วันที่ 16 ม.ค. ที่ ห้องประชุมบุรฉัตร ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ สะพานควาย กันต์ กันตถาวร พิธีกรและพระเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในงาน “จับรางวัลชิงโชคกิจกรรม GSB PromptPay Luvky ID Lucky Price” ถึงเรื่องที่รับบทเกย์ในภาพยนตร์ “รักของเรา The Moments” รวมถึงอัพเดตงานแต่งงานที่แพลนว่าจะเป็นปีนี้

โดย ‘กันต์’ กล่าวว่า “สำหรับหนัง “รักของเรา The Moment” ที่รับบทเป็นเกย์จะเป็นหนังของค่ายทาเลนต์วันครับ วันวาเลนไทน์นี้ก็จะเข้าโรงแล้ว หลายคนจะตกใจว่าทำไมมารับบทเกย์ คือ พยายามจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในเรื่องของการแสดง บางทีการรับบทเดิมๆ ก็รู้สึกเหมือนทำอะไรเดิมๆ ผมอยากลองทำอะไรแปลกใหม่ดูบ้าง พอเขาติดต่อมาให้เล่นก็ลองดู แล้วนักแสดงร่วมก็จะเป็นนักแสดงเกาหลีด้วยเลยรับเล่น คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ทั้งกับตัวเองและคนดูด้วยครับ”

ได้ถามไหมว่าต้องเล่นมากน้อยขนาดไหน พระเอกหนุ่มตอบว่า “ถามครับ บางทีก็ต้องหวงตัวบ้าง แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่เรื่องของ sexuality แต่เป็นเรื่องของความรักและความรู้สึกในการแสดงออกอะไรบางอย่าง บทที่ผมได้รับคือตัวละครได้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี อารมณ์เหมือนไปเรียนต่อเมืองนอกเจอฝรั่งหมดเลยก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับใครยังไงและใช้ชีวิตยังไง แต่ว่าสุดท้ายก็จะมีคนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ได้เคว้งคว้างเลยเกิดเป็นความรู้สึกอะไรขึ้นมากมาย ถามว่ามีฉากเลิฟซีนเยอะไหม อันนี้ต้องไปดูเอง เล่นเองเล่นจริงหมด เพราะผมไม่ค่อยชอบใช้สแตนด์อินอยู่แล้ว ตอนเล่นยอมรับว่าเขินแต่สุดท้ายแล้วมันคือสปิริตของนักแสดง ก่อนตัดสินใจรับบทนี้ก็ได้ปรึกษากับแฟน(พลอย) เขาก็ถามว่าจริงเหรอ เล่นแล้วจะเปลี่ยนใจหรือติดใจหรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่เป็นอะไรเดี๋ยวกินยาพาราฯ ก็หาย(หัวเราะ)”

กลัวว่าเล่นออกมาแล้วคนดูจะไม่เชื่อไหม เพราะว่าด้วยบุคลิกของเราไม่ค่อยแนวนี้เท่าไหร่ กันต์ตอบว่า “จริงๆ อันนี้แหละคือโจทย์ที่ทำให้รับเล่นเพราะส่วนใหญ่ละครที่ผมเคยเล่นมาจะเป็นแนวแอ๊กชั่นดราม่า ซึ่งคนก็จะไม่เคยเห็นผมเล่นบทแบบนี้มาก่อน ถ้าทำให้คนดูเชื่อไม่ได้แสดงว่าสอบตก แต่ถ้าทำให้คนดูเชื่อได้ก็เท่ากับว่าท้าทายตัวเองสำเร็จ ส่วนว่ากลัวคนดูจะติดภาพแนวนี้ไปเลยมั้ย อย่างที่บอกกินยาพาราฯ เดี๋ยวก็หายครับ แต่ยอมรับว่ายากมากจริงๆ แต่ไม่ได้ยากที่บทว่าจะต้องจำได้หรือไม่ได้ แต่ยากในเรื่องของการเป็นตัวละครนั้นๆ ที่ผมไม่เคยรู้จักมันเลย ฉะนั้นกว่าจะทำการบ้านได้ว่าตัวละครนี้ใช้ชีวิตแบบไหนเป็นคนยังไงมันก็ยากแล้ว อีกอย่างในเรื่องของเพศที่สามก็ไม่ได้มีแค่เพศที่สาม แต่มี 3.1 3.1 3.3 3.4 แยกออกไปอีก เลยต้องตีความว่าตัวละครที่เล่นมันอยู่ในจุดไหน เรียกว่ายากที่สุดตั้งแต่เคยเล่นมา”

ถามถึงซีรีส์ “เทวดาตกสวรรค์” ที่เล่นกับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เป็นยังไงบ้าง พระเอกหนุ่ม กล่าวว่า “ตอนนี้ถ่ายเสร็จแล้วกำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดต่อและทำซีจี น่าจะได้ดูกันประมาณกลางปี เรื่องนี้สนุกมากเพราะว่าเทวดาตกสวรรค์เป็นละครรีเมกซึ่งอันเดิมมันเป็นตำนานไปแล้ว เพราะเอามาทำใหม่ก็จะเป็นโจทย์ใหม่ของผมกับพี่ซันนี่คือทำยังไงก็ได้ให้ไม่เหมือนเดิม ฉีกเป็นอีกแบบนึงเลย ของเดิมจะเป็นแบบแนวเพื่อชีวิตดราม่า แต่เวอร์ชั่นนี้จะเน้นฮาแต่ว่าฮาแล้วก็ต้องได้เนื้อหาสาระสอนคนได้ด้วย”

“ร่วมงานกับพี่ซันนี่ก็สนุกสนานดี สนิทกันอยู่แล้วมีโอกาสไปแฮงเอาต์ด้วยกันบ่อยๆ เขาเป็นคนน่ารัก แคร์ความรู้สึกคนอื่นและเป็นนักแสดงที่ดีมากคนหนึ่งของประเทศเลย” กันต์กล่าว

หลายคนมองว่าค่ายเวิร์คพอยท์สนับสนุน ‘กันต์’ อย่างมากทั้งงานพิธีกรและงานแสดง พิธีกรหนุ่มตอบว่า “จริงๆ แล้วอย่างที่เคยบอกไปหลายครั้งว่าผมเป็นคนที่อยากทำงานพิธีกรมาก พอมีโอกาสก็เลือกที่จะทำเลย ส่วนที่คนมองว่าผมเหมือนเป็นโลโก้หรือว่าลูกรักของเวิร์คพอยท์ไปแล้วนั้น ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ อาจจะเป็นด้วยจังหวะมากกว่า ตั้งแต่ที่เริ่มทำจริงๆ แล้วรายการมันติดคือ “ไอ แคน ซี ยัวร์ วอยซ์” แล้วก็มีโอกาสได้มาทำ “เดอะ มาสก์ ซิงเกอร์” รวมถึง “บาว ยัง บลัด” และ “แฟนพันธุ์แท้” ซึ่งมันก็เป็นความภูมิใจเล็กๆ ของผม เพราะว่าดูรายการแฟนพันธุ์แท้มาตั้งแต่ยังตัวกะเปี๊ยก ปัจจุบันได้มีโอกาสมาทำรายการนี้ก็ดีใจแต่ว่าต้องทำการบ้านหนักมาก”

รู้สึกยังไงที่หลายคนมองว่า ‘พี่ตา-ปัญญา’ พยายามจะปั้นกันต์ให้เป็นตัวแทนของเขา พิธีกรหนุ่มกล่าวว่า “ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายแล้วก็ต้องทำงานต่อไปด้วยความเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละ เพียงแต่พี่ตาอาจจะเห็นว่าผมเป็นคนทำงานหนักและตั้งใจทำงานมากในทุกๆ รายละเอียด อีกอย่างในส่วนของงานพิธีกรผมก็จะรับแค่ทางช่องเวิร์คพอยท์ที่เดียวเท่านั้น”

พอมาทำพิธีกรที่ช่องเวิร์คพอยท์เยอะๆ คนเลยมองว่าตอนนี้กันต์มาแทน ‘พี่กฤษณ์'(ศรีภูมิเศรษฐ์)ไปแล้ว พระเอกหนุ่มกล่าวว่า “ไม่มีใครแทนใครหรอกครับ ถามว่าพี่กฤษณ์เขาไม่ได้ทำอะไรเหรอ เปล่าครับ เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เขามีบริษัทตั้ง 5-6 บริษัทที่จะต้องบริหาร ฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องของเวลามากกว่า อีกอย่างที่ผมมีโอกาสได้มาทำพิธีกรที่นี่ก็เพราะว่าพี่กฤษณ์เป็นคนแนะนำมา บอกว่าให้ลองมาคุยดูเพราะว่าผมกับพี่เขาสนิทกัน”

ถามถึงเรื่องแต่งงานว่าใกล้รึยัง กันต์บอกว่า “เคยบอกเอาไว้ว่าแพลนว่าจะแต่งปีนี้แหละ เลยวางไว้ว่าถ้าไม่เป็นช่วงปลายปีนี้ก็คงเป็นต้นปีหน้า แต่ว่าตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ไปขอเขาเลย(หัวเราะ) คือมันไม่ได้เป็นวัยรุ่นกันแล้ว คงจะเป็นการคุยกันมากกว่าว่าจะใช้ชีวิตกันยังไง ยังไม่มีโอกาสได้ไปดูฤกษ์ยามเพราะส่วนใหญ่ผมจะเน้นฤกษ์สะดวกมากกว่า ผมเคยมีโอกาสไปเป็นพิธีกรงานแต่งมาหลายงานมากแล้วก็รู้สึกว่าคนที่เหนื่อยที่สุดคือเจ้าบ่าวเจ้าสาว กว่าจะยิ้มออกคือต้องยิ้มเป็นพันๆ รอบ งานผมเลยอยากได้เสียงหัวเราะมากกว่า กำลังนั่งคุยกับแฟนอยู่ว่าเอายังไงดี หรือว่าจะไม่ต้องแต่งเป็นชุดราตรีมั้ย ใส่ขาสั้นก็ได้แต่ขออย่างเดียวอย่าเป็นรองเท้าแตะ ใจของผมกับแฟนอยากได้เป็นงานเล็กๆ ชิลๆ แต่ด้วยผู้หลักผู้ใหญ่และเพื่อนฝูงแล้วก็คิดว่าไม่น่าจะเล็กได้ครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน