบอกคิดถึงบรรยากาศ “มันเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึก ทำให้เรารู้ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทำอะไร ครั้งนึงในชีวิตเราลุกขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับสังคม ให้โรงพยาบาลบางสะพาน ถึงแม้มันจะเป็นก้าวแรกของเรา แต่เป็นก้าวที่เรารู้สึกยิ่งใหญ่มาก เพราะสุดท้ายเราไม่ได้ก้าวไปคนเดียว มันมีน้ำใจของคนไทยทุกๆ คนที่ร่วมกันทำให้โครงการนี้สำเร็จไปด้วยดี เราเลยนึกถึงตลอดเวลาคนไทยไม่เคยทิ้งกัน สุดท้ายมิตรภาพระหว่างทางหรือน้ำใจที่เราได้ มันสำคัญกว่าสถิติ หรือ 400 กิโล ที่เราตั้งเป้าหมายไว้”

โครงการต่อไปเราตั้งเป้าไหมว่าจะไปพื้นที่ไหน “หลายคนก็มาบอกว่าอยากให้ไปช่วยที่นั่นที่นี้ เราก็ย้อนกลับมามองดูตัวเองกับพี่ตูน ว่าจริงๆ เราก็เป็นคนตัวเล็กๆ ถ้าไม่ได้แรงกำลัง แรงสนับสนุนจากพี่น้องคนไทยเราก็คงทำไม่ได้ คือระหว่างทางที่เราวิ่ง มีเด็กน้อยคนนึงเอากระปุกออมสินมาให้ ซึ่งเป็นกระปุกที่เขาเก็บไว้ เราเลยเกิดแรงบันดาลใจว่า ถ้าเราทำกระปุกออมสิน หรือเป็นเหมือนกล่องรับบริจาคในโครงการก้าว ให้คนไทยช่วยกันหยอด 5 บาท 10 บาท ต่อคน รวมสะสมไว้ 1 ปี และเราก็เอาไปมอบหรือบริจาคให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน มันก็เป็นการช่วยเหลือที่ยั่งยืนต่อไป เดี๋ยวเราคงจะคุยกับทีมงานว่าจะเริ่มต้นกันยังไง เพราะเราคงไม่สามารถวิ่งไปในทุกๆ ที่ได้ แต่เราตั้งใจว่าการวิ่งนี้อยากจะทำให้ต่อเนื่อง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มันเกิดขึ้นทุกๆ ปี”

เห็นไอจีที่พี่ตูนโพสต์ขอบคุณเราตลอดระยะเวลา 6 ปีที่อยู่ข้างกัน “ใช่ค่ะ คือตอนแรกยังไม่เห็น เพราะพี่ตูนลงดึก ก้อยหลับไปแล้ว แต่ตอนเช้าตื่นมา มีเพื่อนแคปหน้าจอส่งมาให้ค่ะ ดีใจนะ เซอร์ไพรส์เหมือนกัน เพราะปกติเขาจะไม่ค่อยทำอะไรออกสื่อเท่าไหร่ คือเราสองคนเรารู้กันอยู่แล้วเวลาอยู่ด้วยกัน แต่อะไรที่เป็นการพูดหรือการแสดงออกที่ให้คนอื่นรับรู้ด้วย แทบจะน้อยมาก ลองไปเช็กในไอจีพี่ตูน จะพบว่าลงรูปก้อยปีละครั้ง ซึ่งเราก็ไม่ได้น้อยใจอะไรเลยนะ คือเราเข้าใจธรรมชาติของเขา และเขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว คือพอนานๆ ทีทำ มันก็เลยมีความหมายกับเรามาก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน