“จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล”

กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง สำหรับ “สายโลหิต” ละครอิงประวัติศาสตร์จากปลายปากกา โสภาค สุวรรณ ที่ บ.ดาราวิดีโอ เคยสร้างความประทับใจไว้ในปี 2538

ครั้งนี้ 7 สีมอบให้ “ดาราวิดีโอ” โดยผู้จัด “หลุยส์”สยาม สังวริบุตร นำมารีเมก และได้ ศัลยา สุขะนิวัตติ์ เขียนบทโทรทัศน์เช่นเคย

คว้าพระเอก “พอร์ช”ศรัณย์ ศิริลักษณ์ รับบท “ขุนไกร” คู่นางเอก “นาว”ทิสานาฏ ศรศึก ในบท “ดาวเรือง” ปะทะบทบาท “อ๊อฟ”ชนะพล สัตยา ที่พลิกรับบทร้าย “หมื่นทิพย์เทศา”

และมีนักแสดง อาทิ แนท-ณัฐชา (แม่หญิงเยื้อน), ดวงดาว จารุจินดา (คุณย่านิ่ม), กอล์ฟ-อนุวัฒน์ (หลวงเทพฤทธิ์อริศัตรูพ่าย), เพลง- กวิตา (ลำดวน), แคนดี้-ด.ญ.สุภาภัสสร์ (ดาวเรือง ตอนเด็ก) ฯลฯ ฝีมือกำกับการแสดงของ “ติ๋ม”เพ็ญลักษณ์ อุดมสิน

ทั้งนี้ หลุยส์-สยาม ผู้กำกับฯ “สายโลหิต” เวอร์ชั่นพ.ศ.2538 ที่เวอร์ชั่นนี้นั่งเก้าอี้ ผู้อำนวยการสร้าง เผยถึงการตีความละครว่า “เวอร์ชั่นพ.ศ.2561 มีการเติมมากกว่า ไม่ได้ตีความอะไรใหม่ เพราะเส้นเรื่องแข็งแรงมาก บทประพันธ์ของคุณโสภาคคลาสสิค รวมถึงบทโทรทัศน์ของคุณศัลยาก็ยากที่ใครจะเขียนแล้วทำให้หนีของเก่าและดีได้ เราจะเพิ่มเติมในสิ่งที่เวอร์ชั่นที่แล้วขาดไปบ้าง เช่น กราฟิกต่างๆ กองทัพทหารให้ใหญ่ขึ้น ทำภาพสมัยโบราณให้ชัดเจนขึ้น ประคองนักแสดงรุ่นใหม่ให้อยู่ในกรอบ เวอร์ชั่นนี้ผมเป็นผู้อำนวยการสร้างก็ไปช่วยเขาในการประคองและดูภาพรวม ถ้าให้ไปกำกับฯ อีกอาจจะหนีของเก่าลำบาก เลยให้ผู้กำกับฯ ใหม่ลองทำดู”

ในส่วนนักแสดงนำ เคาะยากไหมกว่าจะได้ออกมาเป็นเซ็ตนี้ ผู้จัดอธิบายว่า “ถ้าเป็นตัว “ดาวเรือง” ไม่ยาก หน้านาว(ทิสานาฏ) แต่งชุดไทยลอยมาเลย เขามีความชัดมากกับตัวนี้ แล้วพอเวลาเล่นจริงก็ได้ดั่งใจมาก ส่วนตัว “ขุนไกร” เลือกอยู่นาน สุดท้ายลงที่พอร์ช(ศรัณย์) อย่างแรกเป็นเรื่องคิว อันนี้สำคัญ เราต้องการคนที่มาทำงานด้วยเต็มที่และมีเวลาให้”

“แต่ที่ยากที่สุดคือตัว “หมื่นทิพย์” เกรดต้องเป็นพระเอกแต่ต้องเล่นร้าย แล้วใครล่ะที่จะเสียสละมาเล่นให้ หลังคุยกับน้องอ๊อฟ เขาก็บอกว่าแล้วแต่เรา ตรงนี้ต้องขอบคุณน้องอ๊อฟ ดูแล้วไม่ผิดหวัง นึกไว้แค่ไหนแต่เขาทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด ลักษณะหมื่นทิพย์ ภาพความขี้ขลาด หลีผู้หญิงหรือหื่นจะเห็นชัด ต้องบอกว่าอ๊อฟมาสร้างสีสันให้ละครได้ดี”

คาดหวังขนาดไหนกับ “สายโลหิต” เวอร์ชั่น 2561 “คิดว่าคนที่คิดถึงละครพีเรียดสไตล์ดาราวิดีโอที่มีเสน่ห์แบบโบราณ ค่อยๆ ไหลไป รวมกับความน่ารักของบท มีเพลงเพราะๆ และบรรยากาศยุคสมัยก่อน สิ่งเหล่านี้นานแล้วที่ไม่ค่อยได้เห็นในละครบ้านเรา อะไรเหล่านี้กลับมาใหม่ แต่มาในภาพที่สดใสขึ้น”

เสน่ห์ “สายโลหิต” ที่ทำให้คนอยากดูคืออะไร “ถ้าดูจากเปลือกนอก เมื่อพูดถึงสายโลหิต คนจะพูดถึงเรื่องความรักชาติมาก่อน แต่ลึกๆ ละครเรื่องนี้ตัวพระเอกน่ารัก เป็นหนุ่มแน่นอายุ 20 กว่าๆ

ในขณะที่นางเอกเป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่เลย แต่สองคนนี้มีความผูกพันกันมาก่อนโดยไม่มีเรื่องชู้สาวอะไร นึกภาพเด็กผู้หญิงที่ติดพี่ชายคนหนึ่ง ในสายตาของดาวเรือง ขุนไกรคือฮีโร่และยังเป็นผู้ชายและเป็นพี่ชายที่สนิทมาก

ซึ่งความผูกพันนี้ต่อเนื่องมาจนโต จุดที่ความผูกพันเปลี่ยนเป็นความรัก เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนและทุกคนสัมผัสได้ ถ้าสมมติเรามีความรักอย่างนี้เราก็จะอินและยิ้มไปกับมันได้เยอะ แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองคนแยกกันเป็นระยะๆ คือเรื่องสงคราม นอกจากนี้ ในละครเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์บ้านเมือง เรามองว่าละครเรื่องนี้เหมือนหนังรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางสงคราม มันเลยมีความคลาสสิค”

ติดตามชมละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “สายโลหิต” ทุกวันศุกร์ เวลา 20.05 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 7 เริ่ม 22 ก.ย.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน