‘ป้อน นิพนธ์’ เคลียร์ เมีย2018 ตกม้าตายตอนจบ แจงโฆษณาโผล่เป็นเรื่องธุรกิจ
วันที่ 29 ส.ค. ที่ลานหน้าตึก จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ป้อน-นิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหารช่องวัน 31 นำทีมนักแสดง เข้าพิธีบวงสรวงละคร หน้ากากแก้ว หลังเสร็จสิ้นพิธีได้เผยถึงความสำเร็จของละครเรื่อง เมีย 2018 ที่เพิ่งลาจอไปหมาดๆ พร้อมเคลียร์ถึงกระแสคนดูมองว่าตกม้าตายตอนจบ รวมถึงมีการแทรกโฆษณามากเกินไป
โดย ป้อน เผยว่า “ยินดีเป็นเรื่องปกติ เวลาทำละครดีๆ คนชอบ มีเรตติ้ง แน่นอนเราเป็นคนทำละครไม่ว่าจะช่องไหนก็แล้วแต่ ความยินดีแทนคนทำงานทุกคน ผมดีใจมากๆ เหมือนเห็นคนดูมีส่วนร่วม มีความสุขไปกับมัน สิ่งที่สำเร็จอีกอันนึงให้อะไรกับคนดูมากกว่าละครที่จะเป็นเรื่องผัวเรื่องเมีย และเรื่องการใช้ชีวิตคู่ ถ้าคุณมีแฟนอย่างนี้จะอย่างไร ถ้าคุณมีปัญหาชีวิตแบบนี้คุณจะทำอย่างไร ระหว่างอยู่กับสิ่งที่คุณต้องทน หรือใช้ชีวิตของคุณต่อไป ละครสะท้อนสังคมของคนยุคใหม่ที่เป็นเรื่องของครอบครัว ว่าความชอบหรือการมีตัวตนมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่าละครเมีย 2018 ได้ตอบโจทย์คนดูจริงๆ”
ฉากจบ เมีย2018
คนดูลุ้นมาก ว่าจะมาเผาตึกไหม
“มี (ยิ้ม) คนขู่ว่าถ้าไม่จบ ไม่เป็นไปตามที่ต้องการก็จะทำแบบนี้ ไม่เป็นไรหรอก เราก็ทำดีที่สุด การทำตอนจบเราได้ประชุมกันหลายรอบ มันก็มีได้ทั้งสองทางที่เป็นแบบออริจินัลไปหาสามีและให้อภัย หรือเลือกทางเดินชีวิตตัวเอง เราตกลงกันว่า ตอนที่เราตั้งต้นทำเรื่องนี้ เราทำจากมุมชีวิตของผู้หญิง จะร้อนหรือจะหนาวอะไรก็แล้วแต่ ตัวเราเป็นของเรา คือจะบอกว่า เมีย2018 พูดถึงชีวิตเป็นของเรา จังหวะหนึ่งของชีวิตคุณอาจจะมีความลำบาก จังหวะหนึ่งของชีวิตคุณอาจจะมีความท้อแท้ เพราะท้ายที่สุดชีวิตเป็นของเรา ผมคิดว่าสิ่งที่ละครเมียมันทำงานคือ ทำให้ผู้หญิงกล้าเดินออกมาจากเซฟโซน ผู้หญิงหลายๆ คนอยู่ในเซฟโซนเพราะว่าความกลัวข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ลูกจะมีกินไหม มันเหมือนกับว่าคุณไม่ได้ให้เกียรติกับตัวเอง ยุคนี้การรักตัวเอง กับรักคนอื่นมันต้องรักเท่าๆ กัน เราต้องรักตัวเองเท่ากับที่รักคนอื่น”
ถามเรื่องการใช้เพลงประกอบเอ็มวีมาเต็ม
“ขอบคุณที่อุตส่าห์คอมเมนต์ คือเพลงมันไม่ได้เป็นความตั้งใจ ที่ดูตัดต่อมันมาจากคุณเจี๊ยบ ตอนนี้เขาเขียนเพลงด้วย เขาก็จะจำได้โมเมนต์แบบนี้ เลิฟสตอรี่แบบนี้ของคนต่างๆ เพลงที่จะนำเสนอเน้นว่าจะทำให้ซีนนี้ชัดคืออะไร เพราะว่าเวลาที่เราคุยเป็นเพลงเราจะเข้าใจ อินเนอร์ของปมปัญหาของตัวละคร แล้วมันก็วงเล็บกันอยู่ในบท พอเริ่มอย่างนั้นมันเวิร์ค สถานการณ์ของอรุณาเป็นอย่างนี้ ของธาดาเป็นอย่างนี้ ของใครเป็นอย่างนี้ รูปธรรมมันเลยชัดขึ้น มันเลยตามมาเรื่อยๆ ถ้าเยอะไปขออภัยด้วย เราไม่ได้เจตนา แล้วเพลงที่ใช้มันเป็นเพลงเก่าๆ เป็นของแกรมมี่ซะส่วนใหญ่ เพลงที่ผู้หญิงวัย 40 แล้วรู้จัก น้อยมากที่จะเป็นเพลงใหม่ เพลงใหม่อย่างแก้ม ของซิลวี่คือแต่งใหม่ เพลงอื่นเป็นเพลงเก่าหมดเลย อย่างเพลงระหว่างที่รอเขา นานแล้ว เพลงมันสื่อสารอารมณ์ เพลงมันเป็นเรื่องของความรักในแต่ละโมเม้นท์ ยุคสมัยแล้วแต่สถานการณ์ เราเลือกให้อยู่ในสถานการณ์ มันมีความซับซ้อนของเหลี่ยมอารมณ์ ดีใจแค่ไหน เศร้าแค่ไหน มันไม่ใช่แค่ 1 บวก 1 เป็น 2 เพลงมันจะทำให้ภาพหรือรูปธรรมชัดขึ้น”
ป้อน-นิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหารช่องวัน31
ยืนยันว่าไม่ใช่การใส่เพลงเพื่อยืด
“ไม่ครับ คือในตอนท้ายๆ ผมบอกกับคนตัดต่อว่าอารมณ์ที่คนดูผูกพันเขาอยากอยู่กับตัวละครนะ เหมือนเวลาที่คุณจะตัดสินใจรักหรือเลิก คุณใช้เวลากี่วัน ก็หลายวันถูกไหม หรือคุณจะบอกรักใคร คุณก็ต้องคิดนะ เพราะว่ามันเป็นจังหวะปกติของคน แต่ตอนท้ายๆ มันเป็นอารมณ์ร่วม”
หลายกระแสวิจารณ์ว่า ตอนจบเมีย2018 เหมือนตกม้าตาย ขาดหายความเข้มข้นเหมือนที่ผ่านๆ มา
“มันลงตัวที่สุดแล้ว ถ้ามันเบาเกินไป ก็ต้องขอโทษด้วยแทนทุกๆคนด้วย เนื่องจากว่าสองตอนสุดท้ายมันเป็นการขมวดบทสรุปว่าจะไปทางไหน มันเป็นเรื่องของอารมณ์ มันไม่ใช่แค่ว่าพอเฉลยพล็อตแล้วมันต้องจบเลย พีคในพีคในพีค ละครมันจะจุดพีคของมันไปเรื่อยๆ ตอนจบคืออย่างเดียวว่าตัวละครจะเลือกทางไหน ถ้ายิ่งทำซับซ้อนมันจะดูเหมือนยืด เรื่องมันไม่เหลืออะไรแล้ว มันมีแต่อารมณ์ของนักแสดง ที่มันควรจะอย่างไร เราต้องขอโทษด้วย ทีมงานได้ทำดีที่สุด ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษจริงๆ”
กลัวเรตติ้งตอนจบเบาลงไหม
“ตอนโน่นมัน 6.1 แล้ววันอังคารมันจะมากกว่าจันทร์ คิดว่าน่ามันน่าจะขึ้นแน่นอนเพราะคนไทยชอบดูละครตอนอวสาน และคนอยากรู้จริงๆ ว่าอรุณาจะเลือกใคร คิดว่ามากกว่าตอนอวสาน”
ไท-อิน โฆษณาเยอะ กลัว กสทช. เรียกไหม
“ออ (ยิ้ม) ถ้าเขาถามมาเราก็ต้องตอบไป (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องของธุรกิจ ผมยอมรับ และละครก็ใช้เงินสูง เงินลงทุนสูง สินค้าอยากจะโฆษณา แล้วจะทำอย่างไรให้ดูสมูท เพราะโดยกฏหมายแล้ว คุณโฆษณาได้ไม่เกิน 10 นาที แล้วเราจะทำอย่างไรให้มันกลมกลืนไปกลับเนื้อหา เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของธุรกิจ ถ้ามันไม่กลมกลืนมันเป็นความผิดของเราๆ ทำไม่ดี เราทำให้คนรู้สึกว่ามันไม่กลมกลืนเราน้อมรับ แต่ถามว่ามันมีไหม มันมี เป็นเรื่องปกติ”
สาเหตุหลักๆ โฆษณาเข้าแน่นสองตอนสุดท้าย
“แน่นมากนะครับ(ยิ้ม) ทุกคนมีความสุข คนดูมีความสุข เรามีความสุข ละครที่สำเร็จก็ทำให้มีกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับหรือนักแสดง หรือทีมงานทุกภาคส่วน ความรวมของช่องเอง ถ้าเราทำเนื้อหาที่มันโดน ที่มันไม่ใช่เดิมๆ แบบนี้อีกแล้วคนดูก็เบื่อ คือยุคสมัยเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะคอนเทนส์ของละครหรือเกมส์โชว์ วิธีการนำเสนอข่าว มันต้องตามเท่าทันกับคนดู ไม่ใช่คนดูเหมือน40ปีที่แล้ว”
กับเรตติ้งที่ผ่านมาๆ เป็นไปตามที่คาดไว้ไหม
“มากกว่าคาด เพราะตอนที่ทำได้สัก 3 เราก็พอใจ โดนโมเมตั้มของเรื่องกระแสที่ดีและความลงตัวของทุกๆ อย่าง มา 5 มา 6 มันน่าภูมิใจ ขอบคุณทุกๆเสียง ทุกๆ รีโมทที่กดมาช่องวัน 31 ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ให้กับนักแสดง แทนทุกๆคนด้วย”
เรื่องนี้ต้องมีไปแก้บนไหม
“ไม่ได้บนนะ เราบนด้วยใจกันหมด เราเอาใจมาวางแล้วทำไปด้วยกัน”
