อลังโขนพระราชทาน 4D พิเภกสวามิภักดิ์
โดย พัชรินทร์ พลายพูลทรัพย์
อลังโขนพระราชทาน : กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ อลังการ แสง สี เสียง ครบครันเช่นเดิมตามแบบฉบับโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทอดพระเนตรการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2561 ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” รอบปฐมทัศน์ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2561 ภายในงานมีบุคคลสำคัญเฝ้าฯ รับเสด็จ และชมการแสดง
การแสดงโขนครั้งนี้นำบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ฉบับต่างๆ อาทิ บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 2 รัชกาลที่ 6 นำมาสอดประสานปรับปรุงการดำเนินเรื่องให้กระชับเหมาะสมกับปัจจุบัน แต่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะการแสดงแบบโขนหลวงไว้อย่างครบถ้วน แบ่งเป็นตอนต่างๆ ได้แก่ องก์ที่ 1 สุบินนิมิต ประกอบด้วย ตอนที่ 1 พิเภกถูกขับ ตอนที่ 2 พิเภกลาชายาและธิดา ตอนที่ 3 เนรเทศ และ องก์ที่ 2 ประกอบด้วย ตอนที่ 1 พบนิลเอก ตอนที่ 2 สวามิภักดิ์ ตอนที่ 3 มณโฑทูลตัดศึก ตอนที่ 4 สนามรบ และ ตอนที่ 5 แก้หอกกบิลพัท
โดยมีฉากไฮไลต์ยิ่งใหญ่อลังการ อาทิ ฉากท้องพระโรง กรุงลงกาที่สวยงามขึ้นด้วยการเพิ่มพระที่นั่งบุษบก ฉากพิเภก ถอดมงกุฎฝากนางตรีชฎาไปคืนทศกัณฐ์ก็ไม่เคยมีมาก่อน ฉากเรือสำเภาโล้ไปปล่อยพิเภกขึ้นฝั่งก็จัดสร้างอย่างวิจิตรตระการตา พร้อมด้วยฉากที่ใช้เทคนิคสมัยใหม่ ทั้งรอก สะลิง แสง สี เสียง และดรายไอซ์ ในแบบ 4D สี่มิติ สร้างความตื่นตาตื่นใจหลายฉากและสร้างความประทับใจให้ผู้ชมตลอดการแสดง
หลังจบการแสดง ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และประธานคณะกรรมการอำนวยการ จัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน พิเภกสวามิภักดิ์ กล่าวว่า “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการแสดงแล้วตรัสชมว่า ฉากสวยงามมากทุกฉาก การแสดงสนุก ดนตรีและเพลงไพเราะ”
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์กล่าวต่อว่า อยากให้ทุกคนมาชมโขนที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการแสดงโขนขึ้นเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เลือกโขนรามเกียรติ์ ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” มาจัดแสดง เพื่อสื่อถึงความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยทุกคนที่มีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” ยังสื่อถึงการรักษาความเที่ยงธรรมสุจริต นำแสดงโดยศิลปินระดับแนวหน้าจากกองการสังคีต กรมศิลปากร, สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และวิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพฯ นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ คณะกรรมการจัดการคัดเลือกนักแสดงตัวเอกรุ่นใหม่ เมื่อปี 2559 ในบทพระ นาง ยักษ์ และลิง
ผู้เข้ารับการคัดเลือกทั้งหมดเป็นนักเรียน นักศึกษา จากวิทยาลัยนาฏศิลป์และสถาบัน การศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมแสดงในครั้งนี้ด้วย
ด้วยท่วงท่า เหลี่ยมโขนที่ดูขึงขัง ท่ารำอ่อนช้อยงดงามตามแบบประเพณีโบราณนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย หลายคนอาจคิดว่าทั้งหมดเป็นนักแสดงชั้นครู แต่เมื่อถอดหัวโขนส่วนหนึ่งคือเยาวชนคนโขน
ฟร้องค์ ปพน รัตนสิปปกร วัย 19 ปี นักศึกษาคณะศิลปศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป์ลพบุรี ผู้รับบท “พิเภก” เช่นกันกับ กาย ญาณวุฒิ ไตรสุวรรณ วัย 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ร่วมบอกเล่าให้ฟังถึงความภาคภูมิใจที่ได้รับบทตัวเอกในครั้งนี้
“ผมร่วมเล่นโขน ตอนโมกขศักดิ์ เมื่อครั้งเรียนอยู่ชั้นม.3 และได้แสดงโขนหน้า พระเมรุเมื่อปีที่แล้วในบทอินทรชิต รู้สึกซาบซึ้งดีใจที่ได้กลับมาแสดงอีกครั้ง อธิบายไม่ถูก ผมเต็มที่ กับการแสดง ทำให้ดีที่สุด ให้คุ้มค่าเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระราชินี ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้รับบทตัวเอกในการแสดงหน้าพระพักตร์” ฟร้องค์บอกเล่า
ก่อนกล่าวถึงโขน กับคนรุ่นใหม่ว่า “จากเดิมคนมองว่าโขนเป็นการเต้นกินรำกิน เด็กวัยรุ่นเพียงกลุ่มน้อยที่สนใจนาฏศิลป์จริงจัง แต่นับจากกระแสออเจ้าตอนนี้คนรุ่นใหม่เริ่มมีทัศนคติใหม่ๆ อยากชมโขน เรามีช่องทางสื่อสารทั้งไลน์และเฟซบุ๊ก วันนี้คือวันที่รอคอยสำหรับผม โขนต้องมีคนดู และถึงแม้จะไม่มีใครดูก็ต้องอนุรักษ์ไว้”
แม้วันนี้โขนยัง ไม่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก แต่ฟร้องค์มองว่าโขนคือคุณค่าของศิลปะไทยที่มีการพัฒนามาตลอด หยั่ง รากลึก และคือมรดกไทย โขนศิลปาชีพยิ่งกว่าโขน 3-4 มิติ ถึงเวลาจะผ่านไปแค่ไหนโขนไทยจักยังคงอยู่ เยาวชนคือผู้สืบลมหายใจโขน
“ผมจะแสดงโขนไปจนกว่าจะเล่นไม่ได้ ผมจะไม่หยุดพัฒนา จะสานต่อลมหายใจของโขนไม่ให้หายไปจากประเทศไทย” ฟร้องค์กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
ร่วมสัมผัสโขนพระราชทาน ผ่านการแสดงอันเป็นมรดกชาติ แสง สี เสียง ความงดงามของฉากในรูปแบบ 4 มิติ สำเภาที่แล่นได้บนเวที หนุมานเหาะเหินตีลังกากลางอากาศ การ “ขึ้นลอย” ที่สร้างความประทับใจในทุกครั้ง รวมถึงเครื่องแต่งกาย ถนิมพิมพาภรณ์ งานปักสะดึงกรึงไหม งานช่างหัวโขน ช่างเงินช่างทอง ศิลปะการแต่งหน้า บทร้อง บทโขน ดนตรีไทยอันแสนไพเราะ “ทางเล่น” ของบทตลกฝ่ายยักษ์ ชั้นเชิง ความตั้งใจและความสามารถของนักแสดงชั้นครูและเยาวชนไทยผู้มีใจรักโขน ในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2561 ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” จัดแสดงระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
สนใจซื้อบัตรเข้าชมที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา โทร.0-2262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com บัตรราคา 420, 620, 820, 1,020, 1,520 และ 1,820 บาท รอบนักเรียน นักศึกษา บัตรราคา 200 บาท (หยุดการแสดงทุกวันจันทร์) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : Khon Performance โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
แม้จะยังไม่ใช่มรดกโลก แต่โขนคือมรดกไทย…ที่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ไม่ควรพลาดชม