‘เบลล่า’ชีวิตมาไกล7ปีบนเส้นทางบันเทิง
ปีที่แล้วเป็นปีทอง แรงติดลมบนตั้งแต่ต้นปี จากละคร “บุพเพสันนิวาส” ในบท ‘แม่หญิงการะเกด’ ทำกระแสออเจ้าฟีเวอร์ งานต่างๆ ถาโถมยันท้ายปี และต่อเนื่องถึงปีนี้ สำหรับนางเอกสาวสุดฮอตแห่งปีจอ ‘เบลล่า’ราณี แคมเปน จนพี่ๆ สื่อมวลชน ยกฉายาให้เป็น “นารีปีทอง”
วันนี้เลยขอคุยกับสาวฮอตแห่งปีแบบยาวๆ สบายๆ ทั้งเรื่องงาน ส่วนตัว และความรัก
● ปีที่แล้วเรียกว่าเป็นปีทอง?
เบลล่า – “เรียกว่าทำงานเยอะที่สุดดีกว่าค่ะ ด้วยจากละครบุพเพสันนิวาส แต่จริงๆ ก็มีงานเยอะอยู่เรื่อยๆ แต่ ตรงนี้มันถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กันหมด รวมถึงโอกาสดีๆ หรือความรักที่ทุกคนมอบให้ ให้เรามีแรงทำงาน ทั้งงานอีเวนต์ พรีเซ็นเตอร์ ทุกอย่างเข้ามา อาจด้วยความที่ตอนบุพเพฯ ออนก็ทำงานอยู่ทุกวัน เลยรู้สึกว่ารูทีนของทุกวันค่อนข้างเหมือนเดิม เพียงแต่ทำงานมากขึ้น”
● ตกใจไหม ที่ไปไหนกลายเป็นเบลล่าห้างแตก?
เบลล่า – “พอออกมาได้เจอแฟนๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอขนาดนี้ เป็นโมเมนต์ที่จะจดจำไปตลอด ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ เป็นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด”
● คนรักเยอะขนาดนี้เราต้องดูแลความรู้สึกคนเยอะขึ้น ลำบากไหม?
เบลล่า – “ไม่ลำบากค่ะ เบลรู้สึกว่าคนที่มาหาเราเขาลำบากกว่า ต้องมาเบียดๆ รีบมาก่อนงานจะเริ่ม เห็นพลังของเขาก็รู้สึกเหมือนเขาให้พลังเรากลับคืนมา ยิ่งงานไหนแฟนๆ เยอะจะรู้สึกว่างานสนุก มีแต่รอยยิ้มเสียงกรี๊ด ทำให้ทำงานเกินร้อย ดังนั้น นอกจากจะทำงานที่ต้องทำก็ต้องพยายามหาเวลาให้แฟนๆ ด้วย”
● โครงการปีนี้มีอะไรบ้าง?
เบลล่า – “ตอนนี้มีงานบุญที่จะสมทบทุนสร้างสนามเด็กเล่นและระบบน้ำดื่มสะอาดให้เด็กนักเรียนที่โรงเรียนบ้านหัวถนน จ.นครปฐม ส่วนเงินที่เหลือจะเป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ นี่คือโครงการที่จะเกิดขึ้นปีนี้ จริงๆ ทำบุญทุกปี เห็นว่าอันนี้เป็นความต้องการ เลยอยากทำตรงนี้”
● แล้วงานแสดงปีนี้ล่ะ?
เบลล่า – “ตอนนี้ก็มีละครที่ปิดกล้องไปแล้วคือเรื่อง ‘กรงกรรม’ ต้องยอมรับว่าเหนื่อยทุกเรื่อง และบทเบาๆ ไม่ค่อยมีหรอกสำหรับเบล ช่วงนี้ มีทั้งดราม่า แซ่บ สนุก ซึ่งเรื่องกรงกรรมเป็นมนุษย์ ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง เป็นคนดี แต่เผลอไปทำผิด จะทำให้เห็นทั้งด้านมืดและด้านสว่างของคน เรื่องนี้เรียกว่าตลาดแตก เพราะเล่นกับ พี่ใหม่ เจริญปุระ เป็นคนที่เล่นพลังเยอะมาก และมี เจมส์-จิ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ด้วย แต่เรื่องนี้ไม่ได้คู่กัน และก็มีนักแสดงอีกเยอะมากค่ะ”
● เบลล่าเป็นนางเอกอีกคนที่ใช้พระเอกเปลือง?
เบลล่า – “จะหมุนเวียนกันตลอดค่ะ (หัวเราะ) ที่เจอบ่อยสุดเป็น เจมส์ (จิ) รองมา พี่โป๊ป (ธนวรรธน์) เรื่องใหม่กับพี่โป๊ป เรื่อง ร้อยเล่ห์มารยา ของ พี่นก-จริยา เรื่องประมาณว่าเรากับพระเอกจะแอบกิ๊กกันมาก่อนตั้งแต่เด็กๆ โตมาเราแต่งงานแล้ว แต่สามีเป็นคนไม่ดี เราเป็นคนตรง แข็งๆ เหมือนสร้างความแข็งแรงให้ตัวเอง แต่จริงๆ ข้างในอ่อนแอ เป็นผู้หญิงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ พระเอกจะคอยมาเบรก และมาเป็นทนายคอยช่วยเราในเรื่องต่างๆ เรื่องร้อยเล่ห์มารยาเรียกว่าแซ่บมาก บทสนุก อ่านแล้ววางไม่ลง”
● แล้วเรื่อง “ผู้ใหญ่ลีกับนางมา” ล่ะ?
เบลล่า – “ยังไม่รู้ค่ะ ปีนี้เบลยังไม่มีคิว ปีนี้เบลมี สองเสน่หา ของพี่เจ็ท (ณัฐพงศ์) เล่นกับเคน-ภูภูมิ เป็นแฝด ดีคน ร้ายคน หนักอยู่ค่ะ”
● ได้งานแต่ละครั้งไม่ธรรมดาเลย?
เบลล่า – “ดีใจที่ผู้ใหญ่ไว้ใจและให้โอกาสเราได้รับบทที่ดีและท้าทาย ได้ฝึกฝนพัฒนาตัว ยอมรับเครียดเพราะอยากทำออกมาให้ดี อยากให้เป็นพลังส่งไปให้ คนดู อยากให้คนดูได้ดูอะไรสนุกๆ และเราก็อยากเป็นคาแร็กเตอร์ตัวละครจริงๆ ให้คนรู้สึกเราเปลี่ยนและสนุกไปกับเรื่อง”
● ถ้าการแสดงเต็มสิบให้ตัวเองเท่าไหร่?
เบลล่า – “เบลว่าเบลเริ่มต้นใหม่ทุกเรื่อง เรียนรู้ใหม่หมด ไม่ได้มองว่าตัวเองเก่งขึ้นหรือไปอยู่จุดไหนแล้ว เบลพยายามขอเวิร์กช็อป บางเรื่องยังไปช่วยเขาแคสต์ เพื่อดูว่าเคมีไปด้วยกันได้มั้ย ผลงานคนอาจคาดหวัง ก็จะมีความกดดันเบาๆ แต่เบลเชื่อว่าถ้าทำออกไปเต็มที่เบลจะไม่เสียใจทีหลัง”
● อะไรที่คิดว่าเป็นจุดเด่นที่ผู้ใหญ่ป้อนละครให้จนแทบไม่มีเวลารับงานอื่น?
เบลล่า – “อาจเป็นเรื่องความเหมาะสม เรื่องของคิว เรื่องของเวลา เราอาจจะมีความเข้าใจ เบลเล่นละครมาจำนวนปีไม่เยอะ แต่จำนวนเรื่องปีละ 2 เรื่องตลอด เลยเหมือนมีไฟเครื่องติดตลอด เล่นละคร 7 ปีมีละคร 13-15 เรื่อง ปีละ 2 เรื่อง จะเป็นอย่างนี้ตลอด แต่เราก็แฮปปี้กับมัน”
● เรื่องสุขภาพดูแลยังไง?
เบลล่า – “จะพยายามดูแลเรื่องการพักผ่อนก่อนอันดับแรก พยายามหาของกินที่มีประโยชน์ รวมถึงดูแลเรื่องอารมณ์ ความเครียด พยายามรีแล็กซ์ตัวเอง และด้วยเราอยู่ตรงนี้ต้องดูแลตัวเองค่อนข้างมาก เป็นเรื่องของความมั่นใจ รวมถึงสุขภาพด้วย อย่างออกกำลังกาย ได้ทั้งความแข็งแรง สุขภาพข้างใน ไปทำงานไม่ค่อยป่วย แล้วก็ได้เรื่องรูปร่างภายนอกที่จะใส่อะไรก็จะมั่นใจ”
● เป็นยังไงบ้าง อยู่วงการมา 7 ปี จนมาถึงวันนี้ถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ แล้ว?
เบลล่า – “ถามว่ามาไกลมั้ย ก็มาไกลนะ แต่เส้นทางมันไม่ได้มาง่ายๆ เบลใช้เวลา ใช้ความพยายามอยู่มาก พยายามจะเรียนรู้ตลอด หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องก้าวต่อไป แต่ไม่ได้ว่าเพื่อจะต้องขึ้นไปอยู่จุดไหน แค่รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบตอนเข้าวงการใหม่ๆ อาจจะมีข้ออ้างว่าเพิ่งเข้าวงการ ยังไม่เก่ง แต่พออยู่มาสักพักหนึ่ง ไม่ได้แล้ว เด็กใหม่ก็มี เหมือนเราต้องแอ๊กทีฟตัวเองตลอดเวลา”
● วงการมันเปลี่ยนไปไหม เท่าที่ได้สัมผัสมา 7 ปี?
เบลล่า – “ไม่รู้หรอก เพราะเบลปรับตัวได้ เบลรู้สึกโอเคแล้วก็แฮปปี้ในจุดที่อยู่ อย่างในกองถ่ายอยู่กันเรื่องหนึ่ง 6-7 เดือนเหมือนครอบครัว ก็มีความสุขที่จะออกไปทำงานทุกวัน ไม่เบื่อ เบลโชคดี อย่างทุกๆ วันมันเปลี่ยน เปลี่ยนคนทำงาน บทแต่ละซีนเปลี่ยนอยู่ตลอด”
● เราอยู่จุดสูงสุดอย่างนี้ดึงตัวเองยังไงไม่ให้ไปกับกระแสของมัน?
เบลล่า – “คนรอบข้างด้วยแหละค่ะที่มีส่วน เขามองว่าเบลก็ยังเป็นเบลอยู่ อย่างแฟนคลับเขาไม่ได้อวยหรือจะเชิดชูเรา เขาก็ยังรักที่เบลเป็นเบล ฉะนั้นก็รู้สึกว่าเบลเป็นตัวเอง เบลมีความสุขและแฮปปี้ดี แล้วคนก็รักที่เราเป็นเรา งั้นเราก็เป็นเราสิ จะไปเป็นใครทำไม ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนที่เมื่อก่อนเป็น เพียงแต่เวลาส่วนตัวอาจจะน้อยลงแค่นั้น ซึ่งเบลรู้สึกโอเค ชิลมาก”
● การเป็นดารากับยุคโซเชี่ยลที่รุนแรงแบบนี้ลำบากไหม?
เบลล่า – “ถ้าเรารู้จักกาลเทศะ รู้ว่าควรจะทำอะไรไม่ควรทำอะไร ไม่ยากหรอกค่ะ เพราะเบลก็ใช้ชีวิตปกติ ส่วนสิ่งที่ต้องระวังคือต้องระวังคำพูด สมมติเวลาพิมพ์แคปชั่นเราต้องดูดีๆ หรือเวลาสัมภาษณ์ต้องไตร่ตรองมากขึ้น เพราะบางทีอาจจะสื่อสารผิดพลาด”
● นอกจากเรื่องงาน เรื่องความรักกับหนุ่ม ‘เวียร์-ศุกลวัฒน์’ ก็โดดเด่น?
เบลล่า – “(หัวเราะ) ปกตินะคะ คนอื่นเขาหวานกว่านี้อีก จริงๆ เบลเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่รู้จักกัน เพราะทำงานเยอะมากทั้งคู่ เวลาจะได้เจอกันค่อนข้างน้อย บางคนที่เห็นว่าลงรูปเยอะขึ้น แต่ความจริงประมาณเดิม เพียงแต่เมื่อก่อนไม่ค่อยได้ลงรูปให้คนเห็น ถามว่ามันถึงเวลาหรือเปล่า ก็คงจะมีส่วน แต่คงไม่ได้มากำหนดเวลาว่าจะต้องลงอะไร ก็ทำอะไรให้เป็นธรรมชาติ มีโอกาสได้ไปไหนด้วยกัน จากเมื่อก่อนที่ไม่ค่อยได้ไป ก็ลงรูปไว้เป็นที่ระลึก ถามว่าดูแลกันมากขึ้นมั้ย อาจจะด้วยเรื่องของระยะเวลาซึ่งจากตอนแรกเบลเพิ่งเข้าวงการ แล้วเบลตั้งใจทำงานมาก ตอนนั้นเรียนปริญญาโทด้วย แล้วทุกอย่างมันเสร็จสมบูรณ์แล้ว ณ ตอนนี้อะไรๆ ก็สบายขึ้น และอาจจะเป็นที่มุมมองเหมือนกันด้วย คือสบายใจในสถานะแบบนี้ ไม่มากไปไม่น้อยเกินไป”
● ณ ตอนนี้ดูแลดีขนาดไหน?
เบลล่า – “พี่เขาออกแนวสบายๆ แนวผู้ชายๆ แต่เดี๋ยวนี้ก็ใส่ใจขึ้น”
● ตอนนี้สถานะเรียกว่าคบกัน หรือแฟน?
เบลล่า – “สำหรับตัวเบลไม่ได้มีสถานะให้กัน พี่เขาก็คิดในแง่นี้เหมือนกัน เบลไม่ได้มีตัวคำมากำหนดว่าตอนนี้ไปถึงไหน แค่รู้สึกว่าสถานะไม่ได้บ่งบอกถึงการกระทำ ไม่ได้บ่งบอกความมั่นคงว่าจะคบไปถึงจุดไหน แต่ตอนนี้แฮปปี้แบบนี้ และความถี่ในการเจอกันนับไม่ได้เลย แล้วแต่โอกาส บางทีเดือนหนึ่งได้เจอกันสองชั่วโมง ไปเข้ายิมแล้วก็แยกย้าย เรียกว่ายังคงต้องเอางานเป็นหลักอยู่”
● เอาจริงๆ ไปคลิกกันได้ยังไง ทั้งที่เขาออกเป็นคนกวนๆ?
เบลล่า – “ไม่รู้ว่ามาเจอกันตรงกลางได้ยังไง แต่เบลรู้สึกว่าความคิดอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน แต่ก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เหมือนกัน พอมาเจอกันก็รู้สึกว่าได้เปิดมุมมองมากขึ้น น่าจะรวมถึงตัวพี่เขาด้วยที่น่าจะได้รับอะไรบางอย่างจากเบลที่พี่เขาไม่มี ซึ่งเป็นจุดตรงกลาง พอได้คุยกันก็คุยกันรู้เรื่อง”
● คาดหวังไหมความรักครั้งนี้?
เบลล่า – “เบลไม่ชอบคาดหวัง ปัจจุบันเบลมีความสุขก็โอเค ไม่ไปคิดถึงอนาคตเพื่อให้วันปัจจุบันไม่มีความสุข”
● ปีใหม่นี้ของขวัญที่อยากได้คืออะไร?
เบลล่า – “ตอนนี้แฮปปี้มากแล้ว เอาเป็นสุขภาพก่อน อย่างอื่นมีครบแล้ว ก็อยากจะขอให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรงเพื่อจะได้ทำงานได้เต็มที่ มีแรงมาสร้างสรรค์ผลงานต่อๆ ไปค่ะ”
● แล้วอยากให้ของขวัญปีใหม่อะไรแฟนๆ?
เบลล่า – “พูดยากจังเลย เพราะเบลได้รับจากเขามามาก ไม่รู้เลยว่าคำขอบคุณสักกี่คำถึงจะตอบแทนน้ำใจเขาได้ แต่เอาเป็นว่าเบลสัญญาว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้พวกเขามีความสุขกับผลงานที่เบลตั้งใจให้เขาทุกๆ ผลงานค่ะ”
