‘เอส’เหมาะบทนายตำรวจ จับคู่‘เปรี้ยว’ลง‘สารวัตรใหญ่’ : คอลัมน์เสาร์สด
สารวัตรใหญ่ – เคยสร้างเป็นละครเมื่อ 25 ปีก่อน นวนิยายจากปลายปากกาของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ล่าสุดผู้จัดรุ่นใหม่ ‘เติร์ก’คหบดี กัลย์จาฤก แห่งค่ายดราเมจิก นำมาปัดฝุ่นทำใหม่
คว้าพระเอก ‘เอส’กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ รับบท ‘พ.ต.ต.ใหญ่ เวโรจน์’ หรือ ‘สารวัตรใหญ่’ คู่นางเอกสาว ‘เปรี้ยว’ทัศนียา การสมนุช ในบท ‘คำแพง’ ร่วมด้วยนักแสดง อาทิ ‘วิน’วาทิต โสภา(ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร), ‘ฟ้า’ อิงฟ้า เกตุคำ(มัทนี), ‘กิ๊ฟ’ดราภดา โสตถิพิทักษ์ (อรทัย), ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง(ร.ต.อ.อัครเดช ), สุเมธ องอาจ(เสี่ยจาตุรนต์), ‘ปู’ อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์(ดร.อภิมุข), ‘อาตู่’พงศนารถ ศุภวินศิริ(กำนันฉลองโชค), ‘จิ๊บ’วสุ แสงสิงแก้ว(ผู้ว่าฯ พิเชษฐ์), ‘บิ๊ก’ภุชิสสะ ธนพัฒน์ (นวคุณ) ฯลฯ ผลงานการกำกับฯ ของ ‘สโนวี่’พลชย เมธา
ทั้งนี้ผู้จัด เผยเรื่องราวของสารวัตรใหญ่ว่า “เป็นเรื่องของพันตำรวจตรีใหญ่ เวโรจน์ ที่ก่อนหน้านี้เป็นตำรวจตระเวนชายแดน ทำผลงานโดดเด่นเลยได้รับการทาบทามให้มาดูแล อำเภอพระลาน จังหวัดพระกำแพง เพื่อเป็นรางวัลตอบแทนในคุณความดีในอำเภอพระลาน นอกจากอบายมุขต่างๆ แล้ว ยังมีเจ้าพ่อที่คุมในแต่ละจุด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบ่อน ค้ามนุษย์ หรือขนถ่ายยาเสพติด จุดเด่นเรื่องนี้เป็นละครบู๊ แต่ไม่ได้บู๊ต่อสู้ แต่เป็นบู๊เชือดเฉือนด้วยไดอะล็อก เรื่องคำคม พูดถึงเรื่องเหตุและผล เพราะเป็นเรื่องของอุดมการณ์ เรื่องนี้ทำออกมาไม่ใช่ต้องการจะว่าตำรวจไม่ดี แต่ต้องการพูดถึงตำรวจท่านนึงที่เป็นฮีโร่ อยากตีแผ่ว่าคนทุกวงการมีทั้งคนดีและคนไม่ดี เรื่องนี้เป็นละครยุคปัจจุบัน เพียงแค่เราสมมติอำเภอหนึ่งขึ้นมา มีกลิ่นอายความเป็นต่างจังหวัดมากกว่าสังคมเมือง”
สำหรับการเลือกนักแสดงหลัก ‘เอส–กันตพงศ์’ ที่มารับบท ‘สารวัตรใหญ่’ ผู้จัดกล่าวว่า “ดูรายชื่อนักแสดงช่อง 7 ทั้งหมดที่ผมดู ในใจผมมีพี่เอสคนเดียวเลย ทั้งที่ผมไม่เคยร่วมงานกับเขา แต่ผมเคยดูงานแสดงของเขา ผมว่าพี่เอสเหมาะสุด ไม่ใช่แค่หน้ากล้อง หลังกล้องพี่เอสก็เป็นคนที่พูดจามีเหตุผล มีอุดมการณ์ พอมาเล่นบทนี้กลายเป็นว่าผมเชื่อว่าเขาเป็นสารวัตรใหญ่จริงๆ และเขาสามารถต่อกรกับบรรดานักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ พี่ปู–อนุวัฒน์, พี่สุเมธ องอาจ, อาตู่– พงศนารถ, พี่ปราปต์ปฎล ที่รับบทเจ้าพ่อและนายตำรวจใหญ่ได้ โดยไม่ได้ดูด้อยกว่าเลย”
Advertisement
“ลุกส์สารวัตรใหญ่ที่ผมต้องการ คือเป็นผู้ชายที่ดูมีความเป็นไทย สมาร์ต มีหลักการ เป็นคนตรง และพี่เอสเขาเป็นคนมีความรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องแบบของตำรวจ การทำท่าเคารพ พี่เอสรู้หมด เขาเหมาะมากกับบทตำรวจ แล้วเรื่องนี้ค่อนข้างจะหนักในรายละเอียดเรื่องยศ ชั้น เราทำการบ้านเรื่องชุดหนักมาก แม้กระทั่งชุด ตชด. ซึ่งเป็นฉากเปิดตัวพี่เอสก็เป็นชุด ตชด.จริงๆ อาวุธทุกอย่าง แม้แต่กระสุน ฉากเปิดตัวมีการใช้กระสุนจริงเพื่อให้สมจริง และมีฉากโรยตัวลงมา ซึ่งพี่เอสก็เป็นอยู่แล้ว เกือบทุกฉากพี่เอสเล่นเอง แทบไม่ใช้แสตนด์อิน เขาเป็นนักแสดงที่มีวินัยมากและมีความสามารถที่หลากหลาย”
แล้วบท ‘คำแพง’ ภรรยาของ ‘สารวัตรใหญ่’ ที่แสดงโดย ‘เปรี้ยว–ทัศนียา’ ล่ะ “น้องเปรี้ยวเป็นคนตั้งใจทำงานมาก ทำการบ้านมาค่อนข้างหนัก เทกน้อยมาก ผิดพลาดน้อยมาก บทคำแพงไม่ได้หวือหวา แต่เล่นอย่างไรให้คนดูรู้สึกเชื่อว่าเขาคือหลังบ้านที่แข็งแรงของสารวัตรใหญ่ ต้องเล่นเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจสามี และเป็นคนที่แกร่งจากข้างใน น้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี ข้างนอกดูเรียบร้อย แต่พอถึงเวลาปะทะก็มีอินเนอร์ ที่แข็งแรง เปิดเรื่องมาคู่นี้เป็นสามีภรรยา กันแล้ว แต่ในเรื่องจะมีลูกน้องของสารวัตรใหญ่มาหลงรัก ก็เป็นการวัดใจคำแพงว่าจะพาสารวัตรใหญ่ผ่านวิกฤตได้หรือเปล่า”
นอกจากนี้ยังมีพระนางคู่สองด้วย “ครับ หมวดพิทยาธร แสดงโดยน้องวิน ด้วยคาแร็กเตอร์เขาเป็นคนที่อะเลิร์ตอยู่ตลอดเวลา เป็นคนพูดค่อนข้างเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นว่าเขาเหมาะกับบทพิทยาธรเพราะในเรื่องเขาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจที่เพิ่งจบมา ไฟกำลังแรง วินถ่ายทอดออกมาได้ตรงกับคาแร็กเตอร์นี้ พอมาดูก็เชื่อว่าเขาเหมาะ โดยเรื่องนี้น้องวินเล่นคู่กับน้องอิงฟ้า ซึ่งรับบทเป็นมัทนี ตอนแรกเป็นแม่ชีก่อน ยังค้นหาชีวิตตัวเองไม่เจอว่าอยากจะใช้ชีวิตในทางธรรมหรือว่ายังไง ตอนแรกตัวพิทยาธรกับมัทนีไม่ถูกกัน เป็นคู่กัดด้วยซ้ำ คู่พี่เอสกับเปรี้ยวเป็นคู่ที่ค่อนข้างจริงจัง อุดมการณ์ค่อนข้างสูง แต่คู่วินกับ อิงฟ้าจะเป็นคู่สนุกสนาน เฮฮา เหมือนเอามาเบรกความเครียด”
คนดูได้อะไรจากละครเรื่องนี้ “ละครทุกเรื่องสอนให้คนทำความดี เรื่องนี้จะทำให้เห็นว่าเรื่องไหนถูกต้อง มีให้เลือกว่าต้องเดินด้านไหน สายเจ้าพ่อก็ได้ หรือจะเดินทางสายฮีโร่ก็ได้ สุดท้ายจะรู้ว่าคนที่เลือกเดินทางที่ถูกต้องเดินทางที่ดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรจะเดินตาม เพราะจุดจบของเจ้าพ่อ สุดท้ายไม่เหลืออะไร”
ติดตามชมละคร “สารวัตรใหญ่” ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.05 น. และเสาร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่มอาทิตย์ที่ 13 ม.ค.นี้
