บอย ช็อก! รู้ข่าว อาเปี๊ยก เสียชีวิต ยกเป็นครู-พ่อ ขอบคุณที่ให้โอกาสจนมีทุกวันนี้
บอย ปกรณ์ พระเอกดัง ช็อกหนัก! หลังทราบข่าว เปี๊ยก พิศาล ผู้กำกับคนแรกในชีวิตเสียชีวิตกะทันหัน โพสต์รูปคู่และข้อความไว้อาลัยสุดซึ้ง ยกให้เป็นครูและพ่อ พร้อมกล่าวขอบคุณที่ทำให้ตัวเองมีได้อย่างทุกวันนี้
- วงการบันเทิง สุดอาลัย สูญเสีย เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ฉายา พระเอกตบจูบ เสียชีวิตกะทันหัน
- ครอบครัว เผยนาทีสุดเศร้า เปี๊ยก พิศาล บ่นปวดหลัง-ก่อนน็อก หมอปั๊มหัวใจสุดยื้อ!!
หลังวงการบันเทิงต้องพบกับสูญเสียครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน เมื่อ เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ผู้กำกับและนักแสดงรุ่นใหญ่ วัย 73 ปี เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจวาย เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความโศกเศร้าและแสดงความอาลัยจากคนในวงการบันเทิงเป็นจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นคือ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พระเอกชื่อดัง ซึ่ง ‘เปี๊ยก พิศาล’ เป็นผู้กำกับคนแรกในละครเรื่องแรก “ไฟรักอสูร” ทางช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ.2552 ได้โพสต์รูปผู้กำกับผู้ล่วงลับและข้อความไว้อาลัย “อาเปี๊ยก ครูด้านการแสดงคนแรกของผม ผู้เมตตาผม ผู้ให้โอกาสผม ผู้เปิดเส้นทางผมให้ผมได้มายืนอยู่ตรงนี้ ผมเคยพูดกับอาว่าสำหรับผม อาเปรียบเสมือน อา เสมือนครู เสมือนพ่อคนนึงของผม…เวลาใครเจอผม มักถามผมว่าทำงานกับอาเปี๊ยกเป็นยังไง อาดุไหม โหดรึเปล่า…ถ้าใครที่ได้รู้จัก ได้ทำงานกับอา จะรู้ได้เลยว่า อาเป็นคนน่ารัก ใจดีมาก รักทีมงาน รักพวกพ้อง ใครที่ได้อยู่ใกล้อารักอาทุกคน อากินเผ็ดไม่ค่อยได้ แต่ชอบกินเผ็ด อาชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ชอบแซลมอนแดดเดียว อาชอบนวด ชอบพาผมไปซาวน่า ชอบมวย ชอบฟุตบอล อาขี้ร้อน อาขี้งอน อาโกรธง่ายหายเร็ว อาจะมีความสุขมากเวลาได้อำหรือแกล้งคนอื่น อาเป็นคนให้โอกาสคน อาชอบพาผมไปกินข้าวในที่ๆอาเคยไปสมัยเป็นวัยรุ่น อาชอบสั่งข้าวมาเยอะๆแล้วบังคับให้ผมกิน เวลาอยู่กับสองคนอาชอบเล่าเรื่องเก่าๆสมัยเรียน สมัยเป็นวัยรุ่น สมัยเป็นจิ๊กโก๋ สมัยทำงานเป็นนักแสดง เล่าเรื่องเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา แต่ผมก็ฟังอาทุกครั้ง อาคือครูที่สอนผมในทุกๆเรื่อง ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต…ตอนผมไปแคสเล่นละครกับอาครั้งแรก ไฟรักอสูร ผมไปเรียนอยู่ที่ออฟฟิศอา2เดือนกว่าๆ ไปทุกวัน อาบอกผมว่า “ถ้ามึงยังเล่นไม่ได้ กูก็ยังไม่เปิดกล้อง ทีมงานเค้าก็ต้องรอมึง กูก็รอมึง แต่กูจะรอ กูจะเอามึงเป็นไอ้แก้ว” ขอบพระคุณครับอา ที่อารอผม ที่อาไม่เปลี่ยนตัวผม ที่เชื่อมั่นในตัวผม ถ้าผมไม่ได้เจออา ผมคงไม่มีวันนี้ อาคือผู้มีพระคุณของผม และผู้มีพระคุณของใครอีกหลายๆคน ผมขอให้อาหลับให้สบาย มีความสุขอยู่ในภพภูมิที่ดี ผมจะไม่ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้เรียนรู้และซึบซับมาจากอา อาเหนื่อยมามาก พักผ่อนนะครับอา ผมรักอาครับ…ด้วยรักและอาลัย 4/12/61”
ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
จากนั้น “ข่าวสดออนไลน์” ได้โทรศัพท์ไปสอบถามความรู้สึกของพระเอกหนุ่มคนดัง ต่อการจากไปอย่างกะทันหันของ ‘เปี๊ยก พิศาล’ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ตนเพิ่งกลับมาจากอเมริกาเมื่อเช้านี้ มาถึงก็ทราบข่าวว่าอาเปี๊ยกเสียชีวิต รู้สึกช็อกและเสียใจเพราะกะทันหันมาก ก่อนหน้านี้ตนกับโบว์(เบญจวรรณ)เพิ่งคุยกันว่าเดี๋ยวว่างๆ จะนัดกันไปเยี่ยมอาเปี๊ยกกัน หมายถึงว่าไปเยี่ยมทั่วไป เพราะตนเล่นละครเรื่องแรกกับอาเปี๊ยกคือ “ไฟรักอสูร” ซึ่งเรื่องนั้นโบว์ก็เล่นด้วย ตนได้เจออาเปี๊ยกล่าสุดนานเป็นปีมาแล้ว แต่จะโทร.คุยกันเรื่อยๆ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ สำหรับอาเปี๊ยกคือผู้กำกับคนแรกของตนและเป็นคนที่ทำให้ตนมาเป็น “บอย ปกรณ์” อย่างทุกวันนี้ได้ ก่อนจะมาเจออาเปี๊ยกตนเคยได้เรียนแอ๊กติ้งเป็นคอร์สสั้นๆ บ้าง แต่ที่มาเรียนจริงจังเพื่อเล่นละครก็นับว่าอาเปี๊ยกเป็นครูคนแรกของตนทางด้านการแสดง ด้วยความที่อยู่คลุกคลีกับอาเปี๊ยกนานมากก่อนละครจะเปิดกล้องทำให้ได้เรียนรู้ส่วนอื่นด้วยที่ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานอย่างเดียว อาเปี๊ยกเปรียบเหมือนพ่อของตนในวงการบันเทิง รักตนเหมือนลูกคนหนึ่ง สอนทุกอย่าง พาไปโน่นไปนี่ด้วย
พระเอกหนุ่มเล่าถึงการทำงานละครเรื่องแรก “ไฟรักอสูร” กับผู้กำกับผู้ล่วงลับว่า ตอนนั้นวิกกี้(สุนิสา)ที่เป็นนางเอกจะโดนกดดันตอนช่วงถ่ายทำเยอะ แต่ตนจะโดนกดดันมาก่อนเริ่มถ่าย แล้วละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ตนได้เซ็นสัญญากับช่อง 3 คือก่อนหน้านั้นตนมาสมัครเป็นนักแสดงของช่อง 3 แล้วทางช่องก็ส่งตนให้มาลองแคสติ้งกับอาเปี๊ยกดู ถ้าเกิดว่าอาเปี๊ยกเลือกตนถึงจะได้เซ็นสัญญาและเล่นละคร แล้วพออาเปี๊ยกตกลงมาเลือกตน ถ้าจำไม่ผิดตนมาเวิร์กช้อปทุกวันที่ออฟฟิศ ซึ่งอาเปี๊ยกส่งครูมาสอนบ้าง มาสอนเองบ้าง แต่อาเปี๊ยกจะอยู่กับตนทั้งวันไม่ออกไปไหน ในจังหวะนั้นตนรู้สึกเหมือนโดนกดดัน แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไปคือเป็นความเคี่ยวเข็ญมากกว่า
“อาเคี่ยวผมจนกว่าจะได้ ด้วยความที่ตอนนั้นใหม่มาก อาบอกผมว่าถ้าผมยังเล่นไม่ได้ก็จะไม่เปิดกล้อง ทีมงานก็ไม่มีกินเพราะรอผมอยู่เนี่ย แต่อายืนยันว่ายังไงก็จะเอาผมเล่น หลังจากละครออกอากาศไป กระแสตอบรับดีมาก คนชื่นชม และบอกว่าผมเหมือนเป็นทายาทพระเอกตบจูบหรือพระเอกซาดิสม์ของอา เรียกว่าน่าจะเป็นพระเอกตบจูบยุคสุดท้ายที่รุนแรงแบบนั้น” บอย ปกรณ์ กล่าว
สำหรับภาพจำที่มีต่อผู้กำกับคนแรกในชีวิต พระเอกคนดังกล่าวว่า ส่วนใหญ่คนจะนึกว่าอาเปี๊ยกดุ แต่ถ้าใครรู้จักอาเปี๊ยกจริงๆ คือเป็นคนน่ารัก ใจดี และชอบทำให้คนรอบข้างหัวเราะ การหน้าบึ้งของอาเปี๊ยกคือต้องการแกล้งคน ที่สำคัญอาเป็นอาจริงๆ ถ้าเวลาที่ตนหรือใครทำอะไรไม่ดี อาเปี๊ยกก็จะด่าเลย แต่ด่าด้วยความเป็นห่วง อาเปี๊ยกห่วงไม่ใช่แค่เพราะคนนั้นคือคนที่ทำงานด้วย แต่ห่วงเหมือนเป็นคนในครอบครัว
“คำสอนของอาเปี๊ยกที่ผมจำขึ้นใจและนำมาใช้ทุกวันนี้ คือเวลาทำงานหรือเล่นละครอย่าไปห่วงสวยห่วงหล่อ แต่ให้ทำเต็มที่เพราะมาทำงานตรงนี้ไม่ใช่ทำงานเป็นพระเอก แต่ทำงานเป็นนักแสดง ผมคิดอยู่เสมอว่าที่ตัวเองมีทุกวันนี้ได้มาจากอา อาเป็นผู้มีพระคุณของผม อยากขอบคุณอามากๆ ที่ทำให้ผมมีวันนี้ อาเป็นมากกว่าผู้กำกับ แต่เป็นครูและเป็นพ่อของผม วันนี้ก็ขอให้อาพักผ่อน หลับให้สบาย และมีความสุขอยู่ข้างบนครับ” พระเอกคนดังกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ขอบคุณภาพ IG : boy_pakorn
