อี๊ฟ พุทธิดา เล่านาทีผ่าคลอด ‘น้องมีบุญ’ ต้อย เศรษฐา เห่อ-ดีใจหลานหน้าคล้าย!

วันที่ 16 ม.ค. ที่ ห้องประชุมบัญชา ล่ำซำ ชั้น6 อาคาร2 โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ดาราสาว อี๊ฟ พุทธิดา ศิระฉายา คุณแม่มือใหม่ พร้อมด้วย ต้น เติมศักดิ์ ศักดาพร สามี ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังให้กำเนิดลูกชายคนแรก ด.ช.ศักดาพร ศิระฉายา หรือ ‘น้องมีบุญ’ ด้วยน้ำหนักตัว 2,265 กรัม ความยาวตัวแรกเกิด 47 เซนติเมตร เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการผ่าคลอดก่อนกำหนด 9 วัน

โดย อี๊ฟ เล่าถึงสาเหตุคลอดก่อนกำหนด ว่า “จริงๆ เรามีแพลนที่จะผ่าคลอดอยู่แล้ว เราดูฤกษ์ไว้เป็นวันที่ 19 ม.ค. แต่คืนนั้นพอดีไม่มีคนอยู่เลย ทั้งคุณพ่อและสามี อยู่กันแค่อี๊ฟกับคุณแม่ และน้องสาวต้น อาการมันเริ่มจากที่มีน้ำผสมเลือดไหลออกมา เป็นสีชมพูจางๆ มาก คือตอนที่เรามาอบรมที่โรงพยาบาลก็ดูแล้วว่า มันไม่ใช่อาการน้ำเดิน เราก็ไม่แน่ใจว่ามีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า และตั้ง 9 วันก่อนจะถึงกำหนด แต่พอรอไปครึ่งชั่วโมง ก็มีอาการมดลูกบีบตัว เราก็ไม่รู้จัก ไม่เคยเป็น แต่เรารู้ว่ามันปวดผิดปกติจากที่เคยปวด รอเป็นชั่วโมงก็ไปปลุกแม่ ถามว่าอาการแบบนี้เราเป็นอะไร แม่ก็บอกไม่รู้เหมือนกัน เลยโทรไปที่โรงพยาบาล ทางนี้ก็แนะนำให้มาโรงพยาบาลเลย คือตอนนั้นเรายังไม่ได้คิดว่าจะคลอด คิดว่าอาจจะเป็นสัญญาณเตือนมากว่า พอมาถึงเขาก็ส่งไปที่ห้องคลอด พยาบาลก็มาบอกว่า ถ้ามีการบีบตัวที่สม่ำเสมอจะขอตรวจปากมดลูก พอตี 4 พยาบาลก็ขอตรวจปากมดลูก ก็ปรากฎน้ำเดินเลยช่วงนั้น คุณหมอบอกว่าประมาณ 7 โมงจะทำการผ่าคลอด ซึ่งจริงๆ เราจะคลอดเองก็ได้แต่ที่ไม่คลอดเองเพราะหัวคิดอะไรไม่ออกแล้ว อาการของการเจ็บท้องทำให้ไม่อยากพูดอะไรเลย ถึงขนาดเอาหัวกระแทกที่กั้นเลย เจ็บมากจริงๆ รักแม่ขึ้นมาเลย เลยทำให้เรามีประสบการณ์ทั้งสองอย่าง เพราะบางคนถ้าผ่าก็จะไม่เจอมดลูกบีบตัวเลย แต่เราได้เจอไปหน่อยนึงอาจจะยังไม่พีคสุด”
ต้น สามี เผยว่า “ผมก็มารู้ตอนที่น้องสาวโทรมาตอนตี 4 ตอนนั้นใจตกตุ๊บ(หัวเราะ) แน่นอนว่าอี๊ฟจะคลอดแล้ว คือเราแพลนไว้แล้วว่าจะคลอดวันที่ 19 ผมก็แพลนไว้ว่าจะเข้าไปในห้องคลอด แล้วต้องตัดสายสะดือให้ได้ เพราะลูกชายคนแรก ตอนนั้นก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน น้ำตาก็ร่วง คิดว่าทำยังไงดีที่จะกลับให้เร็วที่สุด ตอนนั้นอยู่ประจวบฯ ก็เลยให้น้องสาวช่วยหาไฟท์ว่าไฟท์ไหนเร็วที่สุด ทางนี้ก็บอกว่าน่าจะคลอดเลทๆ หน่อย เพราะอี๊ฟเขาบอกว่าจะรอ สุดท้ายตอนอยู่บนเครื่องเปิดดูโทรศัพท์ก่อนที่จะปิดเป็นไฟลท์โหมด น้องสาวก็พิมพ์มาพอดีว่าคลอดแล้วนะ ตอนนั้นพนักงานบนเครื่องก็เดินมาบอกว่าปิดโทรศัพท์ด้วยนะคะ จบเลยตอนนั้น(หัวเราะ) ทำอะไรไม่ได้แล้ว พอมาได้เห็นหน้าลูกก็คิดว่าเขาคลอดออกมาปลอดภัยก็ดีแล้ว(ยิ้ม)”
อี๊ฟ “ตอนแรกก็คิดว่าจะอั้นรอนะคะ แต่มันไม่ได้จริงๆ(หัวเราะ) ตอนแรกเราคิดว่า 7 โมงน่าจะเลทๆ หน่อยน่า เขาอาจจะมาทันพอดีลูกร้องแว๊ก็ได้ ก็ภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้น ซึ่งตอนอยู่ในห้องคลอด คนที่เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนคือน้องสาวพี่ต้น ก็เลยได้มีวิดีโอให้เห็นในไอจี แต่ตอนนั้นบล็อกหลังแล้ว ตัวมันชาไปหมด ไม่รู้สึกอะไรเลย ก็เลยนอนชิลมาก แต่คุณหมอลงมีดก็ไม่รู้สึกอะไรเลย”

ตอนนี้น้องมีอาการยังไงบ้างพราะคลอดก่อนกำหนด
อี๊ฟ “ก็จะมีกลูโคสต่ำ ภาวะน้ำตาลต่ำ แล้วก็อุณหภูมิร่างกายของเขาน้อยไปหน่อย เพราะฉะนั้น 2 วันแรกน้องต้องเข้าตู้อบ เพราะว่าตัวเล็กและตัวเย็น แต่หลังจาก 2 วันก็ปกติดี และมีภาวะตัวเหลืองนิดหน่อย คุณหมอก็ให้ดูอาการโดยการส่องไฟ ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”
เห็นหน้าลูกครั้งแรกรู้สึกยังไง
อี๊ฟ “ความรู้สึกแรกคือได้ยินเสียงเขามากกว่า ตอนได้ยินแว๊แรกรู้สึกว่าเขามาแล้ว ตอนเห็นเขาเราก็ยังง่วงๆ นะ แต่ก็สบายใจที่เห็นเขาสมบูรณ์ พอรู้ว่าสมบูรณ์ดี ปลอดภัยแข็งแรงดี ไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วงลุกขึ้นมา เราก็หลับเลย เพราะว่าให้ยา”
ต้น “สำหรับผมมาถึงตอนเกือบๆ จะ 10 โมงแล้ว เห็นครั้งแรกนี่เกือบยกมือไหว้แล้ว อ้าวพ่อตานี่เอง(หัวเราะ) คือหน้าคล้ายพ่อตามาก อีกอย่างโชคดีที่ตาสองชั้น เพราะผมตาชั้นเดียว เขาตาสวย(ยิ้ม) ส่วนทำไมถึงตั้งชื่อ ‘น้องมีบุญ’ เพราะทางเราตกลงกัน เพราะผมเองก็ชอบ ชื่อเป็นสิริมงคลดี เราก็คิดว่าเราโชคดีมีบุญที่น้องเขามาเกิดเป็นลูกเรา”
อี๊ฟ “และเราก็คิดว่าน้องเขาก็โชคดีมีบุญที่ได้มาเกิดเป็นลูกเราด้วยเหมือนกัน จริงๆ แล้วชื่อนี้มาจากที่ว่าพ่อเขาใช้ชื่อ ต้นบุญ ในไอจีในอะไรต่างๆ แล้วต้นเขาก็ชอบทำบุญ อี๊ฟก็ชอบทำบุญ ทีนี้เราก็ต้องการชื่อไทยที่เป็นชื่อเล่นที่เรียกได้ทุกชาติแล้วไม่เพี้ยน เพราะเดี๋ยวนี้เด็กก็ต้องเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ต้องมีเพื่อนต่างชาติเราก็พยายามหาชื่อที่ไม่มีวรรณยุกต์เพื่อที่เสียงจะได้ไม่เพี้ยนเวลาเรียก อี๊ฟก็เลยบอกว่าชื่อ มีบุญ ก็น่าสนใจนะ พ่อเขาก็ชอบ ก็เลยตั้งกันไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ”
ต้นส่วนชื่อจริงคือ ศักดาพร ซึ่งคือนามสกุลของผมเอง ส่วนนามสกุลเขาก็คือ ศิระฉายา เป็นนามสกุลของภรรยาครับ(ยิ้ม) ก็คือ ด.ช.ศักดาพร ศิระฉายา ครับ
ทำไมถึงมีความคิดตั้งชื่อนี้
อี๊ฟ “เพราะเคยคุยกันตั้งแต่แรกๆ แล้ว ต้องยอมรับว่าบ้านสามีใจดีมาก ทั้งคุณพ่อ คุณแม่สามีใจดีและเปิดกว้างมากๆ คือเราเคยพูดกันว่าถ้ามีหลานสักคนนึง อยากให้ใช้นามสกุล ศิระฉายา สักคนเพราะพ่อต้อย(เศรษฐา ศิระฉายา) ก็สร้างนามสกุลนี้เอาไว้ แต่ก็ไม่มีใครสืบต่อแล้ว เพราะอี๊ฟเป็นคนสุดท้ายและเป็นลูกสาว ก็จะไม่มีคนสืบสกุลแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นลูกชายคนแรกนะคะ แค่คุยกันว่าอยากให้ได้ใช้สักคนนึง ทีนี้พอท้องและรู้ว่าเป็นลูกชายแล้ว ทางคุณพ่อสามีก็บอกว่าคนแรกให้ใช้เลย เพราะว่าเป็นผู้ชาย ก็ขอบคุณค่ะ(ยกมือไหว้)”
ต้น “ต้นเองก็มีน้องชาย อย่างน้อยน้องชายผมก็คงมีลูกแหละ(หัวเราะ) แล้วก็ยังมีน้องสาวด้วย ก็ยังมีตัวช่วยอยู่”
อี๊ฟ “ป่ะป๊าก็เลยบอกว่าคนแรกก็ให้ใช้ได้เลย ทีนี้พอใช้ ศิระฉายา ก็มาตกที่ชื่อจริงว่าจะใช้ชื่ออะไร แต่คุยกันไปคุยกันมาเราก็รู้สึกว่าลูกเป็นหลานคนแรกของทุกคน ก็เลยอยากให้มีอะไรที่เป็นของทั้งสองนามสกุล ก็เลยเป็น ศักดาพร ค่ะ(ยิ้ม)”
ได้อุ้มลูกกันบ้างหรือยัง
อี๊ฟ “อี๊ฟได้อุ้มแล้ว เพราะต้องให้นม ก็กลัวนะ เพราะเขาตัวเล็กมากเลย ตัวก็นิ่มไปหมด แต่ยังไงก็ลูกเรา ถึงกลัวก็ต้องทำ”
ต้น “ผมก็พออุ้มได้ครับ แต่เหงื่อแตกพลั่กๆ เลย(ยิ้ม) เราก็พยายามฟิตตัวเองเพื่อจะมาอุ้มลูกโดยเฉพาะ แต่กลายเป็นว่าพอเขาตัวเล็ก เราก็กลัวว่าจะจับแรงไปหรือเปล่า ที่สำคัญที่สุดคือตรงคอ เพราะคอเขายังไม่แข็ง เกร็งมากครับ(หัวเราะ)”
อี๊ฟ “แล้วพยาบาลก็พาไปสอนให้อาบน้ำ วันแรกอี๊ฟก็ไปอาบ วันถัดไปก็ให้คุณพ่อเขาไปอาบ เพราะเราตกลงกันแล้วว่า อี๊ฟท้อง คุณพ่อเลี้ยง”
ต้น “ก็หัดแล้วครับ หัดพาลูกลงอ่าง(หัวเราะ)”

ปู่-ย่า ตา-ยาย ว่ายังไงบ้าง
ต้น “ปู่ย่าก็เห่อ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนพ่อนี่แหละ(หัวเราะ)”
อี๊ฟ “คุณตาก็ใจจะขาด เพราะตอนนั้นคุณตาไปเยอรมันยังไม่กลับ ก็ไลน์มาตลอดว่าอยากเห็นแล้ว ยิ่งเพื่อนที่มาเยี่ยมทุกคนจะบอกว่าเหมือนตาต้อยๆ ส่วนคุณย่ามาเฝ้าทุกวันค่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนอี๊ฟ ส่วนคุณยายก็ไปๆ มาๆ เพราะที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย ก็จะได้มาเยี่ยมทุกคนกันเต็มๆ คือเมื่อวาน(15ม.ค.) ก็ได้อุ้มถ่ายรูปกัน”
หลังจากนี่ต้องดูแลยังไงบ้าง เพราะช่วงนี้บ้างเรามีฝุ่นละองเยอะ
อี๊ฟ “ก็ต้องรอคุณหมออนุญาตเรื่องออกจากโรงพยาบาลด้วยค่ะ เพราะถ้ายังมีอะไรที่เราต้องกังวลอี๊ฟก็ไม่อยากเทียวไปเทียวมา ก็ตัดสินใจที่จะอยู่จนสุขภาพของเขาเรียบร้อย ทั้งฉีดวัคซีนอะไรด้วย ส่วนที่บ้านก็เตรียมพวกเครื่องกรองฝุ่น กรองอากาศไว้บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่มันกระทันหันนิดนึงก็เลยยังไม่ค่อยเรียบร้อย ซักผ้าตากก็ไม่ได้ ฝุ่นติดอีก ก็คงต้องเตรียมให้เรียบร้อยให้มากที่สุดก่อนค่ะ พวกเครื่องอบผ้า แล้วถึงจะพาน้องกลับบ้านค่ะ”
คุณหมอบอกต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ยสำหรับน้อง
อี๊ฟ “เขาก็จะมีเรื่องของน้ำหนักตัว จริงๆ เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักน้อยนะคะ แต่เป็นเกณฑ์น้ำหนักของเขาตอนอยู่ในท้อง 37 สัปดาห์ คือตามน้ำหนักของเขาเลย เพียงแต่ว่าเขาเกิดเร็ว ก็เลยดูน้อยไปหน่อย แต่โดยสุขภาพทั่วไปของเขาแข็งแรง ร้องเสียงดังและทานเก่งมาก คุณแม่ก็โชคดีมากที่ผ่าก่อนกำหนด แต่ก็มีน้ำนมตั้งแต่วันแรกเลย พอลูกกระตุ้นปุ๊บก็มีเลย โชคดีมาก น้องกินเป็นเลย ถึงแม้ว่าต้องตัดพังผืดใต้ลิ้น เพราะว่าพังผืดอยู่ด้านหน้ามากก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกินเท่าไหร่ เพียงแต่ที่เราตัดสินใจเพราะถ้าเขาโตไปแล้วอาจจะทำลำบาก คุณหมอก็แนะนำให้ทำเลย เพราะถ้าโตไปแล้วเส้นประสาทมันทำงานมากขึ้น เขาจะต้องวางยาสลบในการทำ เราเลยคิดว่าถ้าเด็กๆ เขาทำง่ายก็ทำเลย ตอนนี้ก็ไม่ต้องวางยา เพราะมันนิดเดียวจริงๆ เส้นเลือดมันยังไปเลี้ยงตรงจุดนี้ยังไม่มากนัก มันก็จะใช้เวลาน้อยมาก ตัวอี๊ฟเองก็ไม่มีอะไร มีแค่กรดไหลย้อน เพราะพอผ่าเสร็จก็กินเยอะ(หัวเราะ) ระบบข้างในเราคงปรับตัวไม่ทัน ก็เลยเจอกรดไหลย้อนเล่นงานไปไม่ได้นอนเลย 2-3 วัน”
ของรับขวัญลูกมีหรือยัง
อี๊ฟ “ตัวเองไม่มีค่ะ ใจคิดว่าถ้าเรารับขวัญตอนนี้น่าจะสนองตัวเองมากกว่า ก็มีแต่เตรียมความพร้อมไว้ให้เขา คือของทุกอย่างของเขาเราเตรียมไว้ให้หมดแล้ว และก็อาจจะต้องมีพยาบาลไปช่วยดูแลในเบื้องต้นก่อน แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยม และขอบคุณทุกคนที่มีของมาให้หลาน ของเยอะมากเลย มีบุญมีบุญจริงๆ มีคนรักเยอะมาก มีคนให้ความเอ็นดูกับลูกเยอะมากๆ พี่ๆ บางท่านที่ไม่ค่อยได้เจอกันก็ยังมาหาและเอาของมาให้ถึงที่ เราในฐานะพ่อแม่ก็ดีใจมากๆ อี๊ฟก็ทำเหมือนที่พ่อแม่เคยทำไว้ให้เรา คือทำเกสต์บุ๊คไว้ให้ ทุกคนที่มาก็จะมีรูปติดอยู่ในเกสต์บุ๊ค โตไปเขาจะได้มาอ่าน อี๊ฟเคยอ่านของตัวเองอี๊ฟยังรู้สึกว่ามันน่าซาบซึ้งมากเลยที่เราเกิดมาแล้วมีคนมาหาเรา มาหาพ่อแม่เราเยอะแยะ ก็คิดว่าอันนี้แหละเป็นของขวัญที่พ่อแม่จะได้ให้กับเขาในอนาคต และเป็นสิ่งที่เราย้อนกลับมาทำไม่ได้ (ยิ้ม)”

ด้าน เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์ กล่าวถึงหลานคนแรกว่า “ตอนเห็นหลานครั้งแรกก็ดีใจค่ะ(ยิ้ม) เหมือนลูกเราเลย ไม่รู้สิ รูปหลานที่เห็นรูปแรกเหมือนอี๊ฟเลย แต่วันอื่นเขาก็จะเหมือนคนนั้นคนนี้อยู่”

ส่วน ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา เผยว่า “ตอนนั้นผมอยู่ที่เยอรมัน เพราะกำหนดคลอดเขาวันที่ 19 เราก็คิดว่าวันที่ 14-15 เราก็กลับแล้ว ก็น่าจะทัน แต่พอถึงวันรู้ว่าเขาปลอดภัยดีทั้งแม่ทั้งลูก เราก็สบายใจครับ ยังไงก็ต้องกลับมาเจอ ก็ไม่ถึงกับกระวนกระวายนะ ชินแล้ว(ยิ้ม) แต่ก็คอยถามตลอดว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า เพราะเราก็เคยชินกับเหตุการณ์ตรงนี้มา เพราะตอนยัยอี๊ฟเกิดก็น้ำหนักแค่ 2,100 เอง นี่ยังโตกว่าเลย(หัวเราะ) ส่วนที่คนบอกหลานหน้าเหมือนผม (หัวเราะ)ก็ดีใจนะครับถ้าหลานมีส่วนที่เหมือนเราบ้าง แต่ถามว่าเห่อมั้ย เห่อนะ เหมือนเป็นความสำเร็จอะไรของเราสักอย่าง ซึ่งตั้งแต่เล็กมาเราฝันอยากจะเป็นอะไรเราก็ได้เป็น ฝันว่าจะมีเมียก็มีนะครับ (หัวเราะ) พอมีเมียเสร็จก็ฝันว่าจะมีลูก ก็ได้ลูก ก็ฝันต่อไปว่าเราได้หลานแล้ว ตอนนี้ก็รออยู่ว่าจะฝันได้เหลนมั้ย(หัวเราะ) อายุจะถึงหรือเปล่าไม่รู้ (ยิ้ม)”
หลานใช้นามสกุล ศิระฉายา ด้วย
เศรษฐา “ก็ดีใจครับ ก็เห็นเขาคิดชื่อกันอยู่นานนะครับ เราก็ไม่ค่อยกล้าไปเสนออะไรมาก เพราะมันเป็นชีวิตของเขา ตอนที่อี๊ฟเกิดผมก็ตั้งชื่อเองหมดนะ เราก็อยากให้พ่อแม่เขาได้ร่วมกันตั้งชื่อลูกให้ดีก็แล้วกัน พอเขาบอกว่าพ่อชื่อนี้ดีมั้ย นามสกุลนี้ดีมั้ย เราก็บอกว่าดีมาก(ยิ้ม) อยากจะจูบพ่อมันเหลือเกิน(หัวเราะ) เพราะพ่อเขาเป็นคนคิด เก่งมาก”
อยากได้หลานอีกสักคนมั้ย
อรัญญา “เขากำหนดว่าเขาจะมีอีกนะคะ ก็ดีใจนะ(ยิ้ม)”
เศรษฐา “เขาบอกว่าอยากได้ผู้หญิงอีกสักคนนึง ซึ่งเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ ผมว่าเขายังสุขภาพดีทั้งสองคน แข็งแรง ก็คิดว่าน่าจะมีได้อีกสักคนนึง แต่ก็ไม่ควรจะมีเกินสองคนแล้วล่ะ เลี้ยงกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วเนอะ (ยิ้ม)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน