คว้า‘โอม’มาช่องone-เปล่าเตะขาวิก3 นโยบายชัดต้องอิสระ-จับตา‘ชมพู่-แอฟ’
นโยบายชัดต้องอิสระ – พระเอกช่อง 3 ‘โอม’อัชชา นามปาน ข้ามฟากเล่นละครช่อง one ประเดิมลง ละคร “แก้วขนเหล็ก” ส่วน ‘ชมพู่–แอฟ’ อยู่ระหว่างลุ้น ทั้งนี้ ‘ป้อน’นิพนธ์ ผิวเณร ผู้อำนวยการสายงานการผลิตละคร บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เผยว่า
“ที่มีภาพโอม–อัชชา มาฟิตติ้งละครเรื่องแก้วขนเหล็ก ต้องเรียนว่าในละครเรื่องนี้มีพระเอก 2 คน ซี–ศิวัฒน์ คุยไว้นานแล้ว ซึ่งซีจะรับบทในส่วนที่เป็นจอมเมฆินทร์ แต่จะมีพระเอกอีกตัวที่ชื่อวิทวัส ที่ต้องมาไฝว้ กับซี เลยอยากได้พระเอกที่มีน้ำหนักไม่ด้อยไปกว่าซี”
ทราบมาก่อนว่าเขากำลังจะหมดสัญญากับช่อง 3 และจะเป็นนักแสดงอิสระ “ใช่ เพราะถ้าเขาไม่เป็นนักแสดงอิสระ เราทำงานไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่ไหนก็แล้วแต่ จะให้มาสัญญากันไว้ก่อน เพื่ออย่างนั้นอย่างนี้มันลำบาก ถ้าท้ายสุดแล้วเขาไม่ได้อิสระมันก็จะมีปัญหาตามมา”
ละครเขากับทางช่อง 3 กำลังออนแอร์อยู่ แล้วมีข่าวเรื่องเขามาฟิตติ้งกับช่องวัน เหมือนเตะตัดขาช่อง 3 หรือเปล่า “อย่ามองอย่างนั้นเลย เราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการเตะตัดขาและไม่ได้รู้สึกว่าอะไรเลย ผมเชื่อว่าโลกใหม่ในแพลตฟอร์มใหม่ เราควรทำตัวเองให้เป็น เอเยนต์เขา อย่าทำเป็นเจ้าของเขา”
ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเข้าสังกัด “ไม่ เขาเป็นนักแสดงอิสระที่มาร่วมงานด้วยเฉยๆ”
อีกคน ‘ชมพู่–อารยา’ มีข่าวว่าจะมาเล่นกับช่อง one “ต้องอยู่ที่ว่าเขาหมดสัญญาหรือยัง ค่อยคุยกัน ถามว่ามีการทาบทามมั้ย ผมจะซีเรียสเรื่องนี้มากถ้าจะทำ แต่อาจจะมีน้องๆ หรือฝ่ายแคสติ้งที่เขาคุยกันเพราะเขาจะสนิทกับนักแสดง โดยนโยบายยังไงต้องอิสระก่อน จะแอบทำมันไม่น่ารัก”
ส่วนอีกคน ‘แอฟ–ทักษอร’ “แอฟเป็นน้องที่คณะนิเทศฯและสนิทกัน วันนั้นเขามาสวัสดีปีใหม่เลยเจอกัน”
เห็นว่ามีคุยกันว่าเสนอบทแซ่บๆ ให้แอฟ “ไม่ได้เป็นอย่างนั้น อย่างแอฟมันต้องหาที่เหมาะกับเขา ถ้าจะให้เขาเล่นแบบเดิมๆ คนจะเบื่อ ของแอฟเป็นช่วงกำลังคิดกันอยู่ วันนี้เขามีสเตตัสชัดเจนกับโลกใหม่และตัวคาแร็กเตอร์ที่เขาเป็นมันจะต้องไปต่อยังไง คือตัวเขาต้องไปอยู่ในโลกใหม่ในโมเดิร์นคอนเทนต์ ไม่ควรจะคอนเทนต์เก่าๆ”
กับชมพู่ยังไม่แน่ แต่กับแอฟมีลุ้นใช่ไหม “มันยังไม่ถึงไหนนะ เวลาเราคิดเรื่องเราอยากให้เขาและเราแฮปปี้ ไม่ใช่แค่เอาเขามาเล่นเพื่อขายเอเยนซี่ มันเหมือนว่าต้องมองภาพร่วมกัน”
คิดว่าอะไรเป็นตัวดึงดูดนักแสดงเข้ามาร่วมงานกับช่อง one “เป็นวิธีคิดของการทำละคร โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ความสำเร็จเมื่อวานไม่ใช่ความสำเร็จวันนี้ เราทำละครที่เป็นปัจจุบันไม่ใช่ให้คน 40 ปีที่แล้วดู ต้องเข้าใจว่ามันเป็นการสื่อสารกับคนปัจจุบัน ถ้าคุณลืมไม่ลงแล้วมาตั้งต้นใหม่ก็จะเหมือนคนแก่ที่โหยหาอดีต แล้วก็จะมาตีอกชกตัวว่าทำไมไม่มีความสำเร็จ ของแบบนี้อยู่ที่ตัวเราและทัศนคติว่าอย่ายึดอยู่กับอดีต นั่นคือประเด็น”