เป๊ก เปรมณัช เสี่ยงเป็นเก๊าต์ – มั่นใจไม่กระทบแพลนปั๊มทายาท

พิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี เป๊ก เปรมณัช สุวรรณานนท์ เดินขากะเผลกมาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุดใหม่ล่าสุด The Power of Stealth ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงอาการบาดเจ็บที่ขา
โดย เป๊ก เผยว่า “ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่เขาว่าเป็นเก๊าต์(หัวเราะ) อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกเราก็คิดว่าน่าจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ก็เลยลองไปกายภาพก่อน แล้วก็ไปอัลตราซาวด์ แต่ก็ไม่หาย เพราะปกติเราออกกำลังกายบ่อย เตะบอลตลอดเวลา เราไปอัลตราซาวด์โดยใช้เครื่องเสียงช่วยมันก็บรรเทาอาการเจ็บ ก็หายนะ แต่ครั้งนี้ไม่หาย เขาก็เลยลองเช็กดูว่าเป็นอะไร ก็ถามว่าสาเหตุคืออะไร ผมก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันครับ คือผมก็คิดว่าไปวิ่งมาหนึ่งวัน ก็ไม่ได้ไปโดนอุบัติเหตุหนักหรือไปเตะอะไรมา ถ้าเตะก็ต้องจำได้หรือว่าบวม แต่อยู่ดีๆ ไม่กี่วันมันบวมเอง

“จนไปงานแต่งงานของน้องคนหนึ่ง แล้วพอดีเพื่อนพ่อก็มาดูให้ เพื่อนพ่อเป็นหมอประมาณ 3 คน ก็เดินมามองขาที่บวมแดงและร้องพร้อมๆ กันว่า เป็นเก๊าต์แน่ๆ เลยลูก(หัวเราะ) เขาก็เข้ามาวินิจฉัย เข้ามาคุย มาถามว่าโดนอะไรมาหรือเปล่า เขาก็บอกว่าถ้าเกิดไปเตะอะไรมาจริงๆ มันอาจจะมีม่วงหรือบวมขึ้นมา ก็เลยคิดว่ามันจะเป็นเก๊าต์จริงหรือเปล่า อีกวันนึงเลยไปโรงพยาบาล หมอก็บอกว่าน่าจะเป็นเก๊าต์นี่แหละ แต่ถ้าเป็นเก๊าต์จริงๆ ก็ต้องตรวจเลือด แต่นี่ผมยังไม่ได้ตรวจเลือด ปรากฏว่าพอค้นประวัติแล้วเคยมีเจาะเลือดอยู่ กรดยูริกแดง(หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าแนวโน้มน่าจะใช่”

อาการเริ่มจากอะไร ?
“มีวันนึงตื่นมาแล้วรู้สึกว่าทำไมมันบวมขึ้น แดงขึ้น และเรารู้สึกว่าเดินแล้วมันเจ็บขามาก ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ลักษณะเหมือนนิ้วซ้นแล้วต้องเดินกะเผลกๆ มันแปลกๆ มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็นึกว่าเลือดมันไม่ไปหมุนเวียน เพราะอาการอักเสบมันก็ทำให้เลือดคั่ง จนอีกวันมันหนักขึ้นเรื่อยๆ บวมจนเดินไม่ได้เลย แค่ก้าวยกเท้าก็ปวด เอาเท้าลงก็ปวด ชีวิตไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย จากที่เราเคยเป็นคนแอ็กทีฟไปทำงาน จนวันนึงที่เราปวดขนาดเดินไม่ได้ วันนั้นรู้สึกว่าเราจะทำงานไม่ได้เลยหรือเนี่ย และถ้ามันเป็นเก๊าต์จริงๆ พ่อแม่หรือคุณนิวก็ส่งข้อความมาเลยว่า คนเป็นเก๊าต์ต้องงดกินอะไรบ้าง(หัวเราะ)”

ขั้นตอนการรักษาที่หมอแนะนำต้องทำอย่างไรบ้าง ?
“ก็จะมีต่างกัน เขาบอกว่าถ้าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบกับเป็นเก๊าต์กินยาก็จะหายได้ เป็นเก๊าต์ก็จะมีกินยาเฉพาะเก๊าต์ กล้ามเนื้ออักเสบก็จะกินยาลดบวม แก้อักเสบไป ตอนนี้ก็กินยาแล้วก็ช่วยได้บ้าง”

นิว-นภัสสร ภรรยาว่าอย่างไรบ้าง ?
“ภรรยาก็เป็นห่วงครับ ก็ให้ลดละเลิกอาหารหลายๆ อย่าง เช่น พวกสัตว์ปีก ยอดผัก วันก่อนเราคิดว่าจะไปไหว้หลวงพ่อโสธร แต่ก็ไม่ได้ไปไหว้ แล้วก็ไปกินข้าวที่ร้านอาหารริมน้ำ หอยนางรมเป็นจาน แล้วก็มีใบกระถิน ผมก็ซัดหมดคนเดียว นิวไม่ยอมแย่งกิน ก็เลยคิดว่าหรือจะเป็นเพราะยอดผักอันนั้นจริงๆ ที่เราซัดไปเต็มที่ กรดยูริกมันก็เลยเข้าตรงที่ข้อที่อักเสบพอดี อาจจะมีส่วนจากเราพักผ่อนน้อยด้วย ก็เลยเป็นพอดี ตอนนี้ก็เลยต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดีมากขึ้น เพื่อตัวเราเองและเพื่อคนรอบข้างด้วย เท่าที่เห็นตอนเราเป็นก็เลยรู้ว่าเราก็ลำบาก คนรอบข้างเราก็ลำบากเหมือนกัน”

มีผลต่องานที่รับไว้ไหม ?
“ต้องยกเลิกไป 2 งานครับ วันนี้เป็นวันแรกที่กลับมาทำงาน เพราะก่อนหน้านี้มันเดินไม่ได้เลย ก็ต้องขอโทษเขา และเขาก็คงเข้าใจ แต่เขาอาจจะไม่รู้หรอก เราก็เลยต้องโพสต์ไอจีบอกว่า เราเป็นอย่างนี้จริงๆ เราเข้าโรงพยาบาล นั่งรถเข็นจริงๆ นะ เดี๋ยวเขาจะไม่เชื่อก็เลยต้องโพสต์ความอนาถของตัวเองนิดนึง”

หมอบอกว่าต้องกินยาอะไรนานแค่ไหน ?
“หมอบอกว่าก็ทานยาไปก่อนอาจจะสัก 4-5 วัน อาจจะหาย ผมก็งงเหมือนกันว่าเป็นแบบนี้มัน 4-5 วันใช่มั้ย แต่เขาบอกว่ามันเป็นระยะยาว ถ้าเกิดเราไม่ลดอาหาร แต่บางทีถ้าใครลดอาหารก็หายเลย บางทีคนที่เป็นแล้วกินได้ก็มี อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นเราพักผ่อนไม่พอ หรือซัดไก่ไปเป็นถัง อันนั้นอาจจะโดน ก็ต้องจัดระเบียบชีวิตตัวเองใหม่เลยครับ”

แบบนี้จะมีผลต่อการปั้มทายาทไหม ?
“ไม่เกี่ยว ขาไม่เกี่ยว เราก็ทำท่าไม่เจ็บสิ(หัวเราะ) หมายถึงว่ามันจะส่งผลถึงแพลนปั้มลูกมั้ย มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรขนาดนั้นหรอก เพราะว่าเราก็ปรึกษากันอยู่ กำลังจะต้องไปปรึกษาคุณหมอ เมื่อกี้เพิ่งมาจากไปเยี่ยม อีฟ-พุทธิดา คลอดลูก นิวเขาก็คุยกันยาวก็คือจะไปปรึกษาแหละ นอกจากไปปรึกษาหมอแล้ว ก็ปรึกษาคนที่เขาเพิ่งคลอดลูก เขาก็จะแนะนำได้ดีมากเลย ฉะนั้นผมว่าก็คงจะมีแนวทางในการวางแผนผลิตลูกมากขึ้น”

สามารถมีลูกได้เลย ไม่ต้องรอดูโอ้ จิ๋ว-ปิยนุช อนุมัติแล้วใช่ไหม เพราะมันอาจจะมีผลต่องานคู่ของเขา ?
“จะรออะไรล่ะครับ(ยิ้ม) เขาบอกพร้อมเมื่อไหร่ก็ได้ นี่ก็พร้อมแล้วไง ปีนี้จริงจังเลย ขาหายเมื่อไหร่นะทุกท่า(หัวเราะ)”

โรคเกาต์ไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ใช่ไหม ?
“พ่อก็กรดยูริกสูงกว่าผมอีก แต่พ่อก็ไม่เป็นนะ แต่ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับการพักผ่อน อาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอหรือใช้ชีวิตหนักหน่วงเต็มที่ไปหน่อย หลังจากนี้จะกลับมารับงานแล้วครับ และรักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้น เพราะว่าไหนๆ แพลนปีนี้ก็คุยกับอีฟเหมือนกันว่า แฟนเขาจริงๆ ก็ใช้ชีวิตหนักเหมือนกัน ปีนี้ ต้น แฟนเขาก็ตั้งใจทั้งออกกำลังกาย ทั้งอะไรมากขึ้น เหมือนเปลี่ยนตัวเองเลย เล่นกล้าม เล่นทุกอย่าง ออกกำลังกาย 3 วันต่ออาทิตย์ เพื่อจะมีลูก แล้วก็มาจริงๆ ผมว่าการออกกำลังกายก็สำคัญ ปีนี้ก็ตั้งใจว่าจะดูแลตัวเองมากขึ้นครับ(ยิ้ม)”

อินสตาแกรม @peckprem / @new_brandnew_nj

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน